ชลบุรี-เพจดังโพสต์..บาร์เบียร์พัทยากักขังหน่วงเหนี่ยวพนักงาน..!!

ภาพ-ข่าว:นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี

“เจ้าของร้านแจง แค่อยากให้ทำงานหาเงินจ่ายค่ารถคืน”

         ผู้สื่อข่าวรายงาน เพจดัง อีซ้อขยี้ข่าว 3 ได้โพสต์รูปภาพบาร์เบียร์พร้อมระบุข้อความว่า “ขอความช่วยเหลือ สมาชิกส่งมาค่ะเพื่อนๆใครอยู่พัทยาช่วยดาวหน่อยดาวโดนเจ้าของร้านนี้…………. กักตัวไม่ให้ไปไหน มีพนักงานที่ร้านข่มขู่จะรุมตบดาว ถ้าดาวเป็นอะไรไปเฟสคนชื่อ No…….ya เป็นคนกักตัวดาวใว้ ตอนนี้แฟนดาวจะโอนเงินค่ารถให้ 850 บาท แต่เจ้าของร้านบล้อคเฟสทำให้แฟนติดต่อดาวไม่ได้ เขายึดบัตรประชาชน และกักตัวดาวไว้ ไม่รุ้จะพาไปใหนต่อ ตอนนี้แฟนแจ้งตำรวจและเพจอีซ้อขยี้ข่าวแล้ว หลังโพสต์ไม่ได้ ทำให้มีผู้ใช้เฟสบุ๊คเข้ามาคอมเม้นต์ และแชร์ออกไปเป็นจำนวนมาก” หลังจากที่เพจดังได้โพสต์ข้อความทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ได้นำกำลังเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมเชิญตัวเจ้าของร้านมายัง สภ.เมืองพัทยา เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง
        จากการสอบถาม นางจริยา  อายุ 34 ปี เจ้าของร้าน ได้เล่าว่า เมื่อช่วงบ่ายของ วันที่ 25 กรกฎาคม 2567 น.ส.สุวิมล ได้ทักมาทางเพจเฟสบุ๊ค และโทรมาขอทำงานด้วย แต่ น.ส.สุวิมล ไม่มีเงินค่ารถในการเดินทางมาทำงานจึงจ่ายค่าโดยสาร ให้ น.ส.สุวิมล เดินทางมาจากบางแสน 850 บาท เมื่อมาถึงก็เริ่มทำงาน แต่จู่ๆ น.ส.สุวิมล ได้ขอกลับบ้าน จึงขอยืมโทรศัพท์ของพนักงานในร้านโทรหาแฟนว่าไม่อยากทำงานแล้ว ตนจึงบอก น.ส.สุวิมล ให้หาเงิน 850 บาทมาคืน ซึ่งทั้งสองกลับปฏิเสธว่าไม่มีคืน ทางร้านจึงขอให้ น.ส.สุวิมล ทำงานแลกเงินเพื่อชดใช้ก่อน ซึ่งทางร้านไม่ได้มีการกักขังหน่วงเหนี่ยวตามที่เพจดังลงไว้แต่อย่างใด เพียงแค่อยากได้เงิน 850 คืน ส่วนเรื่องที่ยึดบัตรประชาชนไว้ก็เพื่อที่จะนำบัตรไปทำประวัติพนักงานให้ถูกต้องตามกฎหมาย
           ขณะที่ น.ส.สุวิมล ไชยหงษา อายุ 30 ปี เล่าว่า ตัวเองอยากทำงานและติดต่อมาทางร้าน โดยทางร้านจ่ายเงินค่าโดยสารเป็นเงิน 850 บาท ให้ตนเองจริง แต่ตนเองไม่เคยทำงานประเภทนี้มาก่อน จึงรู้สึกไม่ชอบ ไม่สบายใจที่จะทำต่อ จึงเจรจาขอชดใช้ช่วงสิ้นเดือน แต่ทางร้านไม่ยอมทั้งยังโดนข่มขู่ หากไม่จ่ายจะถูกทำร้ายร่างกาย ตนเองได้ติดต่อกลับหาแฟน ให้หาเงินมาชดใช้แทน แต่แฟนไม่มีเงิน ด้วยความกลัวจึงต้องยอมอยู่กับทางร้าน ส่วนข้อความที่ส่งขอความช่วยเหลือนั้น ตนเองไม่ทราบ
          อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะสอบปากคำทั้งสองฝ่ายอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่ายต่อไป