สุพรรณบุรี-“ป้ามวล”ดีใจได้เครื่องสูบน้ำคืนหลังตำรวจตามจับได้ยกแก๊ง..!!

ภาพ-ข่าว:ศูนย์ข่าวจังหวัดสุพรรณบุรี

               กรณีมีคนร้ายก่อเหตุลักเครื่องมือการเกษตร เป็นเครื่องสูบน้ำของนางมวล มาลาพันธุ์ อายุ 67 ปี ชาวนา บ้านสะแกย่างหมู หมู่ 9 ตำบลมะขามล้ม อำเภอบางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี ที่ตั้งวิดน้ำเข้านา บริเวณคันคลองกลางทุ่งนา คืนเดียว 2 เครื่อง เหตุเกิดคืนวันที่ 11 มิ.ย.2567 ที่ผ่านมา นางมวล เจ้าของเครื่อง ตั้งรางวัลนำจับคนร้าย หรือไครที่แจ้งเบาะแสจนไปสู่การจับกุมคนร้ายและได้เครื่องสูบน้ำมาคืนทั้ง 2 เครื่อง จะให้รางวัลนำจบเป็นหมูเป็นๆ 1 ตัว หนักกว่า 100 กิโล และจะแถมหมูหันให้อีก 1 ตัว หนัก 25-30 กิโล หากได้เครื่องคืนทั้ง 2 เครื่อง
                ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 3 ก.ค.นางมวล มาลาพันธุ์ อายุ 67 ปี เจ้าของเครื่องสูบน้ำที่ถูกขโมยหายไป ได้รับแจ้งจาก พ.ต.อ.เอกมงคล วิลัยเกษม ผู้กำกับ สภ.บางปลาม้า สามารถติดตามจับคนร้ายที่มาก่อเหตุขโมยเครื่องสูบน้ำของนางมวล ได้แล้ว สามารถยึดของกลางเครื่องสูบน้ำของนางมวล ที่คนร้ายขโมยทั้ง 2 เครื่อง ขอให้นางมวล มารับเครื่องสูบน้ำกลับบ้าน เมื่อนางมวลทราบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปลาม้า จับคนร้ายได้ยกแก๊ง และตามยึดของกลางเครื่องสูบน้ำของนางมวลได้มาทั้ง 2 เครื่อง นางมวลดีใจมากที่ตำรวจตามจับคนร้ายได้และยังตามเครื่องมาคืนทั้ง 2 เครื่องอีกด้วย นางมวลจึงได้ชวนลูกสาวและผู้ใหญ่บ้านเดินทางไปที่ สภ.บางปลาม้า เพื่อขอรับเครื่องสูบน้ำที่ถูกขโมยไปคืน

                 ด้าน พ.ต.อ.เอกมงคล วิลัยเกษม ผู้กำกับ สภ.บางปลาม้า กล่าวว่าหลังรับแจ้งว่ามีเครื่องมือการเกษตรของชาวนาหาย เป็นเครื่องสูบน้ำ จึงได้สั่งการให้กำลังชุดสืบสวน สภ.บางปลาม้า และเจ้าหน้าที่งานป้องกันปราบปราม เร่งสืบสวนหาเบาะแสของคนร้ายเพื่อติดตามจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็ว
                กระทั่งสามารถจับกุมคนร้ายที่มาก่อเหตุและติดตามทรัพย์สินของผู้เสียหายกลับมาได้ในสภาพสมบูรณ์ และส่งคืนเจ้าของได้ทั้ง 2 เครื่อง ส่วนเรื่องที่คุณนางมวล เจ้าของเครื่อง ได้ประกาศให้รางวัลนำจับเป็นหมูน้ำหนัก 100 กว่ากิโล ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ขอรับรางวัลหมู ของผู้เสียหาย เพราะการติดตามจับกุมคนร้าย เป็นหน้าที่ของตำรวจ ที่ต้องทำหน้าที่บำบัดทุกข์บำรุงสุข ให้พี่น้องประชาชนอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามอยากฝากถึงประชาชน เกษตรกรที่ทำนาว่าหากท่านนำเครื่องไปสูบน้ำเข้านาเสร็จแล้ว หากเป็นไปได้ขอให้นำเครื่องกลับบ้านด้วย แต่ถ้าไม่สะดวกก็ขอให้มีคนเฝ้าเครื่อง อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ก็จะปรับวงรอบในการออกตรวจ เพื่อช่วยป้องกันทรัพย์สินของประชาชนอย่างเต็มที่

