ประจวบคีรีขันธ์-ล้างบางปลาหมอคางดำคลองบางนางรม ส่งทำปุ๋ยหมักบำรุงสวนเกษตรยางพารา

ภาพ/ข่าว:เอกภพ วงษ์ประเสริฐ

           วันที่ 1 สิงหาคม 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานประมงจังหวัดนายปรีดา สุขใจ ปลัดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานแทนผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในพิธีเปิดกิจกรรม Kick Off กำจัดปลาหมอคางดำ บริเวณล่องแม่น้ำปากคลองบางนางรม เขตเทศบาล อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ โดยสำนักงานประมงจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ร่วมกับหลายหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สำนักงาน ปภ.จังหวัดประจวบฯ ทหารหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดประจวบฯ ขนส่งจังหวัดประจวบฯ กลุ่มจิตอาสาพิทักษ์วารี และชาวบ้านกลุ่มผู้ประกอบการประมงชายฝั่ง ร่วมกันลงแขกด้วยวิธีการลากอวนตาข่ายตาถี่ และล่องเรือทอดแห กำจัดปลาหมอคางดำที่บริเวณแม่น้ำคลองบางนางรม เพื่อรวบรวมส่งให้สำนักงานพัฒนาที่ดินจังหวัดทำเป็นปุ๋ยหมัก ก่อนส่งให้การยางแห่งประเทศไทยนำไปให้เกษตรกรใช้ทำเป็นปุ๋ยในสวนยางพาราต่อไป
         นายปรีดา สุขใจ ปลัดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า กิจกรรมในวันนี้เป็นการเริ่มต้นในการกำจัดปลาหมอคางดำในส่วนของพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรได้ร่วมกับอีกหลายหน่วยงาน และกลุ่มชาวประมงที่ได้รับผลกระทบ ในการช่วยกันแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำในพื้นที่ โดยแนวทางแก้ไขปัญหาปลาหมอคางดำ กระทรวงเกษตรได้รับงบประมาณสนับสนุนจากการยางแห่งประเทศไทย ตั้งจุดรับซื้อทุกอำเภอในกิโลกรัมละ 15 บาท จากนั้นจะรวบรวมส่งให้สถานีพัฒนาที่ดินนำไปผลิตทำเป็นปุ๋ยหมัก ก่อนจะส่งกลับไปให้กับการยางแห่งประเทศไทยนำไปให้เกษตรกรใช้ทำเป็นปุ๋ยบำรุงพืชบำรุงดินต่อไป
         ว่าที่ร้อยตรี สมนึก พรหมศร ประมงจังหวัดประจวบฯ กล่าวว่า ในการกำจัดปลาหมอคางดำในครั้งนี้ได้รับเงินงบประมาณสนับสนุนมาจากการยางแห่งประเทศไทย เพื่อมาจัดตั้งจุดรับซื้อปลาหมอคางดำจากชาวบ้านที่หามาได้ในกิโลกรัมละ 15 บาท ซึ่งตั้งจุดรับซื้อไว้ทุกอำเภอทั้งจังหวัดรวม 13 จุด เพื่อรวบรวมส่งให้สถานีพัฒนาที่ดิน หรือ หมอดิน เพื่อทำเป็นปุ๋ยหมักส่งกลับไปให้การยางแห่งประเทศไทย ในส่วนของคลองบางนางรมสำนักงานประมงได้ลงไปสำรวจจำนวน 2 ครั้ง พบว่ายังมีไม่มากเท่าที่ควร
        แต่สัดส่วนที่พบเมื่อเทียบกับปลาพื้นถิ่นยังถือว่ามีมากกว่าประมาณ 30% โดยกระทรวงเกษตรจะซื้อในกิโลกรัมละ 15 บาท รวมไซส์ เนื่องจากใช้นำไปใช้ประโยชน์ทำเป็นปุ๋ยหมัก โดยปลาหมอคางดำ นอกจากจะทำเป็นปุ๋ยแล้ว สามารถนำไปใช้ทำเป็นเมนูประกอบอาหารได้หลากหลายเช่นกัน ซึ่งในการแก้ไขปัญหากำจัดปลาหมอคางดำจะต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนโดยเฉพาะพี่น้องเกษตรกร และชาวประมง เนื่องจากจะต้องนำขึ้นจากแหล่งน้ำธรรมชาติ เพื่อปรับสมดุลให้อยู่ในสัดส่วนที่เหมาะสมที่สุด