ประจวบคีรีขันธ์-ตชด.ประกอบพิธีปลดเป้ วางปืน อำลาหน่วยเกษียณอายุราชการ
ภาพ/ข่าว:เอกภพ งษ์ประเสริฐ
กก.ตชด.14 ประจวบประกอบพิธีปลดเป้ วางปืน คืนผู้บังคับบัญชาอำลาหน่วยตำรวจตระเวนชายแดนที่เกษียณอายุราชการปี 67
วันที่ 26 กันยายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 14 ค่ายพระมงกุฎเกล้าฯ ตำบลห้วยทราย อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.อ.อัคราวัส สีห์ธนบุญอุบล ผกก.ตชด.14 มอบหมายให้ พ.ต.ท.ฉลาม พงษ์เพชร รอง ผกก.กก.ตชด.14 รักษาราชการแทน ผกก.กก.ตชด.14 เป็นประธานในพิธีปลดเป้ วางปืน ข้าราชการตำรวจตระเวนชายแดนสังกัดกองกำกับการที่ 14 ที่เกษียณอายุราชการในปี พ.ศ.2567 จำนวน 12 นาย โดยมี ผบ.ร้อย ตชด.ที่141-147 เข้าร่วมเป็นเกียรติในพิธี
ซึ่งในพิธีอำลาชีวิตข้าราชการของตำรวจตระเวนชายแดนครั้งนี้ ได้มีการประกอบพิธีลอดซุ้มปืน โดยให้ข้าราชการตำรวจที่เกษียณอายุราชการนั่งรถยนต์หุ้มเกราะวี 150 วิ่งวนรอบ กก.ตชด.14 จากนั้นตำรวจที่เกษียณอายุราชการพร้อมคู่สมรส เดินลอดซุ้มปืนตามลำดับที่บริเวณหอประชุมสราญรมย์ จากนั้นต่อด้วยพิธีปลดเป้ วางปืน มอบคืนให้แก่ผู้บังคับบัญชาประธานในพิธี พร้อมรับมอบใบประกาศเกียรติคุณและของที่ระลึกจากประธาน และรับฟังการกล่าวแสดงกตเวทิตตาจิตแด่ข้าราชการตำรวจที่เกษียณอายุราชการ จากนั้นจึงได้ประกอบพิธีอำลาหน่วย ณ บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 6 เพื่อให้ข้าราชการตำรวจที่เกษียณอายุพร้อมคู่สมรสได้เดินผ่านกองเกียรติยศ ทำความเคารพ พร้อมรับช่อดอกไม้จากผู้บังคับบัญชา และเพื่อนข้าราชการตำรวจที่ยังดำรงตำแหน่งอยู่ เป็นการส่งข้าราชการตำรวจที่เกษียณอายุราชการเดินทางออกจากที่ตั้งหน่วยต่อไป
พ.ต.ท.ฉลาม พงษ์เพชร รอง ผกก.รักษาราชการแทน ผกก.กก.ตชด.14 เปิดเผยว่า สำหรับพิธีในวันนี้เกิดขึ้นมาจากในอดีตภารกิจของตำรวจตระเวนชายแดนมีภารกิจเกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงของประเทศ ซึ่งในสมัยก่อนภัยคุกคามเกิดมาจากภัยคอมมิวนิสต์ ตำรวจตระเวนชายแดนจึงได้ก่อตั้งขึ้นมา โดยคัดเลือกมาจากตำรวจทั่วประเทศ มารับภารกิจปราบปรามภัยคอมมิวนิสต์ ซึ่งจะเป็นการสู้รบเป็นส่วนใหญ่ แต่เนื่องจากภารกิจที่ไปปฏิบัติหน้าที่ตามพื้นที่ต่างๆ จะต้องมีการลาดตระเวน มีการพบปะกับภัยคุกคาม เช่น คอมมิวนิสต์ต่างๆ และไปในที่ถิ่นทุรกันดารที่มีความแร้งแค้น และมีประชาชนอาศัยอยู่
ฉะนั้นตำรวจตระเวนชายแดนจึงมีคุณลักษณะ 3 ประการ คือ 1.รบได้อย่างทหาร 2.จับกุมได้อย่างตำรวจ และ 3.พัฒนาได้อย่างข้าราชการพลเรือน เพื่อเสริมความมั่นคงในการป้องกันประเทศ จึงเป็นที่มาของการแจกอาวุธปืน และเป้สัมภาระ เพราะจะต้องเดินลาดตระเวนไปในพื้นที่ต่างๆในการค้นหาภัยคุกคามและการปราบปรามผู้ก่อการร้าย และพัฒนาช่วยเหลือประชาชนควบคู่ไปด้วย และถ้าเกิดมีเหตุอาชญากรรมตามแนวชายแดนเราก็จะสามารถจับกุมได้เหมือนตำรวจ ซึ่งถือเป็นประเพณี ถ้าเป็นตำรวจที่จบมาใหม่ก็จะได้รับการแจกอาวุธปืน แจกเป้สัมภาระ ซึ่งเป็นอาวุธประจำกายในการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเป็นสิ่งของคู่กายกับตำรวจตระเวนชายแดนมาตั้งแต่เริ่มต้น และเมื่อถึงวัน เกษียณอายุราชการก็เหมือนได้ปลดภาระหลังจากได้รับใช้ประเทศชาติมา
โดยการคืนปืน คืนเป้ เป็นการวางมือจากภารกิจที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งถือว่าตำรวจตระเวนชายแดนทุกนายมีเกียรติ และมีความเสียสละอย่างสูงในการปฏิบัติหน้าที่ และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนจำนวนหลายนายที่ไม่มีโอกาสได้คืนปืน คืนเป้ ซึ่งเป็นเรื่องปกติในการปฏิบัติหน้าที่ด้านความมั่นคงย่อมมีความสูญเสียถือว่าเป็นวีรชนที่เสียสละทั้งชีวิตและร่างกายในการปกป้องประเทศชาติ ซึ่งตลอดระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมาตำรวจตระเวนชายแดนได้ปฏิบัติหน้าที่ดูแลความมั่นคงของประเทศชาติตามแนวชายแดนมาโดยตลอด