ปราจีนบุรี-นักแต่งเพลงอดีต ผอ.โรงเรียน สงสาร”ครูเบญ”คนสอบติดครูอันดับ1แต่ชื่อหาย จึงสะท้อนเป็นเพลง..!!

ภาพ-ข่าว:มานิตย์ สนับบุญ

         เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 17 กันยายน 2567 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดปราจีนบุรี ได้ลงพื้นที่อำเภอประจันตคาม ขอพบและขอสัมภาษณ์ ผอ.กันพิเชฐษ์ มลิเกตุ อดีตผู้อำนวยการสถานศึกษาในจังหวัดปราจีนบุรี และเป็นนักแต่งเพลงสะท้อนสังคมในปัจจุบัน หลังจากลงเพลง ประกาศชื่อไป ให้ตกทีหลัง เผยแพร่ทางยูทูป

         ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมถึงแต่งเพลงนี้ นายกันพิเชฐษ์ กล่าวว่า ได้ฟังข่าวทางทีวีทางโซเชียลมาหลายวันแล้ว มีความรู้สึกเห็นใจของคนที่สอบได้ จะได้เป็นพนักงานราชการลำดับที่ 1 และจะไปรายงานตัวเพื่อไปปฏิบัติหน้าที่เป็นพนักงานราชการอยู่แล้ว แต่ทิ้งช่วงเวลาผ่านไปเพียง 3 วันเท่านั้น กลับตาลปัตรรายชื่อตัวเองหายไปแบบไร้ร่องรอย มีชื่อคนอื่นมาแทนที่ อย่างนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร และยิ่งได้รับชมรายการโหนกระแสของหนุ่มกรรชัยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา และได้ฟังคำสัมภาษณ์ของ ผอ.สพม.สระแก้วแล้ว ผอ.สพม.สระแก้ว ให้สัมภาษณ์ว่า ที่จริงแล้วผู้ที่ประกาศในลำดับที่ 1 ครั้งแรกนั้น สอบไม่ผ่านตั้งแต่แรกแล้ว ยังคิดอยู่ในใจเลยว่าเมื่อสอบไม่ผ่านตั้งแต่แรกแล้วเอาชื่อเขาขึ้นมาประกาศผลอันดับ 1 ทำไม จึงทำให้มีแรงบันดาลใจเขียนเพลงนี้ขึ้นมาเพื่อนสะท้อนให้สังคมได้รับรู้ครับ นายกันพิเชฐษ์กล่าว
          ผู้สื่อข่าวถามต่ออีกว่า เนื้อหาในเพลงมีอะไรบ้าง ผอ.กันพิเชฐษ์ กล่าวว่า เนื้อหาในเพลงมี 4 บทหรือ 4 ท่อน ในท่อนแรกพูดถึงว่า เป็นไปได้ไงก่อนประกาศผลการสอบไม่ได้ไม่มีการกลั่นกรองกันเลยหรือ ทำให้เกิดความความเสียหายหลายฝ่ายทั้งเขตพื้นที่ สพม.สระแก้วเอง ทั้งวงการศึกษาในวงกว้าง ที่สำคัญคือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการสอบครั้งนี้ เขาจึงโพส๖์ขอความเป็นธรรมให้กับตัวเองเป็นใครก็ต้องมีความรู้สึกเหมือนตายทั้งเป็นเช่นกัน

       ในท่อนที่ 2 ได้พูดถึงตำแหน่งหน้าที่ราชการยิ่งสูงขึ้นเท่าไรยิ่งต้องระมัดระวังให้รอบด้านมีทั้งพระเดชพระคุณมีบริวารผู้ใต้บังคับบัญชาต้องดูแล จึงควรใช้พระคุณให้มากกว่าพระเดช และคุณงามความดีที่สั่งสมกันมาตั้งแต่เริ่มรับราชการซึ่งคุณงามความดีนี่แหละจะเป็นเกราะป้องกันตัวเราเองได้เป็นอย่างดีอีกทางหนึ่ง ในท่อนที่ 3 หรือเรียกว่าท่อนฮุก ได้กล่าวถึงว่า สังคมเขาก็จะมองได้หลายทางหลายแง่หลายมุมด้วยกันตามแต่ที่ได้เสพข่าวจากสื่อโซเชียลมาอย่างไร ความผิดพลาดในครั้งนี้เกิดจากการทุจริตช่วยเหลือพวกพ้องหรือเป็นการประมาทเลินเล่อหรือว่าจงใจ เราไม่สามารถระบุได้ ต้องหาหน่วยงานกลาง ดีที่สุดควรพึ่งอำนาจศาลเท่านั้นในการตัดสินหาผู้รับผิดชอบ แต่ความผิดพลาดครั้งนี้ควรเยียวยาให้เหมาะสมอีกด้วยกับผู้ได้รับผลกระทบจากการประกาศผลผิดพลาดในครั้งนี้

           ส่วนในท่อนสุดท้ายยังสื่อความหมายให้กำลังใจคนที่รับราชการ ทุกท่านถือว่ารับเงินเดือนจากภาษีอากรของประชาชน มีทั้งคนรักคนชังเป็นธรรมดา สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง นับประสาอะไรคนสองขาโด่เด่ก็มีโอกาสพลาดได้ แต่ปัญหามันเกิดแล้วเอาคืนไม่ได้แล้ว ทำได้อย่างเดียวเท่านั้น คือการเจรจาหางทางออกร่วมกันทั้งสองฝ่ายและต่างก็วินๆด้วยกันทั้งคู่จึงจะเป็นแนวทางยุติปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างดีที่สุด นายกันพิเชฐษ์กล่าว