ร้อยเอ็ด-ที่ปรึกษา รมต.ยุติธรรม เปิดโครงการมหกรรมแก้หนี้
ภาพ-ข่าว:คมกฤช พวงศรีเคน
วันที่ 22 สิงหาคม 2567 เวลา 09.45 น. พล.ต.ท. พัฒนวุธ อังคะนาวิน คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดโครงการมหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม ครั้งที่ 62 ที่ ฮอลล์ โรงแรมเพชรรัชต์กาเดนท์ อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมี นายชูศักดิ์ ราชบุรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ให้การต้อนรับ พร้อมด้วย ผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม หัวหน้าส่วนราชการ ธนาคาร เจ้าหนี้ และประชาชนที่สนใจเดินทางมาร่วมไกล่เกลี่ยหนี้ เข้าร่วมกิจกรรม เป็นจำนวนมาก
โครงการ “มหกรรมแก้หนี้ สร้างวิธีความเป็นธรรม”ครั้งที่ 62 จังหวัดร้อยเอ็ด ตามนโยบายรัฐบาล ได้เดินหน้าแก้ปัญหาหนี้สิน ทั้งระบบให้กับประชาชนทุกกลุ่ม ทั้งภาคเกษตร ภาคธุรกิจ และภาคประ ชาชม รัฐบาลได้กำหนดแนวทางในการดำเนินการอย่างชัดเจน และบูรณาการ การทำงานของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การแก้ไขปัญหาหนี้ เป็นไปอย่างยั่งยืนและไม่กลับมาเป็นหนี้ซ้ำอีก
ตลอดจนนโยบายสำคัญของรัฐบาลที่ได้แถลงไว้ เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2566 กำหนดกรอบในการเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาลดภาระพี่น้องเกษตรกร ด้วยการพักหนี้เกษตรกร ตามเงื่อนไขและคุณสมบัติที่เหมาะสม รวมถึงมาตรการช่วยเหลือประคองภาระหนี้สินและต้นทุนทางการเงินสำหรับภาคประชาชน ที่ครอบคลุมถึงผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและ ขนาดย่อม (SMEs) ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด – 19 ให้ได้มีโอกาสในการฟื้นฟูและกลับมาดำเนินธุรกิจได้อีกครั้ง
กระทรวงยุติธรรมได้มอบหมายให้กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กรมบังคับคดีและสำนักงานยุติธรรมจังหวัดร้อยเอ็ด บูรณาการร่วมกับภาคีเครือข่าย ดำเนินการจัดโครงการ “มหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม” ครั้งที่ 62 จังหวัดร้อยเอ็ด โดยภาคีเครือข่ายสถาบันการเงินที่เข้าร่วม จำนวน 7 สถาบัน อาทิ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา(กยศ.)บริษัท เจเอ็มที เน็ทเวอร์ค เซล จำกัด (มหาชน) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (มหาชน) ธนาคารออมสิน ธนากสิกรไทย เป็นต้น
กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การเผยแพร่ความรู้ทางกฎหมาย และการสร้างการตระหนักรู้เกี่ยวกับการวางแผนและสร้างวินัยทางการเงินให้แก่ประชาชน การจัดนิทรรศการประชาสัมพันธ์ และให้คำปรึกษาทางกฎหมาย และการให้บริการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ทั้งก่อนฟ้องและหลังศาลมีคำพิพากษา รวมทุนทรัพย์ประมาณ 502,455,245 บาท (ห้าร้อยสองล้านสี่แสนห้าหมื่นห้าพันสองร้อยสี่สิบห้าบาท)