อำนาจเจริญ-แถลงข่าวผลการตรวจยึดยาเสพติด (ยาบ้า) รวม 140,000 เม็ด

ภาพ-ข่าว:ทิพกร หวานอ่อน

             วันนี้ (30 กรกฎาคม 2567) เวลา 16.00 น. ณ บริเวณหน้าที่ทำการตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ อำเภอเมืองอำนาจเจริญ จังหวัดอำนาจเจริญ ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ พร้อมด้วย พลตำรวจตรีมารุต เรืองจินตนา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ พันเอกฐาพล อ้อชัยภูมิ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดอำนาจเจริญ นายเทพรัตน์ ตันตยานนท์ ปลัดจังหวัดอำนาจ เจริญ พันจ่าเอก สุวิน ห้องแซง นายอำเภอชานุมาน
              พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าวการจับกุมคดียาเสพติดของกลางยาบ้า รวม 140,000 เม็ด โทรศัพท์เคลื่อนที่ จำนวน 5 เครื่อง รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้ หมายเลขทะเบียน ขจ 6459 อุบลราชธานี จำนวน 1 คัน รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีขาว รุ่นมิราจ หมายเลขทะเบียน ขฉ 2857 อุบลราชธานี จำนวน 1 คัน รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 ไอ สีแดง-ดำ หมายเลขทะเบียน 2กฎ 2391 อุบลราชธานี จำนวน 1 คัน รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อซูซูกิ สีขาว-ฟ้า หมายเลขทะเบียน 2กญ 9009 อุบลราชธานี จำนวน 1 คัน พร้อมผู้ต้องหา 5 คน
              เหตุเกิดที่ ใต้ต้นไม้ริมถนนระหว่างบ้านเมืองเก่าไปบ้านคำเดือย ต.คำเขื่อนแก้ว อ.ชานุมาน จ.อำนาจเจริญ เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2567 เวลาประมาณ 20.30 น. ต่อเนื่องไปใต้ต้นไม้ริมถนนติดสะพานห้วยหอไตร บ้านหัวขัว ต.เหล่าเสือโก้ก อ.เหล่าเสือโก้ก จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2567 เวลาประมาณ 04.20 น. โดยแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหา ว่า “ร่วมกันจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยมีไว้เพื่อจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน” ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหา ส่งพนักงานสอบ สวน สภ.ชานุมาน จ.อำนาจเจริญ ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
           สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากจากพลเมืองดี ว่าพบรถยนต์กระบะสีดำ ไม่ทราบยี่ห้อ หมายเลขทะเบียน ได้จอดอยู่ที่เกิดเหตุ และมีคนลงมาจากรถยนต์กระบะคันดังกล่าวและนำกระสอบไปไว้ที่ต้นโค่นต้นไม้ริมถนนระหว่างบ้านเมืองเก่าไปบ้านคำเดือย และขับออกจากที่เกิดเหตุมุ่งหน้าเข้าไปบ้านเมืองเก่า หลังจากได้รับแจ้งเจ้าหน้ารวจชุดจับกุมกุมจึงได้ร่วมกันเดินทางไปตรวจสอบ
          เมื่อถึงบริเวณที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจสอบบริเวณดังกล่าวพบกระสอบปุ๋ยสีดำ จำนวน 1 กระสอบ (ข้างในบรรจุสิ่งของอยู่) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบกระสอบปุ๋ยดังกล่าว ปรากฎว่าเป็นยาบ้า จำนวน 70 ถุง (ประมาณ 140,000 เม็ด ตรวจนับละเอียดหลัง) เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สนธิกำลังกันและร่วมกันประชุมวางแผน โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจซุ่มเหตุการณ์ใกล้กับโค่นต้นไม้ที่ตรวจพบกระสอบยาบ้า
           ต่อมา มีรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้ หมายเลขทะเบียน ขจ 6459 อุบลราชธานี และรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีขาว รุ่นมิราจ หมายเลขทะเบียน ขฉ 2857 อุบลราชธานี มาจอดที่เกิดเหตุแล้วผู้ต้องหาได้ลงมาจากรถยนต์เก๋ง หมายเลขทะเบียน ขฉ 2857 อุบล ราชธานี และเดินมาเอากระสอบยาบ้า เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าแสดงตัวให้ต่อผู้ต้องหา และสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้ได้
            ส่วนผู้ต้องหาอีกรายได้ขับรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้ หมายเลขทะเบียน ขจ 6459 อุบลราชธานี หลบหนีจากที่เกิดเหตุ ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวไว้ได้ ส่วนผู้ต้องหาอีกรายได้ขับรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีขาว รุ่นมิราจ หมายเลขทะเบียน ขฉ 2857 อุบลราชธานี ออกจากที่เกิดเหตุ และไปจอดที่ไว้ที่บ้านหนองไฮ ต.หนองไฮ อ.เสนางคนิคม จ.อำนาจเจริญ และอาศัยความมืดหลบหนีไปได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งสิทธิ์และข้อกล่าวหาให้ ทั้ง 2 ราย ทราบว่า “ร่วมกันจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยมีไว้เพื่อจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน” โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 รายให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
             จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมด้วยของกลาง มาที่ กก.สส.ภ.จว.อำนาจเจริญ โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่ารับจ้างจากราษฎรชาวลาวลำเลียงยาเสพติดส่งมอบให้กับลูกค้าตามคำสั่งของราษฎรชาวลาว โดยราษฎรชาวลาวจะติดต่อมาให้ลำเลียงยาเสพติดส่งมอบตามพื้นที่ต่างๆ ต่อมา ราษฎรชาวลาว ได้ส่งหมายเลขโทรศัพท์ให้ เพื่อนำยาบ้าไปส่งมอบให้หมายเลขดังกล่าว 20 มัด (ประมาณ 40,000 เม็ด) เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขยายผลและสามารถจับกุมตัว จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนสภ.ชานุมาน จ.อำนาจเจริญ ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

           เพื่อเป็นการเฝ้าระวังป้องกันปัญหายาเสพติด ตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน และสถานประกอบการทุกแห่งแจ้งเบาะแสข้อมูล ผู้เกี่ยว ข้องกับยาเสพติด ทั้งผู้เสพ ผู้ค้า โดยแจ้งข้อมูลผ่านสายด่วนยาเสพติด 1599 สายด่วน 191 และ Application Police I lert U ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อดำเนินการปราบปราม จับกุม ดำเนินคดีผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และลดปัญหายาเสพติด ในภาพรวมอย่างต่อเนื่องและเข้มข้น เพื่อให้สังคมมีความปลอดภัยจากปัญหายาเสพติด ปัญหาอาชญากรรมที่เกี่ยวเนื่องกับยาเสพติดต่อไป