ประจวบคีรีขันธ์-สบอ.3 เพชรบุรี เปิดยุทธการจับลิงหัวหินทำหมัน ลดความเดือดร้อนชุมชน
ภาพ-ข่าว:กูลเสวก เสวกวรรณกร
เมื่อวันที่ 11 พ.ย.67 นายสมเจตน์ จันทนา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (สบอ.3) สาขาเพชรบุรี พร้อมด้วย นายสุรศักดิ์ อนุเมธางกูร ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า นายอนุรักษ์ สกุลพงษ์ นายสัตวแพทย์ หัวหน้าหน่วยงานภาคสนาม และเจ้าหน้าที่ฯ ร่วมกับเทศบาลเมืองหัวหิน เปิดยุทธการจับลิงที่สร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนตามข้อสั่งการของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
บริเวณเขาตะเกียบและเขาหินเหล็กไฟ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ ระหว่างวันที่ 11 – 14 พ.ย.67 โดยมีเป้าหมายเคลื่อนย้ายลิงจำนวน 200 ตัว เพื่อลดความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ และในวันนี้สามารถจับลิงเขาตะเกียบได้ 20 ตัว เพศผู้ 8 ตัว เพศเมีย 12 ตัว ทำหมันแล้ว 20 ตัว โดยได้นำลิงย้ายไปดูแลที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยทราย จ.เพชรบุรี เพื่อดำเนินการตรวจสุขภาพ ก่อนวางแผนในการทำหมันเพื่อควบคุมจำนวนประชากรลิงในระยะยาวต่อไป
นายสมเจตน์ จันทนา กล่าวว่า การควบคุมประชากรลิงในครั้งนี้ เป็นการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากลิงลงมารบกวนและสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สิน โดยเจ้าหน้าที่จะดำเนินการด้วยความระมัดระวังและคำนึงถึงสวัสดิภาพของสัตว์ป่าเป็นสำคัญ นอกจากนี้ทางทีมงานได้พัฒนานวัตกรรมกรงดักลิงระบบรีโมทคอนโทรลขึ้นเป็นพิเศษ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจับลิงอย่างปลอดภัยและมีมนุษยธรรม
โดยกรงดักมีขนาดกว้าง 50 เซนติเมตร ยาว 120 เซนติเมตร และสูง 60 เซนติเมตร ทำงานด้วยระบบไฟฟ้าจากแบตเตอรี่รถจักรยานยนต์ขนาด 12 โวลต์ นวัตกรรมนี้ใช้ระบบรีโมทคอนโทรลที่สามารถสั่งการได้ในระยะ 20-25 เมตร โดยเมื่อลิงเข้ามากินเหยื่อล่อ เจ้าหน้าที่สามารถกดรีโมทเพื่อส่งสัญญาณไปยังมอเตอร์ขนาดเล็กที่ติดตั้งกับสลักประตูกรง ทำให้ประตูกรงปิดลงโดยอัตโนมัติ จุดเด่นของกรงนี้คือสามารถต่อเพิ่มความยาวได้ตามต้องการ ทำให้สามารถดักจับลิงได้ครั้งละหลายตัว ซึ่งช่วยประหยัดเวลาและทรัพยากรในการปฏิบัติงาน ทั้งนี้ ประชาชนสามารถแจ้งเหตุลิงรบกวนได้ที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี หรือสายด่วนพิทักษ์ป่า 1362 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานงานแก้ไขปัญหาต่อไป
