ประจวบคีรีขันธ์-ทม.หัวหิน ประชุมเชิงปฏิบัติเตรียมพร้อมยกฐานะเป็นเทศบาลนครฯ
ภาพ-ข่าว:กูลเสวก เสวกวรรณกร
เมื่อวันที่ 22 ต.ค.67 ที่ห้องประชุม สำนักงานเทศบาลเมืองหัวหิน จ.ประจวบฯ นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการจัดทำ SWOT ANALYSIS ครั้งที่ 2 ภายใต้ “โครงการวิจัยเทศบาลเมืองหัวหินเพื่อเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ” มี ศาสตราจารย์ ดร.โกวิทย์ พวงงาม นักวิจัยและที่ปรึกษาโครงการวิจัย นายสุทธิเกียรติ อังกาบูรณะ นักวิจัยและที่ปรึกษาโครงการวิจัย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ณรงค์ จันใด นักวิจัย พร้อมด้วยคณะผู้บริหารเทศบาลเมืองหัวหิน สมาคม หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้นำชุมชนต่างๆ เข้าร่วมรับฟัง
นายนพพร วุฒิกุล กล่าวว่า เทศบาลเมืองหัวหิน ร่วมกับ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดประชุมโครงการวิจัยดังกล่าว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจสภาพพื้นที่และสภาพแวดล้อมโดยทั่วไปของเมืองหัวหิน รวมถึงแนวโน้ม ความท้าทายและข้อจำกัดการพัฒนาและการบริหารจัดการพื้นที่เขตเทศบาลเมืองหัวหินเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ โดยได้รับเกียรติจากท่านศาสตราจารย์ ดร.โกวิทย์ พวงงาม นักวิจัยมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องท้องถิ่น เพื่อขับเคลื่อนให้เมืองหัวหินเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ
แม้ว่าเทศบาลเมืองหัวหินกำลังยกฐานะเป็นเทศบาลนครที่คาดว่าจะได้ประกาศในช่วงประมาณเดือนมีนาคม 68 ก็ไม่ซ้ำซ้อนกับการศึกษาวิจัยเทศบาลเมืองหัวหินเป็นเมืองพิเศษแต่อย่างใด เพราะเทศบาลนครยังเป็นรูปแบบเทศบาลเหมือนเดิม มีอำนาจหน้าที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย โครงสร้างองค์กรใหญ่ขึ้นแต่ไม่ได้เป็นข้อบ่งชี้ถึงความเป็นอิสระและหน้าที่และอำนาจที่จะเอื้อต่อการพัฒนาเมืองที่มีความพิเศษด้านการท่องเที่ยวแต่อย่างใดแม้กระทั่งเมืองพัทยาที่เป็นเมืองรูปแบบพิเศษ แต่ในวันนี้บทบาทหน้าที่และอำนาจเหมือนเทศบาลนคร จึงหวังว่าการศึกษาวิจัยในครั้งนี้ จะทำปลดล็อคปัญหาข้อจำกัดของเทศบาล และเมืองพัทยาไปพร้อมๆ กัน
“ในครั้งนี้จะเป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแนวโน้มการพัฒนาเชิงพื้นที่ ตลอดจนประเมินความเป็นไปได้ และวิเคราะห์ถึงจุดเด่นหรือ จุดแข็ง จุดด้อย หรือ จุดอ่อน โอกาสและอุปสรรค ของการพัฒนาเชิงพื้นที่ร่วมกับภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ผมเชื่อมั่นว่าหลังจากโครงการศึกษาวิจัยนี้แล้วเสร็จ ก้าวต่อๆ ไปของการบริหารเมืองรูปแบบพิเศษหัวหินจะเป็นต้นแบบให้กับการปกครองท้องถิ่นไทย และนำไปสู่การพัฒนาท้องถิ่นที่ประสบความสำเร็จ และมีประสิทธิภาพต่อไป” นายนพพร กล่าว