ประจวบคีรีขันธ์-อุทยานกุยบุรีพบกระทิงป่าเพศเมียตายอืดปริศนา

ภาพ-ข่าว:เอกภพ วงษ์ประเสริฐ

            เมื่อเวลาประมาณ 15.30 น.วันที่ 27 ต.ค.67 นายอรรถพงษ์ เภาอ่อน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ได้มอบหมายให้นายสนธยา หอมทั่ว หัวหน้าหน่วยพิทักษ์ กร.4 บ้านหุบมะซาง นำกำลังพลเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดที่พบศพวัวกระทิงตาย หลังจากได้รับแจ้งจาก นายปรีดา บางบาล อายุ 55 ปี เกษตรกรชาวไร่ผู้ปลูกสับปะรด ว่าพบวัวกระทิงตายขึ้นอืดอยู่บริเวณท้ายไร่สับปะรดขอให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ โดยจุดที่พบศพวัวกระทิงตายเป็นบริเวณท้ายไร่สับปะรดของตน หมู่บ้านกระทุ่น ซอย 3 หมู่ 5 ตำบลเขาจ้าว อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
           โดยได้นำกำลังพลเจ้าหน้าที่จำนวน 5 นาย ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดบริเวณดังกล่าว พบว่ามีชาวบ้านที่ทราบข่าวเดินทางมาดูด้วยความสงสัย ซึ่งวัวกระทิงตัวดังกล่าวเป็นวัวกระทิงขนาดใหญ่เขางาม เพศเมีย อายุประมาณ 5 ปี นอนตายในสภาพตะแคงขวา ขึ้นอืด ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง มีแมลงวันตอมทั่วร่างกาย อุจจาระจุกก้น ตามบริเวณร่างกายพบร่องรอยคล้ายบาดแผลตกสะเก็ดจำนวนมากทั่วร่างกาย คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วได้ประมาณ 5 วัน
          ส่วนสาเหตุการตายต้องรอให้สัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้องมาร่วมผ่าชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดอีกครั้ง โดยทางหัวหน้าอุทยานกุยบุรีได้จัดกำลังพลเจ้าหน้าที่ 5 นาย นอนเฝ้าซากวัวกระทิงตัวดังกล่าวไว้ตลอดทั้งคืน เพื่อป้องกันไม่ให้ซากถูกเคลื่อนย้าย หรือ ถูกสัตว์ป่ามากัดแทะ เพื่อรอทีมสัตวแพทย์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาผ่าชันสูตรในช่วงสายของวันถัดไป
            นายปรีดา บางบาล อายุ 55 ปี เกษตรกรชาวไร่สับปะรด ผู้พบซากหัวกระทิงตัวดังกล่าว เปิดเผยว่า ตนเองได้เข้ามาเก็บผลสับปะรดที่ปลูกไว้เพื่อจะนำเอาไปขาย และเข้ามาดูแลไร่ของตนเอง และในระหว่างนำรถมากลับหัวรถที่บริเวณท้ายไร่ ก็พบว่ามีวัวกระทิงนอนอยู่ จึงได้จอดรถดูก็พบว่ามีกลิ่นเหม็นและมีแมลงวันตอมแล้ว ซึ่งตนเองไม่ได้เข้ามาดูแลไร่เป็นเวลาหลายวัน และ วันนี้จึงได้เข้ามาเก็บผลสับปะรดที่หลงเหลือจึงพบว่าในไร่ของตนมีร่องรอยความเสียหายของต้นสับปะรดที่ถูกวัวกระทิงกิน และพบว่ามีซากวัวกระทิงนอนตายอยู่บริเวณท้ายไร่ดังกล่าวด้วย