สมุทรปราการ-หนุ่มก่อสร้างไปทวงค่าแรงลูกพี่ จนเกิดการโต้เถียงกันน้องเขยลูกพี่เข้าเคลียร์ปัญหา สุดท้ายคว้ามีดแทงคอ

ภาพ-ข่าว:สุรศักดิ์ / อัญมณี คงสินธ์

            เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 7 กรกฎาคม 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมือง จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุทะเลาะวิวาททำร้ายกันด้วยอาวุธมีด มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ที่บริเวณหลังวัดบางโปรง ตำบลบางโปรง อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน พร้อมด้วยเจ้าหน้าสมุที่กู้ชีพโรงพยาบาลสมุทรปราการ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบนายไพโรจน์(หรือเอ) มูลนิน อายุ 43 ปี มีบาดแผลถูกมีดแทงเข้าที่ด้านหลังต้นคอ แผ่นหลัง แขน ใต้คาง และสีข้าง อาการสาหัสและเสียเลือดมาก เจ้าหน้าที่กู้ชีพให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนเร่งนำส่งโรงพยาบาลสมุทรปราการ ท่ามกลางสายตาของชาวบ้านในละแวกนั้นที่มามุ่งดู
             จากการสอบถาม นางสีเวียง โพธิ์ทิปัดมะ อายุ 62 (ป้าเสื้อลายเสือ) คนนี้เป็นแม่ของผู้ก่อเหตุ เธอบอกว่า ผู้ก่อเหตุ คือ นายพรหมรินทร์(หรือหลุย) กิจปรีชา อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นบุตรชายของตนเอง ก่อนจะเกิดเรื่องขึ้น ตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ ฝ่ายของผู้บาดเจ็บและลูกเขยเขามีปัญหากันมาก่อน เรื่องที่ทำงาน จากนั้น ผู้บาดเจ็บ ก็คือ นาย เอ ได้กลับบ้านไปสักพักกระทั่งย้อนกลับมา ได้มาหาลูกเขยตนเองที่หน้าบ้าน แล้วมีการทวงเงินค่าแรงกัน โดยในเอได้มาต่อว่า และชกต่อยลูกเขยที่หน้าบ้าน ในกล้องวงจรปิดก็เห็น เขามาด่าว่าค่าแรงไม่มีให้ก็เอาเมียไปขายหรือเอาไปจำนำก็ได้เพื่อเอาเงินมาให้เขา และด่าถ้อยคำหยาบคาย ทางลูกเขยก็ด่ากลับ เลยได้ต่อยกัน พอหลังจากนั้นลูกชายก็เลยไปถามฝั่งคนเจ็บว่าต่อยพี่ตนทำไม หลังจากนั้นเลยมีการสู้กัน ฝั่งลูกชายจึงใช้มีดปลอกทุเรียนที่จ้วงแทงดังกล่าว
           เหตุเพราะแค้นที่มาด่าพี่เขย ทางลูกเขยกับคนเจ็บเขาไม่เคยมีปัญหากันมาก่อนเลย ปกติลูกเขยก็ทำรับเหมาก่อสร้างและเวลางานเยอะๆก็จ้างคนเจ็บมาทำงานให้อยู่บ่อยๆ พออีกฝ่ายทิ้งงาน ค่าแรงที่เหลืออยู่ 1,200 บาท ก็เลยไม่ให้ แล้วฝ่ายลูกเขยก็ได้พาคนไปทำแทน ค่าแรง 1,200 ก็เลยจ่ายให้คนนั้นไป เลยมีการทะเลาะกันและต่อยกัน ลูกเขยก็สู้ไม่ได้เพราะอีกฝ่ายตัวโตกว่า พอเขาต่อยเสร็จก็เดินถือมีดยาวมา ตนเลยโทรบอกให้ลูกสาวบอกลูกเขยว่าอย่าออกมาจากบ้าน ฝ่ายคนเจ็บก็ตะโกนด่าตน ตนจึงพูดไปว่าไม่เคารพกันเลยเหรอ จะมาด่าตนทำไม หลังจากนั้นลูกชายตนจึงแค้นว่าเขามาด่าแม่กับพี่เคยจึงเดินไปหาคนเจ็บและมีการต่อยกัน ก่อนลูกชายจะใช้มีดทำร้ายอีกฝ่าย และบ้านก็อยู่ติดกันด้วย หลังก่อเหตุลูกชายได้หลบหนีไปก่อนเจ้าหน้าที่จะเดินทางมาถึง
            จากภาพหลักฐานชิ้นสำคัญที่ทีมข่าวเราได้มา โดยกล้องวงจรปิดภายในบ้านจับภาพช่วงเวลา 19.43 น. วันที่ 7 กรกฎาคม 2567 กล้องจับภาพและเสียง ในขณะที่ นาย เอ หรือนายไพโรจน์ มูลนิน อายุ 43 ปี นายเอ คนนี้ เป็นอดีตคนงานก่อสร้าง ซึ่งนายเอ มีบ้านพักใกล้เคียงกัน ช่วงหัวค่ำที่ผ่านมา นายเอ มาที่หน้าบ้านหลังนี้ ซึ่งเป็นบ้านของพักที่พ่อตาแม่ยาย ของนายเขียด ผู้รับเหมาที่นายเอทำงานด้วย พักอาศัยอยู่ นายเอ มาที่บ้านพักหลังนี้ เพื่อจะมาทวงเงินค่าแรงและมาเคลียร์ค่าแรงพร้อมกับอธิบายให้ฝั่งของพ่อตาแม่ยายรับรู้ หวังเป็นคนกลางไกล่เกลี่ย ระหว่างที่นายเอ กำลังเคลียร์เรื่องที่เกิดขึ้นกับทางฝั่งของพ่อตาและแม่ยายของนายเขียด ปรากฏว่า นายเขียน ซึ่งมีบ้านพักอยู่อีกหลัง พอทราบข่าวว่านายเอมาโวยวายทวงค่าแรงที่บ้านพ่อตาแม่ยาย นายเขียด จึงขี่รถจักรยานยนต์มาหานายเอ พอนาย เขียด ซึ่งเป็นหัวหน้าคนงาน ของนายเอ มาถึงทั้งสองก็เกิดการโต้เถียงกัน ฝั่งของนายเอ อ้างว่ายังค้างเงินนายเอ อยู่อีก 1,200 บาท ฝั่งของ นายเขียด ผู้รับเหมา ก็โต้กลับบอกว่า จะค้าง 1,200 ได้อย่างไร เพราะนายเอมีการเบิกไปบ้างแล้ว โดยมีการโต้เถียงด่าทอกันด้วยถ้อยคำหยาบคาย จังหวะหนึ่ง ภาพจากกล้องจะเห็นว่านายเอ ชกเข้าที่ใบหน้าของ นายเขียนอย่างจัง จนเกิดการต่อสู้กัน และคนในบ้านกรูเข้าห้ามปราบ ทั้งคู่ให้แยกกัน ซึ่งเรื่องราวหน้าจะจบตรงนั้น
           แต่ภาพวงจรปิดอีกมุม ที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านพักของ นายเอ นัก และเป็นจุดเกิดเหตุ ภาพวงจรปิดจะเห็นว่า นายพรหมรินทร์(หรือหลุย) กิจปรีชา อายุ 24 ปี ชายที่สวมเสื้อแขนยาวสีดำกางเกงขาสั้นสีครีม นายหลุย คนนี้ เป็นน้องเขยของนายเขียด นายหลุย ภาพจากกล้องจะเห็นว่า นายหลุย เดินตรงเข้าไปหา นายเอ ที่อยู่ใกล้บ้านพัก เพื่อจะเข้าไปถาม ว่านายเอ ด่าพ่อแม่และชกต่อยพี่เขย นายหลุย ทำไม จังหวะนั้น จึงเกิดการชกต่อยชุลมุนกัน ฝั่งของนายเอตอนแรกมีแค่มือเปล่า ส่วน นายหลุย มีมีดปลายแหลมพกติดมือมาด้วย จากภาพวงจรปิดจะเห็นว่าทั้งคู่กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันพอสมควรและฝั่งของ นายหลุย ซึ่งตัวเล็กกว่าสู้ไม่ได้จึงใช้มีดจ้วงแทงไปหลายครั้งตามร่างกายไม่เว้นแม้แต่ที่ลำคอ จนนายเอเลือดเริ่มไหลออกจำนวนมาก แต่ก็ยังฮึดสู้พยามคว้าไม้ไล่ฟาดนายหลุย จน นายหลุย วิ่งหนีไป
            ในส่วนของ นางสีเวียง โพธิ์ทิปัดมะ บอกว่า อยู่ๆเขาก็มาโวยวายปลากระป๋องกับอะไรป้าไม่รู้เรื่องหรอกไปคุยกันเองมาพูดให้ป้าเวียงฟังมาพูดให้ป้าฟังป้าก็ไม่รู้เรื่องหรอก มันก็โวยวายเอ็งใจเย็นๆ เรียกมาคุยกันเลย ป้าไม่รู้เรื่องหรอก ลูกเขยบอกว่ามันมาอาละวาดที่บ้านป้าแล้วมันส่งคลิปเสียงไปให้ไปให้ลูกเขยกับลูกสาวฟัง ลูกสาวกับลูกเขยก็เลยรีบมาบ้านป้า ลูกเขยอยู่คนละบ้านกับป้า พอเขามาเขาก็พูดเรื่องค่าแรงลูกเขยก็บอกว่าก็มึงเบิกไปหมดแล้วเขาก็ตอบกลับว่าเบิกหมดอะไร งาน 2 งานค่าแรง 4,500 บาท เบิกไปแล้ว 3,000 กว่าบาทมึงเบิกไปหมดแล้ว แต่มันคิดแล้วเบิกไป 3,300 บาท ที่เหลือ 1,200 บาท เมื่อวานจ้างคนไปทำแล้ว เขาตอบมาว่าไปทำ ทำไมเดี๋ยวเขาก็ไปทำ เขาไม่ได้ไปทำงานแต่ค่าแรงเขาได้ออก 1,200 บาทถ้าเกิดเขาไปทำจบแต่เขาทำให้จบมันทำไปแล้วมันก็เบิกไปเราก็ให้มันแบบลูกเขยไม่พอต้องให้มาเบิกที่พ่อตาก็ให้ไปทุกทีหลังจากพูดจบเขาก็ไปลากมีดยาวเดินไปแถวหน้าบ้านหลังใหญ่เพื่อท้าทาย ลูกชายจะไปซื้อน้ำเจอคนชื่อเอ เขาถามด่าพ่อแม่กูทำไหมต่อยพี่เขยทำไหม แค่นั้นเขาลุกมาต่อยลูกชายก่อน แล้วเขาก็ขึ้นค่อมลูกชายแล้วก็ต่อย ลูกชายมีมีดก็เลยแทงไม่ยั้ง แต่ถ้าเขาดึงมีดจากลูกชายได้ลูกชายก็ตายเหมือนกันเพราะเขาตัวใหญ่ลูกชายตัวเล็ก เมื่อคืนน้องไปตรวจร่างกายแล้วไปมอบตัวทางตำรวจให้ประกันตัวกลับมาบ้านเพราะดูในกล้องแล้วไม่ได้หลบหนีถ้ามีปัญหาเดี๋ยวแม่ติดแทนเองน้องไม่หนีไปไหน
             นางอนงค์ น้องสาวของนายเอ เปิดใจกับทีมข่าวว่า คือตอนนี้หมอบอกว่าปอดแตกแล้วก็ใส่สายช่วยระบายเลือดออกมีเลือดออกในปอดแล้วก็มีโดนแทงที่คอแต่ไม่รู้ว่าจะโดนเส้นเลือดใหญ่หรือเปล่าเพราะว่ามันไม่รู้ว่ามันลึกแค่ไหน เมื่อวานสแกนดูแต่ผลยังไม่ออก รอดูอาการตอนนี้ใส่เครื่องช่วยหายใจเพราะกลัวเลือดจะไปอุดตันที่หลอดลมเลยต้องใส่ท่อช่วยพยุงไว้ก่อนตอนนี้ก็ 50 50หมอยังไม่ได้บอกอะไรมากมาย เขาเคยทะเลาะกันแต่เรื่องงานเขาจ้างแต่จ่ายเงินไม่ตรงแล้วก็ไม่จ่ายลูกเขาก็ยังเล็กเขาก็ต้องใช้เงิน อย่าให้เขารับผิดชอบและค่าเสียหาย3 แสน จากเขา ถ้าสมมุติพี่ชายเป็นอะไรไปถ้าเขาเผามันก็ดีไปแต่ถ้าเขาป่วยติดเตียงช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เขาทำงานไม่ได้ใครจะเลี้ยงเมียเขาก็ต้องดูลูก ภาระก็จะตกลงมาที่ตัวตัวหนูคนเดียวเลย เขาก็เห็นกันอยู่ทุกวันก็โตมาด้วยกันเขาน่าจะยับยั้งชั่งใจเขาบอกอารมณ์ชั่ววูบ เรารู้ว่าอารมณ์ชั่ววูบแต่ก็ไม่น่าถึงขั้นต้องแทงกัน ถ้าต่อยกันธรรมดาเรื่องก็จบ เขาเป็นความจำเป็นไปนิดนึงที่ใช้มีดแทง เขาพกมาเขาตั้งใจเจตนาถ้าสู้ไม่ไหวก็จ้วงเลย ถ้าเขาไม่มีเงินเยียวยาให้ก็ให้เขาติดคุกไปเลยเพราะหนูก็ไม่ยอมเพราะหนูก็เห็นพี่ชายหนูทรมานเหมือนกันเขาเดินสบายเดินสะดวกเขาหากินได้แต่พี่ชายตนเขาหากินไม่ได้