ชลบุรี-พ่อค้าแม่ค้าน้ำกะทิศรีราชา เตรียมขึ้นราคาหลังแบกต้นทุนไม่ไหว

ชลบุรี-พ่อค้าแม่ค้าน้ำกะทิศรีราชา เตรียมขึ้นราคาหลังแบกต้นทุนไม่ไหว

ภาพ-ข่าว:นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี

          แม่ค้าร้านจำหน่ายน้ำกะทิ ติดป้ายประกาศขอขึ้นราคา หลังทนต้นทุนไม่ไหว ขณะที่พ่อค้าข้าวหลามและขนมจากโอด รับผลกระทบทำให้ต้นทุนทำขนมเพิ่มขึ้นจ่อขึ้นราคา
         เมื่อเวลา 08.00 น. ของวันที่ 25 ตุลาคม 2567ผู้สื่อข่าว ลงพื้นที่สำรวจราคากะทิคั้นสดหลังพบว่ามีการปรับราคาขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่ร้านเจ้แอนน้ำกะทิคั้นสด หน้าบ้านเอื้ออาทรเขาแตงอ่อน ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พบว่ามะพร้าวแก่ ที่เป็นวัตถุดิบนำมาใช้คั้นกะทิสดมีการปรับราคาขึ้นอย่างต่อเนื่องและขาดตลาด ทำให้วันนี้ราคาขายกะทิสดขึ้นสูงถึง กก.ละ 90 บาท และมีแนวโน้มสูงถึง กก.ละ 100 บาท พร้อมติดป้ายแจ้งให้ลูกค้าทราบการปรับขึ้นราคาน้ำกะทิคั้น
           นางสาวจิตรนภา เจริญศรี อายุ 48 ปี เจ้าของร้านขายกะทิคั้นสด เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนเองเพิ่งเปิดร้านได้ประมาณช่วงต้นปี ซื้อมะพร้าวเพื่อใช้คั้นกะทิสด จากชาวสวนในตอนแรกเริ่มต้นที่ลูกละ 25 บาท นำมาคั้นเป็นกะทิสดขายในราคากิโลกรัมละ 70 บาท แต่ทางสวนมะพร้าวได้ทำการแจ้งก่อนแล้วว่า มะพร้าวจะขาดเริ่มจะหายากและเริ่มปรับราคามาเป็น ลูกละ 27 บาท ทางร้านก็ยังพยุงราคาขายในราคากิโลกรัมละ 70 บาทอยู่ ยังไม่ปรับขึ้นราคา จนมะพร้าวขยับมาถึงลูกละ 30 บาท
            ทางร้านจึงปรับขึ้นราคามาเป็นกิโลกรัมละ 80 บาท ทางสวนก็บอกอีกว่ารอบหน้ามะพร้าวจะเป็นลูกละ 35 บาทแล้วนะ ทางร้านก็ต้องปรับราคาขึ้นอีก แต่ทุกครั้งที่เราปรับราคาขึ้นเราจะแจ้งให้ลูกค้าทราบก่อน โดยเฉพาะลูกค้าขาประจำ ปัจจุบันนี้ทางร้านซื้อมะพร้าวในราคาลูกละ 35 บาท จึงจำเป็นต้องขายกะทิคั้นสด ในราคากิโลกรัมละ 90 บาท
            โดยทางสวนมะพร้าวเองบอกกับทางร้านว่า เหตุที่มะพร้าวแพงเพราะว่าด้วงมันกินยอดทำให้ต้นมะพร้าวตาย ทำให้มีผลผลิตน้อยและการเติบโตของมะพร้าวต้องใช้ระยะเวลา เมื่อสอยลูกแก่ไปแล้วก็ต้องรอให้ผลเล็กเจริญเติบโตมาแทนที่ ซึ่งมะพร้าวแต่ละขนาดก็จะใช้ประโยชน์ไม่เหมือนกันราคาต่างกัน แต่มะพร้าวแก่ที่นำมาใช้คั้นกะทิจะราคาแพงที่สุด ซึ่งตอนนี้ตกลูกละ 35 บาท
            ขณะที่ นาย เอื้อ ไพบูลย์ อายุ 50 ปี พ่อค้าขายข้าวหลามกับขนมจาก กล่าวว่า เริ่มแรกซื้อกะทิใช้กิโลกรัมละ 65 บาท แต่ในตอนนี้ต้องซื้อในราคา 80-90 บาท ซึ่งเป็นราคาที่แพงขึ้นมาก ส่วนทางร้านเองใช้กะทิประมาณวันละ 5 กิโลกรัม ตกประมาณ 400-500 บาท ในการซื้อน้ำกะทิ และยังไม่รวมถึงวัตถุดิบอื่นๆ อีก ซึ่งในอนาคตถ้าราคายังแพงอยู่ก็อาจจะต้องขึ้นราคาสินค้า แต่ในตอนนี้ทางร้านเองก็ยังคงขายในราคาปกติอยู่เพราะเห็นใจและสงสารลูกค้า

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!