ประจวบคีรีขันธ์-สภาวัฒนธรรมหัวหิน จัดบรรพชาสามเณร 126 รูป เฉลิมพระเกียรติฯ

ประจวบคีรีขันธ์-สภาวัฒนธรรมหัวหิน จัดบรรพชาสามเณร 126 รูป เฉลิมพระเกียรติฯ

ภาพ-ข่าว:กูลเสวก เสวกวรรณกร

          เมื่อวันที่ 27 ก.ค.67 ที่ศาลาการเปรียญวัดสะพานขี้เหล็ก อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พระครูโอภาสกาญจนธรรม เจ้าคณะตำบลหัวหิน เขต 2 เจ้าอาวาสวัดสะพานขี้เหล็ก ประธานฝ่ายสงฆ์ ในโครงการบรรพชาสามเณรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 มี นายอาชวันต์ กงกะนันทน์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานประจวบฯ นางลิษา อึ้งเห่ง ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอหัวหิน ดร.วิรัตน์ มณีพฤกษ์ รองประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอหัวหิน ประธานโครงการฯ นางยุวนิตย์ ศรศิลป์ ผู้อำนวยการสถานีวิทยุโทรทัศน์การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม นายเจนวิท ผลิศักดิ์ สาธารณสุขอำเภอหัวหิน นางวาสนา ศรีกาญจนา นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน ชะอำ คณะผู้บริหารเทศบาลฯ คณะครู ผู้ปกครอง เยาวชนผู้เข้าร่วมโครงการบรรพชาสามเณรและพุทธศาสนิกชนจำนวนมากร่วมในพิธี โอกาสนี้ เยาวชนผู้เข้าร่วมโครงการฯ ได้ประกอบพิธีขอขมาบิดามารดา ผู้หลักผู้ใหญ่ พร้อมทั้งได้มอบผ้าไตรและประกอบพิธีบรรพชาสามเณร
           สำนักงานอัยการจังหวัดหัวหิน ร่วมกับ สภาวัฒนธรรมอำเภอหัวหิน และ วัดสะพานขี้เหล็ก จัดโครงการบรรพชาสามเณรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยเปิดรับสมัครเด็กและเยาวชนผู้มีความเลื่อมใสศรัทธาในบวรพระพุทธศาสนาและมีความมุ่งมั่นในการปฏิบัติบูชาเพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 มีผู้บรรพชาสามเณรตามโครงการฯ จาก 8 โรงเรียน จำนวนทั้งสิ้น 126 รูป ระหว่างวันที่ 26 ก.ค. – 4 ส.ค.67 รวมเป็นเวลา 10 วัน
          นางลิษา อึ้งเห่ง กล่าวว่า การจัดโครงการฯ ในครั้งนี้ ทำให้เด็กและเยาวชน ผู้ปกครอง และพุทธศาสนิกชน ได้มีส่วนร่วมบำเพ็ญกุศลเพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยผู้เข้าร่วมโครงการฯ จะได้มีโอกาสปฏิบัติตามหลักธรรมของพระพุทธศาสนา และสามารถนำมาปรับใช้และปฏิบัติในชีวิตประจำวัน ส่งผลให้เกิดการประพฤติดี ส่งผลดีแก่สังคมโดยส่วนรวม รู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ห่างไกลยาเสพติด
         ตลอดจนส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาด้านคุณธรรม จริยธรรม และมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อผู้อื่น มีจิตสำนึกเคารพเทิดทูนสถาบันหลักของชาติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วยความจงรักภักดี รวมทั้งได้พัฒนาจิตใจ รักษาศีล ให้เกิดสติ สมาธิ และปัญญา เกิดความรักความผูกพัน ความใกล้ชิดกับวัดและศาสนา และสามารถนำหลักธรรมตามพระพุทธศาสนามาปรับใช้กับชีวิตประจำวันได้

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!