ประจวบคีรีขันธ์-คืบหน้าคดีแรงงานพม่าฆ่าปาดคอ คาดปมค้าแรงงานเถื่อนและยาเสพติด

ภาพ/ข่าว:เอกภพ วงษ์ประเสริฐ

             วันที่ 6 ก.ย.67 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา รับจ้างกรีดยางอยู่ในพื้นที่คุ้มบ้านเนินแก้ว หมู่ 5 บ้านหนองเสือ ตำบลอ่าวน้อย อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ ถูกเพื่อนแรงงานสัญชาติเดียวกันฆ่าปาดคอชิงรถจักรยานยนต์แล้วหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อช่วงกลางดึกของเมื่อคืนที่ผ่านมา
          คืบหน้าล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ สภ.อ่าวน้อย เพื่อสอบถามความคืบหน้าของคดีกับ พ.ต.ท.วิชาญ กลิ่นสุข พนักงาน สอบสวน สภ.อ่าวน้อย เจ้าของคดี โดยระบุว่าวันนี้จะมีการเชิญนายติน เท (พ่อ)และน้องของภรรยาผู้เสียชีวิตมาให้ปากคำเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายละเอียดพร้อมกับมอบภาพถ่ายของผู้ก่อเหตุ เบอร์โทรศัพท์และภาพรถจักรยานยนต์ของผู้ตายที่ถูกผู้ก่อเหตุลักไปให้กับตำรวจ
         โดยก่อนหน้านี้ผู้ก่อเหตุได้โทรศัพท์เข้ามาที่โทรศัพท์มือถือของผู้เสียชีวิต ซึ่งตำรวจได้เก็บไว้เป็นหลักฐานและมีการรับสาย โดยผู้ก่อเหตุยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริงแต่จะไม่ยอมถูกตำรวจจับ โดยที่คิดว่าเป็นญาติผู้เสียชีวิตรับสาย ซึ่งทางญาติผู้เสียชีวิตสันนิษฐานว่าผู้ก่อเหตุยังคงหลบหนีอยู่ตามบ้านพักของญาติหรือเพื่อนในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
          นอกจากนี้ทางด้านชุดสืบสวนภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรอ่าวน้อย ได้ร่วมประชุมหารือเพื่อเร่งรัดเกี่ยวกับคดีดังกล่าว โดยจะมีการแกะรอยจากกล้องวงจรปิดที่อยู่ตามเส้นทางที่หลบหนีและร้านโทรศัพท์มือถือที่ผู้ตายได้พาผู้ก่อเหตุไปซื้อก่อนหน้านี้ พร้อมกับรวบรวมพยานหลักฐานและภาพ ถ่ายเตรียมออกหมายจับต่อไป

          ด้านแหล่งข่าวในพื้นที่ระบุว่า ผู้เสียชีวิตเคยถูกดำเนินคดีในข้อหาค้าแรงงานเถื่อนต่างชาติ ร่วมกันกับนายมิวเอผู้ก่อเหตุ โดยผู้ตายและผู้ก่อเหตุเป็นเครือญาติกันซึ่งก่อนหน้านี้อาศัยอยู่ในหมู่บ้านตะนาวศรี ฝั่งประเทศเมียนมาด้วยกัน และเมื่อผู้เสียชีวิตและครอบครัวย้ายมาทำงานรับจ้างกรีดยางอยู่ในฝั่งไทย นายมิวเอผู้ก่อเหตุได้ลักลอบข้ามชายแดนตามมาด้วย และหารับจ้างทำงานทั่วไปโดยที่ไม่มีใบอนุญาต พร้อมกับร่วมกันค้าแรงงานเถื่อนชายแดนกับผู้ตาย ด้านแหล่งข่าวยังระบุเพิ่มเติมอีกว่า ผู้ก่อเหตุยังพัวพันกับการเสพและค้ายาเสพติดในพื้นที่ เคยถูกเจ้าหน้าที่ปิดล้อมจับแต่สามารถหลบหนีไปได้ โดยแหล่งข่าวสันนิษฐานว่าชนวนของการก่อเหตุน่าจะเกิดจากการขัดผลประโยชน์กันเองในเรื่องธุรกิจค้าแรงงานเถื่อน และยาเสพติด