ชุมพร-จู่โจมตรวจค้นเรือนจำบางหมาก..หาสารเสพติดในปัสสาวะผู้ต้องขัง ในกิจกรรม Big Cleaning Prison
ภาพ-ข่าว:ประสิทธิ์ ลีฬหคุณากร
วันนี้ (18 ก.ค.67) นายวิทยา เขียวรอด ปลัดจังหวัดชุมพร เป็นประธานในพิธีปล่อยแถว การปฏิบัติการจู่โจมตรวจค้นกรณีพิเศษ กิจกรรม Big Cleaning Prison จู่โจมตรวจค้น และตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะผู้ต้องขังพร้อมกันทั่วประเทศ โดยเรือนจำจังหวัดชุมพร ได้สนธิกำลังหน่วยงานภายนอก ได้แก่ มณฑลทหารบกที่ 44, ตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร, ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 41, หน่วยปฏิบัติการพิเศษ, กองร้อยอาสารักษาดินแดนที่ 1 จังหวัดชุมพร และเจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดชุมพร รวม 210 นาย ดำเนินงานตามภารกิจพิเศษ กิจกรรม Big Cleaning Prison จู่โจมตรวจค้น และตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะผู้ต้องขัง เพื่อขจัดปัญหายาเสพติด เครื่องมือสื่อสาร และสิ่งต้องห้ามภายในเรือนจำ และเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมีความโปร่งใส ณ เรือนจำจังหวัดชุมพร หมู่ 1 ตำบลบางหมาก อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร โดยได้จัดแบ่งกำลังเข้าตรวจค้นเรือนจำจังหวัดชุมพร ซึ่งมีผู้ต้องขังทั้งสิ้น 1,675 คน แบ่งเป็นชาย 1,539 คน หญิง 136 คน โดยการตรวจค้นในครั้งนี้ปรากฏว่า ไม่พบยาเสพติดและโทรศัพท์มือถือ แต่อย่างใด
นางโสภิดา บุญเจริญ นักทัณฑวิทยาชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดชุมพร เปิดเผยว่า ตามที่กรมราชทัณฑ์ มีนโยบายในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และโทรศัพท์มือถือในเรือนจำอย่างเด็ดขาด และได้สั่งการให้เรือนจำทัณฑสถาน ดำเนินการตามนโยบายของกรมราชทัณฑ์ในการกวาดล้างพื้นที่ภายในเรือนจำอย่างจริงจัง เพื่อขจัดปัญหายาเสพติด เครื่องมือสื่อสาร และสิ่งของต้องห้ามภายในเรือนจำ และเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ มีความโปร่งใส จึงได้มีการ บูรณาการร่วมกับหน่วยงานภายนอกในพื้นที่จังหวัดชุมพร ดำเนินการจู่โจมตรวจค้นเรือนจำกรณีพิเศษ อันเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้สังคมภายนอกได้ทราบถึงการรักษามาตรฐานของเรือนจำทัณฑสถาน ที่ได้ประกาศเป็นเรือนจำสีขาว อันหมายถึงเรือนจำที่ปลอดยาเสพติดและโทรศัพท์มือถือ
นายวิทยา เขียวรอด ปลัดจังหวัดชุมพร กล่าวว่า ปัญหายาเสพติดทวีความรุนแรง และมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว การแก้ปัญหายาเสพติดเป็นไปด้วยความยากลำบากหากต้องดำเนินการเฉพาะหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง จึงจำเป็นที่จะต้องอาศัยกำลังและความร่วมมือจากทุกฝ่ายช่วยกระตุ้นรณรงค์เพื่อให้ปัญหายาเสพติดหมดสิ้นไป ยาเสพติดเป็นปัญหาที่ทุกหน่วยงานต้องร่วมกันแก้ไข และจังหวัดชุมพรได้มีการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด ของกลางแต่ละครั้งมีปริมาณมากขึ้น ผู้ต้องหาดังกล่าว ได้ถูกส่งตัวมาคุมขังยังเรือนจำจังหวัดชุมพร
ฉะนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องจู่โจมตรวจค้นเพื่อหายาเสพติด โทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องภายในเรือนจำอยู่เป็นประจำเพื่อเป็นการป้องกันและตัดตอนเครือข่ายผู้ต้องขังจากเรือนจำ และเพื่อไม่ให้มีการลักลอบ หรือมีไว้ภายในเรือนจำอย่างเด็ดขาด รวมไปถึงให้เรือนจำจังหวัดชุมพร เป็นเรือนจำสีขาวอย่างแท้จริง