สมุทรปราการ-คืบหน้า ปัญหาเรื่องเงินในวงเหล้า จ่ายเงินไม่เท่ากัน จนแทงกันตาย

ภาพ-ข่าว:สุรศักดิ์ / อัญมณี คงสินธ์

            จากกรณี ปัญหาเรื่องเงินในวงเหล้า จ่ายเงินไม่เท่ากัน จนแทงกันตาย เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เวลา 07.00 น วันที่ 18 สิงหาคม 2567 เหตุเกิดภายในห้องพักคนงานขายวัสดุก่อสร้าง ซอยเทพารักษ์ 103 ตำบลเทพารักษ์ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ ที่เป็นข่าวไปนั้น
           ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ( วันที่ 18 สิงหาคม 2567 ) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุอีกครั้ง ซึ่งวันนี้เป็นวันหยุดไม่มีคนงานมทำงานที่ร้านดังกล่าว ส่วนจุดเกิดเหตุทางเจ้าของร้าน ได้ปิดห้องดังกล่าวไว้เพื่อไม่ให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในห้อง ส่วนด้านล่างที่มีกองเลือดนั้นได้ล้างทำความสะอาดไปแล้ว
           จากการสอบถามนายจ้าง ให้ข้อมูลว่า ตอนเกิดเหตุไม่มีใครเห็น แต่รู้ว่าพวกเขาเมาและทะเลาะกันตั้งแต่ที่ร้านคาราโอเกะ หลังจากมาที่นี่ก็ไม่มีใครเห็นแล้ว เพราะเป็นช่วงเช้ามืด ปกติพวกเขาก็ไม่เคยมีปากเสียง และครั้งนี้ก็เป็นครั้งแรกที่เพิ่งจะไปกินเหล้าด้วยกัน ผู้เสียชีวิตมาทำงานที่นี่เมื่อเดือนมกราคมและตั้งแต่มาอยู่เขาก็ไม่เคยกินเหล้า พอกินเมื่อคืนก็เป็นเรื่องเลย สาเหตุน่าจะเมา พูดไม่เข้าหูกันและน่าจะมีเรื่องเงินด้วย ส่วนเรื่องทางผู้เสียชีวิตก็ต้องปล่อยไปตามกระบวนการทางกฎหมาย
            ภาพจากกล้องวงจรปิดหน้าร้านคาราโอเกะ ริมถนนเทพารักษ์ ที่ นายนิรันดร์ อายุ 54 ปี ( ผู้ตาย ) และ นายสุรศักดิ์ อายุ 61 ปี ( ผู้ก่อเหตุ ) มานั่งดื่มสุรากัน ก่อนที่จะมีปากเสียงกันเรื่องเงินทอนจากการจ่ายค่าเหล้า จำนวน 300 บาท จนทางเจ้าของร้านได้เชิญทั้งคู่ออกจากร้าน โดยที่ นายสุรศักดิ์ เดินออกมาจากร้านก่อน ส่วนนายนิรันดร์ เดินตามออกมา ก่อนที่ทั้งคู่จะมีปากเสียงกันจน นายนิรันคร์ สาวหมัดใส่นายสรุศักดิ์เข้าหน้า 1 หมัด จนชุนมุลก่อนที่ นายสุรศักดิ์จะสาวหมัดใส่ นายนิรันคร์ ไป 3 หมัด จนคนในร้านเข้ามาแยก ก่อนที่ นายนิรันดร์ จะนำเงินทอนให้คนในร้านมาให้ นายสรุศักดิ์ ก่อนที่นายนิรันดร์จะเดินออกไป โดยพักใหญ่ นายนิรันดร์ก็เดินมาพร้อมลูกชาย มาถามหา นายสรุศักดิ์ แต่ทางร้านบอกว่า นายสุรศักดิ์ กลับไปแล้ว ก่อนที่จะมีปากเสียงกันหน้าร้านสักพัก นายนิรันดร์ กับ ลูกชาย ก็กลับที่พักไป
             นายเอ เจ้าของร้านคาราโอเกะ  เล่าว่า ลูกค้ามานั่งดื่มแล้วออกเงินกันคนละ 1000 บาท แล้วมันเหลือเงินทอนอีก 300 บาท แต่คนเสื้อดำ (ผู้ตาย) ไม่ยอมให้ จึงได้ไปมีปากเสียงกันอยู่นอกร้าน คนเสื้อดำได้ลงมือต่อยก่อน ก่อนที่จะไปตามลูกชายมาที่ร้าน ตนจึงบอกว่าอีกคนกลับไปแล้ว ผู้ก่อเหตุจะมาที่นี่บ่อย แต่ผู้ตายเคยมานานมากแล้ว เรื่องของเรื่องมันมาจากเงินทอน เพราะเงินทอนมันเหลือ 300 แล้วต้องแบ่งกันคนละครึ่ง ผู้ก่อเหตุเขาถามเอาเงินทอนจากผู้ตายแต่ผู้ตายไม่ให้ จึงมีปากเสียงกัน แต่ก็ไปเคลียร์กันข้างนอก แต่ตอนนั้นตนไปร้านสะดวกซื้อแถวนั้น
            หลังจากนั้นสักพักลูกชายผู้ตายก็มา ส่วนผู้ก่อเหตุตนให้นอนที่ร้านก่อน เพราะกลัวว่าจะมีเรื่องกันอีก เขาออกจากร้านไปก็ช่วงเช้า หลังเกิดเหตุผู้ก่อเหตุได้โทรมาหาตน บอกว่าจะไม่ได้มาอีกแล้วนะ เพราะไปฆ่าคนมา ตนไม่เชื่อ ก็เลยโทรไปหาหลานของผู้ก่อเหตุ ก็ได้คำตอบว่าเป็นความจริง แล้วทางหลานเขาก็เล่าให้ตนฟังว่าฝั่งผู้ตายไปพังห้องของผู้ก่อเหตุ แล้วผู้ก่อเหตุจึงบันดาลโทสะ เหมือนกับว่าฝ่ายนั้นไปหาคู่กรณีไม่เจอก็เลยไปพังห้อง แต่ทางผู้ก่อเหตุไม่ได้บอกเรื่องนี้กับตน บอกแค่ว่าเขาไปถีบประตูห้ององผู้ตายแล้วก็ฟันยับเลย ตนก็ถามว่าพูดจริงหรือพูดเล่น เขาก็บอกว่าค่าเหล้าที่ติดไว้คงไม่ได้จ่ายแล้วนะ เพราะคงจะไม่ได้เจอกันอีกนาน