ระเบิดศึกชิง”นายกฯอบจ.สงขลา “มาดามปิ๋ม”เปิดตัวขอเป็นนายกฯหญิงคนแรก

ภาพ-ข่าว:นายหัวไทร

            ฮือฮากับการเมืองท้องถิ่นในจังหวัดสงขลา เมื่อจู่ๆ “มาดามปิ๋ม” หรือมาลัยทิพย์ ครุอำโพธิ์ เปิดตัวแรงโพสต์รูปในเฟสบุ้คส่วนตัว ให้สื่อสารทางการเมืองได้ว่า เตรียมกระโดดเข้าสู่เวทีการเมือง “รวมพลชาวสงขลา ร่วมสร้างนายกหญิงคนแรก” จะคิดเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจากประสงค์จะสื่อสารไปยังคนสงขลาว่าเธอจะกระโดดเข้าสู่เวทีการเมืองแน่นอน และการใช้คำว่า “นายกหญิง” แปลความได้ว่า ถ้าไม่ลงสมัครชิงนายกเทศมนตรี ก็ต้องลงชิงนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา (อบจ.สงขลา)
            “มาดามปิ๋ม จะต้องได้รับไฟเขียวจากผู้หลักผู้ใหญ่ในจังหวัดสงขลาให้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกฯอบจ.สงขลาแน่นอน ไม่งั้นคงไม่กล้าเปิดตัวขนาดนั้น”ถามว่าผู้หลักผู้ใหญ่ คือใคร ไม่น่าจะใช่ “นายกฯชาย-เดชอิศม์ ขาวทอง” รัฐมนตรีช่วยสาธารณะสุข เพราะนายกฯชายน่าจะสนับสนุน“ไพเจน มากสุวรรณ์” มากกว่า หรือจะเป็น “ถาวร เสนเนียม” อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ก็ไม่น่าจะใช่ เพราะอยู่คนละสายกัน ถ้าเป็นไปได้น่าจะเป็น “นิพนธ์ บุญญามณี” อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และอดีตนายกฯอบจ.สงขลา
           เหตุผลเพราะนิพนธ์ กับสมยศ พลายด้วง สส.เขต 3 สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ สนิทสนมกันดี และสมยศก็คือสามีของมาดามปิ๋ม แต่ประเด็น คือก่อนหน้านี้ดูจากการเคลื่อนไหวของนิพนธ์ เหมือนจะลงสมัครเองด้วยซ้ำ เพียงแต่ยังไม่เปิดตัวชัดเจนเท่านั้นเองและท่าทีก่อนหน้าดูเหมือนว่า ถ้านิพนธ์ไม่ลงสมัคร จะสนับสนุน “สุพิศ พิทักษ์ธรรม” อธิบดีกรมฝนหลวง ให้ลงสมัครมากกว่าแต่เข้าใจว่า เมื่อสถานการณ์มาถึงขั้นนี้ นิพนธ์ยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับคดีที่ค้างคาอยู่ในศาลทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง จึงตัดสินใจไม่ลงสมัคร เพื่อรอให้คดีเคลียร์ก่อน สำหรับฐานข้อมูลที่มีอยู่ เชื่อว่านิพนธ์ไม่น่าจะตัดใจไม่ลงสมัครในเวลานี้ แต่น่าจะยังรอดูผลทางคดีในศาลทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ที่ยังไม่กำหนดวันก่อนคำพิพากษาในชั้นอุทธรณ์คดีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ไม่เบิกจ่ายค่ารถให้บริษัทที่ถูกร้องเรียนฮั้วประมูล
             แต่ประเด็นคือ ถ้านิพนธ์ไม่ลงเอง ทำไมนิพนธ์หันหัวเรือออกจากท่าสุพิศ ไปจอดเทียบท่ามาดามปิ๋ม เป็นเรื่องน่าสนใจ แต่สำหรับผมมองว่า สุพิศมีเรื่องร้องเรียนมากมายอยู่ในสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แม้นว่าคดียังไม่ถึงที่สุดยังถือเป็นผู้บริสุทธิ์ก็ตาม แต่ในทางการเมืองถือว่าด่างพล้อย ประกอบกับเมื่อพิจารณาถึงความเป็นตัวตนของสุพิศ มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง และยากต่อการกำกับในอนาคต แถมเป็นคนมีอันจะกินด้วย ไม่แปลกที่นิพนธ์จะหันหัวเรือไปยัง “มาดามปิ๋ม” กับการเมืองของคนรุ่นใหม่ และเป็นการเปิดให้สตรีเข้ามามีบทบาททางการเมืองมากขึ้น ประกอบกับมาดามปิ๋มไม่มีอะไรด้างพล้อย แต่เป็นผู้หญิงที่ทำธุรกิจ และสนใจการเมือง

