กาญจนบุรี-ชาวบ้านหนองโรงพบนายอำเภอพนมทวนติดตามการเปลี่ยนชื่อวัด
ภาพ-ข่าว:รักษพล พุ่มพฤกษ์
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 28 สิงหาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระครูปลัดสุวัฒนจริยคุณ เจ้าอาวาสวัดบ้านหลุมหิน พร้อมด้วยชาวบ้านหมู่ที่ 4 และ หมู่ที่ 10 ของตำบลหนองโรง อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี จำนวนกว่า 100 คน ได้เดินทางมายังที่ว่าการอำเภอพนมทวน เพื่อเข้าพบนายทวิช เที่ยวมาพบสุข นายอำเภอพนมทวนเพื่อสอบถามความคืบหน้าเกี่ยวกับปัญหาเรื่องของการข้อเปลี่ยนชื่อวัดจากเดิมชื่อ”วัดเขาจำศีล(บ้านหลุมหิน)”มาเป็น”วัดบ้านหลุมหิน”แทน ตามรายละเอียดของหนังสือที่ทางชาวบ้านและทางเจ้าอาวาสวัดบ้านหลุมหินได้ดำเนินเดินทางมามอบให้กับทางอำเภอไว้ก่อนหน้าแล้ว
ต่อมาในเวลา 09.45 น.นายทวิช เที่ยวมาพบสุข นายอำเภอพนมทวน พร้อมด้วย นายสุเทพ วงศ์วัชรมงคล ปลัดอาวุโสอำเภอพนมทวน พันตำรวจเอก ธวัชชัย นรสิงห์ ผกก.สภ.พนมทวนได้เดินทางมาพบกับกลุ่มของชาวบ้านพร้อมกับเชื่อเชิญชาวบ้านที่เดินทางมาในครั้งนี้ได้ไปพูดคุยกันที่หอประชุมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน อำเภอพนมทวนซึ่งอยู่ด้านข้างของที่ว่าการอำเภอพนมทวนเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้กับชาวบ้านหมู่ที่ 4 และ หมู่ที่ 10
โดยนายทวิช เที่ยวมาพบสุข นายอำเภอพนมทวน ได้สอบถามเกี่ยวสาเหตุที่ชาวบ้านรวมตัวกันมาพบตนในวันนี้ โดยให้กลุ่มชาวบ้านทั้ง 2 หมู่ส่งตัวแทนมาออกมาพูดเกี่ยวกับปัญหาให้ตนทราบเพื่อที่จะได้แก้ไขปัญหาดังกล่าวให้กับชาวบ้าน จากนั้นตัวแทนชาวบ้านได้กล่าวถึงเรื่องของปัญหาที่ชาวบ้านได้เดินทางมาพบกับท่านนายอำเภอในวันนี้ก็คือเรื่องของปัญหาการร้องขอในการเปลี่ยนชื่อวัดจากเดิมคือ”วัดเขาจำศีล)บ้านหลุมหิน)มาเป็น”วัดบ้านหลุมหิน”แทน เนื่องจากชื่อเดิมของวัดมีการตั้งชื่อซ้ำซ่อนกัน 2 วัด ทำให้ญาติโยมที่จะเดินทางมายังวัดทั้ง 2 แห่งเกิดการสับสนเกี่ยวกับชื่อของวัดทั้ง 2 วัดที่เหมือนกัน ชาวบ้านหมู่ที่ 4 และ หมู่ที่ 10 ของตำบลหนองโรงจึงมีความคิดที่จะขอเปลี่ยนชื่อวัดใหม่
ชาวบ้านจึงได้แจ้งเรื่องราวดังกล่าวให้ผู้นำท้องที่ทราบเพื่อดำการตามระเบียบขอบังที่กฏหมายกำหนด แต่ท่านผู้นำท้องที่คนดังกล่าวไม่ยิมยอมและไม่ยอมเซ็นต์ทำให้เกิดปัญหาขึ้นมา ชาวบ้านจึงได้รวมตัวกันเดินทางมาพบกับทางท่านนายอำเภอเพื่อช่วยแก้ไข้ปัญหาที่เกิดขึ้นให้กับชาวบ้านทั้ง 2 หมู่ ตามเอกสารหนังสือที่ได้มอบให้กับทางอำเภอไปก่อนหน้านี้
นายทวิช เที่ยวมาพบสุข นายอำเภอพนมทวน ภายหลังได้รับทราบเกี่ยวกับปัญหาได้ขอเวลา 7 วัน เพื่อดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อให้ความยุติธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย ถ้าผู้นำท้องที่คนดังกล่าวทำผิดระเบียบข้อบังคับตนพร้อมดำเนินการตามกฎหมาย มาตรา 157 ทันที