                 ด้านคุณนางมวล เจ้าของเครื่องสูบน้ำ กล่าวว่าขอขอบใจ เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกท่านที่ช่วยกันติดตามจับกุมคนร้ายและนำทรัพย์สินของประชาชนกลับมาได้ในสภาพที่ครบสมบูรณ์ ซึ่งตนคิดว่าคงจะไม่ได้เครื่องคืนแน่ๆ เพราะส่วนมากแล้วมักจะไม่ได้คืน ซึ่งก็มีหลายคนที่ทราบข่าวว่าตำรวจจับคนร้ายได้และได้ของคืนครบ ต่างพากันถามว่าตนทำยังไงถึงได้ของคืน ตนก็บอกไม่ได้ทำอะไร เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นคนทำ ส่วนหมูที่จะมอบให้นั้น ตนต้องหาทางเอามามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่จับกุมคนร้ายได้อย่างแน่นอน เพื่อเป็นสินน้ำใจและเต็มใจที่จะมอบรางวัลหมูให้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมคนร้าย
                ด้าน ร.ต.ต.ประเสริฐ รัตนจันทร์ หัวหน้าสายตรวจตำบลดอนดอนโพธิ์ทอง อำเภอเมืองสุพรรณบุรี กล่าวว่า หลังทราบว่ามีคนร้ายก่อเหตุลักเครื่องสูบน้ำของชาวนา หลายคืนติดต่อกันได้เครื่องสูบน้ำไปหลายเครื่อง จึงออกสืบสวนหาเบาะแสกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุเพื่อติดตามจับกุม กระทั่งมาพบว่ามีการมั่วสุมที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ตำบลดอนโพธิ์ทอง จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบก็พบบุคคลเป้าหมายจึงคุมตัวมาสอบถามและตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดก็พบมีสารเสพติดในร่างกาย พบมีสารเสพติดในร่างกายจึงสอบสวนขยายผล จับกุมผู้ต้องได้มา 3 คน ประกอบด้วย 1 นายเฉื่อย อายุประมาณ 40 ปีเป็นหัวหน้าแก๊ง 2 นายไก่ อายุประมาณ 40 ปีและนายไอซ์ อายุ 16 ปี เป็นลูกน้อง ให้การรับสารภาพว่าได้ตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์เครื่องสูบน้ำของเกษตรกรในพื้นที่ ตำบลดอนกำยาน อำเภอเมืองคืนเดียวได้ไป 3 เครื่อง จากนั้นในคืนเดียวกันได้ไปก่อเหตุลักเครื่องสูบน้ำของนางมวล ในพื้นที่ตำบลมะขามล้ม อำเภอบางปลาม้า 2 เครื่อง และในคืนถัดไปแก๊งคนร้ายได้ไปก่อเหตุลักเครื่องสูบน้ำของเกษตรกร ตำบลสระแก้ว อำเภอเมืองสุพรรณบุรี ติดต่อกัน 2 คืนได้เครื่องสูบน้ำไปอีก 3 เครื่อง รวมแล้วคนร้ายก่อเหตุ 3 คืนได้เครื่องสูบน้ำไปทั้งหมด 8 เครื่องและได้นำไปขาย ให้พ่อค้ารับซื้อเครื่องเก่าในพื้นที่อำเภอดอนเจดีย์

                เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังติดตามไปตรวจสอบก็พบของกลางเครื่องสูบน้ำที่ถูกลักไปขายในสภาพที่ครบสมบูรณ์ บางเครื่องคนรับซื้อได้ทำความสะอาดพ่นสีใหม่ เตรียมส่งขายต่อ เจ้าหน้าที่จึงยึดของกลางทั้งหมดกลับคืนส่งเจ้าของ ส่วนเครื่องที่คนร้ายลักมาขายนั้น จะได้ราคาตามสภาพเครื่องเก่าก็จะขายได้ตั้งแต่ 5,000-6,000 บาทถ้าสภาพใหม่หน่อยก็จะได้ราคา 7,000-8,000 บาท

               จากการสอบถามนายไก่ หนึ่งในผู้ต้องหาที่ร่วมก่อเหตุเล่าวว่าตนทำหน้าที่ช่วยยกส่วนคนถอดน๊อตตนไม่ทราบ ส่วนหัวหน้าแก๊งคือนายเฉื่อย จะเป็นคนขับรถกระบะมาบรรทุก เครื่องไปขายแล้วนำเงินมาแบ่งให้พอได้เงินก็จะนำไปซื้อยาเสพติดมาเสพและใช้จ่าย สำหรับประวัติของแต่ละคนนั้นโชกโชนโดยเฉพาะนายเฉื่อย เคยถูกจับคดีลักทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ ชิงทรัพย์ และคดียาเสพติด เข้าออกคุกเป็นว่าเล่น อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานก่อนจะดำเนินคดีกับผู้ต้องหาที่ก่อเหตุทั้งหมดรวมถึงคนรับซื้อต่อไป