สุพรรณบุรี-วงจรปิดจับภาพรถปิคอัพลูกชายตำรวจพุ่งลงบ่อน้ำเสียชีวิต..!!

ภาพ-ข่าว ศูนย์ข่าวจังหวัดสุพรรณบุรี

            ที่จังหวัดสุพรรณบุรี วันที่ 2 ก.ค.67 ร.ต.อ.ธนากร แก่นพุทรา พนักงานสอบสวนอู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี ได้รับแจ้งมีรถยนต์ตกลงไปในบ่อน้ำ มีคนมีคนเสียชีวิต ติดอยู่ในรถ ที่บริเวณ สามแยกรางพยอม ถนน 3468 หมู่ 2 บ้านจร้าใหม่ ตำบลบ้านโข้ง จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วยนายมนตรี คำตัน นายกเทศบาลตำบลบ้านโข้ง แพทย์เวร รพ.อู่ทอง พร้อมชุดประดาน้ำ สมาคมจิตอาสาดอกแก้ว
            ที่เกิดเหตุเป็นบ่อดินขนาดกว้างประมาณ 20 x 20 เมตร น้ำลึก 2 เมตร ชุดประดาได้ลงไปสำรวจพบรถยนต์กระบะจมอยู่ในบ่อน้ำ เจ้าหน้าที่กู้ภัย จึงใช้รถยกมาช่วยลากขึ้นจากน้ำใช้เวลา กว่า 1 ชั่วโมงจึงดึงรถขึ้นมาได้ พบเป็นรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รีโว่ แคป สีเทาดำ หมายเลข ทะเบียน ผข 2119 สุพรรณบุรี ตรวจสอบในรถพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 รายทราบชื่อนายอานนท์ ขอสงวนนามสกุล อายุ 37 ปี บ้านอยู่ ตำบลเลาขวัญ อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี สภาพเนื้อตัวเปื่อย มีเข็มขัดนิรภัยคาดอยู่ จึงนำร่างออกมาชันสูตร ไม่พบร่องรอยถูกทำร้ายแต่อย่างใด ในตัวพบเงินสดจำนวนหนึ่ง และล็อตเตอรี่ จำนวนหลายใบ จึงเก็บไว้ให้ญาติ และได้นำร่างส่งชันสูตร ที่ รพ.อู่ทอง อย่างละเอียดอีกครั้ง เบื้องต้นทราบว่าเสียชีวิตเป็นลูกของตำรวจนายหนึ่ง ส่วนมารดา เปิดร้านขายของชำอยู่หน้า สภ.เลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งจะได้ติดตามญาติมาสอบสวน หาสาเหตุก่อนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
            ทางด้าน นายพิเชษฐ์ จันไกร อายุ 32 ปี ชาวบ้านใกล้ที่เกิดเหตุ เล่าว่าช่วงเวลาประมาณตีเกือบตีสี่ขณะกำลังนอนหลับได้ยินเสียงรถชนป้ายกั้นทาง จึงออกมาดูเห็นเพียงแสงไฟรถจมอยู่ในน้ำ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาช่วยเหลือ แต่พบว่าเสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งตรงนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อย มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บประจำ อยากให้หน่วยงานราชการ ติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่าง ป้ายเตือนให้มากขึ้น
           ทางด้านนายมนตรี คำตัน นายกเทศมนตรีตำบลบ้านโข้ง อ.อู่ทอง กล่าวว่าตรงจุดนี้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นประจำ เมื่อ 2-3 ปีก่อน เกิดเหตุรถตกลงไป มีคนตาย 1 เจ็บ 1 มีกรมทางมาแก้ไข แต่ก็เกิดเหตุอีก อยากให้มีการติดตั้งสัญญานไฟกระพริบ ไฟฟ้าส่องสว่างให้สว่างมากกว่านี้ ไม่อยากให้เกิดเหตุสูญเสียมากไปกว่านี้ ซึ่งทาง เทศบาลตำบลบ้านโข้ง จะนำเสาปูน และ ล้อยาง มาทำแผงกั้นให้ชั่วคราว เพื่อป้องกันเหตุในเบื้องต้น ก่อนจะประสานผู้รับผิดชอบบูรณาการหาทางป้องกันอุบัติเหตุต่อไป