            กล่าวสำหรับมาดามปิ๋ม เป็นทายาทของ “เฉลิมชัย ครุอำโพธิ์” หรือเถ้าแก่หลี นักธุรกิจใจบุญแห่งสิงหนคร ที่ล่าสุดเพิ่งบริจาคเงินสร้างอาคารโรงพยาบาลสิงหนคร (ส่วนหน้า) มูลค่ากว่า 30 ล้านบาท มาดามปิ๋ม จบมัธยมปลายจากโรงเรียนมหาวชิราวุธ สงขลา แล้วมาช่วยพ่อทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ขายวัสดุก่อสร้าง ช่วยบริหารบริษัท เขาแดงคอนสตรัคชั่นฯ เพื่อรับงานรับเหมาก่อสร้าง เช่น การทำถนน ซึ่งเป็นงานที่หนักและต้องรอบคอบ เมื่อผ่านการเรียนรู้งาน มีประสบการณ์มากพอ เถ้าแก่หลี จึงยกกิจการบริษัทเขาแดง คอนสตรัคชั่น จำกัด ให้ไปเป็นของตัวเอง สร้างเนื้อสร้างตัวมากับธุรกิจก่อสร้าง
            ส่วนเถ้าแก่หลี ก็หันไปประกอบธุรกิจการทำเหมืองหินและโรงโม่หิน จนได้เป็นเจ้าของ บจก.เขาบันไดนางศิลา จำกัด ที่ อ.บางกล่ำ จ.สงขลา ซึ่งเป็นกิจการที่มีความยุ่งยากในการบริหารจัดการ เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับผู้คนและเกี่ยวกับกฎหมายมากมาย แต่ด้วยเป็นกิจการที่ขอบด้วยกฎหมาย ไม่ทำผิด กิจการจึงก้าวหน้าเดินไปได้ด้วยดีท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจ ถามว่า ถ้ามาดามปิ๋มได้ลงสมัครชิงนายกฯอบจ.สงขลาจริง คู่แข่งมีไหม จะเป็นใคร แน่นอนว่า “ไพเจน มากสุวรรณ์” นายกฯอบจ.คนปัจจุบันลงรักษาแชมป์แน่นอน และอาจจะมี “สุพิศ พิทักษ์ธรรม” ที่มีข่าวเตรียมลาออกจากอธิบดีกรมฝนหลวง เพื่อลงสมัครด้วย
          พรรคประชาชน หรือก้าวไกลเดิม แม้ยังไม่เปิดตัวว่าจะส่งใคร แต่มีการเตรียมการสรรหาผู้สมัคร ปรากฏชื่อ “นิรันดร์ จินดานาค” หรือไม่ก็ “ชากีย์ พิทักษ์คุมพล ทายาทอดีตจุฬาราชมนตรี พรรคประชาชนยังไม่เคาะว่า สงขลาจะส่งหรือไม่ เพราะสงขลาไม่มี สส.พรรคประชาชน พอจะเห็นภาพคู่ชิงในสนามอบจ.สงขลา ถ้าดูกันตามเนื้อผ้า สายบ้านใหญ่เขารูปช้าง ไม่ว่าจะเป็นพิพนธ์ หรือมาดามปิ๋ม ยังถือว่าเป็นต่ออยู่หลายขุม ที่เห็นๆ มี ส.อบจ.ในมือแล้ว ไม่น้อยกว่า 20 คน จากทั้งหมด 36 คน ที่เหลือ 9-10 คน อยู่กับ ”ไพเจน มากสุวรรณ์“ ส่วนสุพิศ ยังไม่มีจุ่มข่ายมากนัก แต่เป็นคนมีเงิน แต่เงินก็ใช่ว่าจะจ่ายกันง่ายๆ ถ้าไม่มีคนพาไปเดินตลาด อีกแค่ 3 เดือนผู้บริหารชุดปัจจุบันก็จะหมดวาระแล้ว ต้นปีหน้าจะได้วัดใจประชาชนว่าจะเลือกใครมานั่งบริหาร อปท.ขนาดใหญ่ อบจ.สงขลา