สมุทรปราการ-สาวพนักงานห้างฯชื่อดัง วิ่งข้ามถนนมาปั๊มหัวใจ ชายขี่มอไซค์ชนท้ายรถกระบะ..!!
ภาพ-ข่าว:สุรศักดิ์ / อัญมณี คงสินธ์
เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 11 ตุลาคม 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนท้ายรถยนต์กระบะ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบนถนนเทพารักษ์ กม.5 ทิศทางมุ่งหน้าบางพลี ฝั่งตรงข้ามซอยหมู่บ้านภัทรนิเวศน์ ตำบลเทพารักษ์ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ชีพโรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ในที่เกิดเหตุ พบ ผู้ได้รับบาดเจ็บ เป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อ นายสมพงษ์ วงค์ทวี อายุ 42 ปี ชาวปทุมธานี นอนหมดสติอยู่กลางถนน มีแผลแตกที่ศีรษะ เจ้าหน้าที่กู้ชีพให้การช่วยเหลือปั้มหัวใจ ก่อนจะทำการเคลื่อนย้ายนำส่งโรงพยาบาลโดยทำการปั้มหัวใจไปด้วย ข้างกันพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ สีดำ-แดง ทะเบียน 1 กฮ 3744 พระนครศรีอยุธยา ล้มอยู่ สภาพหน้าพังยับเยิน ใกล้กันพบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ โตโยต้า รีโว่ สีขาว ทะเบียน 2 ขธ 2687 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ฝ่าท้ายบุบ กันชนหลังฉีกขาด
ภาพจากกล้องหน้ารถคันหนึ่งสามารถจับภาพ ขณะที่รถเจ้าของกล้องขับอยู่ในเลนขวา รถจักรยานยนต์คนเจ็บขี่อยู่ระหว่างเลนกลางกับเลนขวา พอมาถึงจุดเกิดเหตุในเลนขวารถค่อนข้างติดเนื่องจากเป็นแถวที่รอกลับรถด้านหน้า คนเจ็บได้ขี่รถจักรยานยนต์พุ่งชนท้ายรถยนต์กระบะที่จอดต่อแถวกลับรถอย่างแรง คนเจ็บกระเด็นหลุดจากรถจักรยานยนต์ลงไปนอนอยู่บนพื้นถนน ส่วน ภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุ จับภาพได้ขณะที่รถในเลนขวา ค่อนข้างติด และรถยนต์กระบะมาต่อแถวในเลนขวา ซึ่งตอนนั้นรถยนต์กระบะจอดนิ่งอยู่ ได้มี่รถจักรยานยนต์มาพุ่งชนที่ท้ายรถยนต์กระบะคันดังกล่าว อย่างแรง จนรถสั่นทั้งคัน
จากการสอบถาม นางสาววนิดา พนักงานสาว ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า เขา( ผู้บาดเจ็บ ) ขับรถมาแล้วมาชนกับรถกระบะ ตนก็อยู่ฝั่งโน้นเห็นพี่พยาบาลกับพี่ผู้ชายปั๊มหัวใจกันอยู่ 2 ตนก็เลยวิ่งข้ามมาช่วยเพราะตนเคยเรียนผู้ช่วยพยาบาล ตนเคยเรียนด้านนี้เลยไม่อยากให้ที่เรียนมาเสียเปล่า ปั๊มอยู่เกือบ 15 นาทีได้ ก็สลับกันกับพี่ ๆ พยาบาล
คนขับรถยนต์กระบะ เล่าว่า ตนได้ยินเสียงดังที่ด้านหลัง ก็เลยจอดรถลงมาดูปรากฏว่ามีคนขับรถมาชนท้ายรถตน ตนก็ขับมาเรื่อย ๆ ไม่ได้ขับเร็ว เพราะการจราจรกำลังชะลอตัว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ถ่ายภาพ และลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะเชิญตัวคนขับรถยนต์กระบะไปสอบสวนเพิ่มเติมที่โรงพัก เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป