อำนาจเจริญ-ตำรวจรวบมิจฉาชีพตัวแสบ..หลอกเงินบุญกฐิน 50,000 บาท
ภาพ-ข่าว:ทิพกร หวานอ่อน
“หลวงพ่อวัดดังขอบคุณ ตำรวจ-ทนาย นักข่าว ที่ช่วยเหลืออาตมาจนจับโจรได้ตัวเป็นๆเพียงไม่กี่วัน”
วันที่ 10 พฤศจิกายน 2567 นายจำรัส ไกยสิทธิ์ ทนายชื่อดังจังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวว่า จากกรณีแก๊งมิจฉาชีพเหิมเกริมหลอกลวงตุ๋นเงินบุญกฐิน วัดป่าทองสมร อำเภอหัวตะพาน จังหวัดอำนาจเจริญ ซึ่งมีพระครูกมลวัฒนาทรเจ้าอาวาสฯ โดยท่านเจ้าอาวาส ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจอำเภอหัวตะพานและท่านผู้การตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ พร้อมผู้สื่อข่าวและทนายความที่ได้ร่วมไม้ร่วมมือกัน จนเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถแกะรอยและติดตามจับตัวคนร้ายได้ในเช้ามืดวันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมาสำเร็จ
เจ้าอาวาสบอกอีกว่า หลังจากเกิดเหตุกินไม่ได้นอนไม่หลับ มาหลายวันกรณีคนร้ายตุ๋นเงินวัดไปครึ่งแสนเมื่อตำรวจจับกุมคนร้ายได้สำเร็จอาตมานอนตาหลับส่วนความผิดนั้นเป็นหน้าที่ของขบวนการยุติธรรมจะดำเนินการอาตมาฝากญาติๆผู้ต้องหาขอให้เอาเงินคืนวัดทุกอย่างก็จะดีเองหลวงพ่ออโหชิกรรมให้ทางด้านนายจำรัส..ไกยสิทธิ์ทนายดังจังหวัดอำนาจเจริญกล่าวอีกว่าขอฝากเตือนไปยังวัด 40,000 วัดทั่วประเทศ ให้ระมัดระวังเรื่องมิจฉาชีพที่มาทุกรูปแบบเมื่อเจ้าหน้าที่นำจับคนร้ายได้ก็เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ดำเนินตำรวจจำดำเนินการตามขบวนการยุติธรรมตามกฎหมายต่อไปกล่าวที่สุด ตนขอชมเชยตำรวจทำงานได้เจ๋งมากสุดยอด
ทางด้านพระครูกมล วัฒนาทร เจ้าอาวาสวัดป่าทองสมร ตำบลรัตนวารี อำเภอหัวตะพาน กล่าวว่าอาตมาต้อง ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เอาใจใส่ได้ติดตามแก๊งคนร้ายหลอกลวงต้มตุ๋นเงินจากวัดอาตมาไป 50,000 บาท ตนทราบมาว่าขณะนี้ยังฝากขังคนร้ายและยังไม่มีญาติติดต่อมาขอประกันตัวเลยและคนร้ายยอมรับสารภาพว่าได้รับจ้างเปิดบัญชีในชื่อของตนเองจริง แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่เชื่อว่าทำคนเดียว ต้องมีผู้ร่วมขบวนการนี้อย่างน้อย 2 ถึง 3 คนขึ้นไป
อาตมาจึงขอวิงวอนเจ้าหน้าที่ช่วยจับกลุ่มคนที่เป็นขยะของสังคมให้หมดไปในที่สุด แล้วสังคมจะอยู่อย่างปลอดภัย จากกลุ่มคนที่หาวิธีหาเงินในทางที่ผิดกฏหมายบ้านเมืองเช่นนี้ และอาตมาต้องขอบคุณทางท่านผู้การอำนาจเจริญทางตำรวจอำเภอหัวตะพานทุกท่านที่ติดตามจนสามารถจับกุมตัวคนร้ายมาได้ในครั้งนี้1รายอ้างเป็นคนเปิดบัญชี ตำรวจสุดยอดเก่งจริงๆและที่ลืมขอบคุณไม่ได้คือท่านทนายความจำรัส ไกยสิทธิ์และนายทิพกร หวานอ่อน ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดอำนาจเจริญ ที่ได้นำเสนอข่าวนี้อย่างต่อเนื่องจนคนร้ายทราบข่าวจากสื่อต่างๆและคนร้ายออกปากว่าได้ทราบได้ดูข่าวต่างๆจากสื่อและตนขอสำนึกผิดตนจึงรู้สึกเสียใจและรู้สึกผิดอย่างมหัสที่มาทำกับพระสงฆ์องค์เจ้า
ตนจึงอยากของไถ่บาปที่ตนทำขึ้นในครั้งนี้ อาตมาได้เห็นคนร้ายร้องไห้ น้ำตาไหลนองหน้าตอนอยู่โรงพัก สภ.หัวตะพาน ตอนเจ้าหน้าที่ตำราจจะคุมนำตัวไปฝากขัง อาตามว่าบาปบุญมีจริง ทำดีย่อมได้ดี ทำชั่วก็ได้ชั่ว ทุกวันนี้กรรมมันติดจรวจแล้วนะโยม ต้องทำดีไว้จะได้มีสุข อาตมาของขอบคุณทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้งหนึ่งที่เก่งและทำงานตามจับคนร้ายได้อย่างรวดเร็วอาตมาต้องขอชมเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างมาก เจริญพร
ทางด้าน พล.ต.ต.มารุต เรืองจินตนา ผู้บังคับการตำรวจภููธรจังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวว่า จากการที่ตนทราบข่าว ตนไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มีการเรียกประชุมด่วน เจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะตำรวจทาง ด้านอำเภอที่เกิดเหตุที่อำเภอหัวตะพาน พร้อมวางแผนในการจับกุม แก๊งมิจฉาชีพที่มา ใช้กลอุบายหลอกลวง เอาทรัพย์สินของ ทางวัด ป่าทองสมร ตำบลรัตนาวดีอำเภอหัวตะพาน จาก เจ้าอาวาสวัด ดังกล่าวไป แรกๆเป็นเงิน 50,000 บาท แล้วจะหลอกลวงต่ออีก 30,000 บาท แต่ทางเจ้าอาวาส เอะใจรู้ตัวก่อน จึงได้นำความเข้าใจความ กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หัวตะพาน จนสามารถจับกุม ตัวคนร้ายได้ ในเวลาอันรวดเร็ว และทันควัน ตนต้อง ขอขอบคุณทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ทำงานได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะตำรวจทางด้านสภ.อำเภอหัวตะพาน ขอบคุณทาง พ.ต.อ.รัชยศ มาศพันธ์ ผกก.สภ.หัวตะพาน ,พ.ต.ท.ปัญญา นราชัย รอง ผกก.สส.สภ.หัวตะพาน
และตำรวจหัวตะพาน ที่สามารถ วางแผนจับกุม คนร้าย ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจากนี้ไป ทางตำรวจจะได้ดำเนินการตามกฎหมาย จับคนร้าย ที่จับตัวมาได้ และจะขยายผลไปยังกระบวนการแก้วมิจฉาชีพเหล่านี้ที่อยู่เบื้องหลัง ทุก ราย ในเร็วๆนี้ ตนขอฝากเตือนในช่วงนี้แก๊งมิจฉาชีพ จะเหิมเกริม ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศก็ว่าได้ ให้ประชาชนในจังหวัดอำนาจเจริญรวมทั่วจังหวัดใกล้เคียง ให้ระมัดระวัง อย่าหลงเชื่อ ขบวการแก้งมิจฉาชีพเหล่านี้ ในการที่จะเข้ามาตีสนิทและหลอกลวงเอาทรัพย์สินเรา ไม่ว่าจะเป็นซึ่งๆหน้าหรือทางออนไลน์ อย่าหลงเชื่อง่ายๆโดยเด็ดขาด หากไม่แน่ใจหรือสงสัย ให้รีบ รายงานทางเจ้าหน้าที่บ้านเมืองหรือ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจ ที่อยู่ใกล้ เป็นเบื้องต้นไว้ก่อน เพื่อจะไม่ตกเป็นเหยื่อ ของแก๊งมิจฉาชีพ เหล่านี้อีกต่อไป