อยุธยา-วัดเสนาสนารามฯบำเพ็ญกุศลถวายพระราชกุศลแด่เนื่องในโอกาสที่ทรงพระผนวช ครบ 200 ปี
ภาพ – ข่าว นราเอก ตันศิริ : นพดล บำเพ็ญสัตย์
วัดเสนาสนารามราชวรวิหาร จัดพิธีบำเพ็ญกุศลถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จ พระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหามงกุฎพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยาม เทวมหามกุฎวิทยมหาราชเนื่องในโอกาสที่ทรงพระผนวช ครบ 200 ปี
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 6 กรกฎาคม 2567 ที่พระอุโบสถ วัดเสนาสนารามราชวรวิหาร ตำบลหัวรอ อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พระเทพมงคลโสภณ เจ้าคณะภาค 17-18 ธรรมยุต เจ้าอาวาสวัดเสนาสนารามราชวรวิหาร เป็นองค์ประธานในพิธีบำเพ็ญกุศลถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จ พระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหามงกุฎพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยาม เทวมหามกุฎวิทยมหาราชเนื่องในโอกาสที่ทรงพระผนวชครบ 200 ปี นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธาน ฝ่ายฆารวาส พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์จำนวน 10 รูปเจริญพระพุทธมนต์ โดยมี คณะหัวหน้าศาล ทหาร ตำรวจ นางวัชราภรณ์ รุ่งสาคร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา คณะรองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมพิธี
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฎวิทยมหาราช ทรงเป็นพระราชโอรส ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 และสมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี ประสูติเมื่อวันพฤหัสบดี เดือน 11 ขึ้น 14ค่ำ ปีชวด จุลศักราช 1166 ตรงกับวันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ.2347 เมื่อทรงมีพระชนมายุได้ 20 พรรษา ในปี พ.ศ. 2367ได้ทรงผนวชและทรงได้รับสมณนามฉายาจากพระอุปัชฌาชย์ว่า วชิรญาโณ ทรงเจริญในสมณเพศจนถึง พ.ศ.2393 รวมกว่า 26 ปี ทรงขึ้นครองราชสมบัติในวันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2394 มีพระนามว่า”พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหามงกุฎพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว” และทรงได้บูรณะปฏิสังขรณ์ วัดเสื่อ ทั้งวัดจนแล้วเสร็จในปี พ.ศ.2406 และพระราชทานนามใหม่ว่า วัดเสนาสนาราม เป็นวัดธรรมยุติกนิกาย ที่ผ่านมีเจ้าอาวาสที่มรณะภาพรวมทั้งสิ้น 9 รูป และมีพระเทพมงคลโสภณ ปัจจุบันดำรงสมณศักดิ์ เป็นเจ้าคณะภาค 17-18 และเป็นเจ้าอาวาสรูปที่ 10
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฎวิทยมหาราช ทรงเป็นนักโหราศาสตร์ ทรงแต่งตำราทางโหราศาสตร์ที่เรียกว่า “เศษพระจอมเกล้า” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตำราที่ได้รับการยอมรับว่าแม่นยำ และทรงได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติว่าทรงเป็น “พระบิดาแห่งโหราศาสตร์ไทย”