ราชบุรี-เพจ”เพชร พูดแล้วทำ”รุดเข้าช่วย 4 พี่น้อง หลังถูกทิ้งอยู่กันลำพัง

ราชบุรี-เพจ”เพชร พูดแล้วทำ”รุดเข้าช่วย 4 พี่น้อง หลังถูกทิ้งอยู่กันลำพัง

ภาพ-ข่าว:สุจินต์ นฤภัย ( เต้ ) 

         วันที่ 15 พ.ย.67 นายเพ็ญเพชร สำเนียงสูง เจ้าของเพจ “เพชร พูดแล้วทำ”จับมือ นายนพดล เพิ่มพูลทวีชัย ปลัดอำเภอโพธาราม พร้อม พ.ต.ท. สมบัติ ครุฑธา รองผกก.สภ.เขาดิน รรท.ผกก.สภ.เขาดิน, นายมงคล นาคเนียม นายกทต.เขาขวาง, จนท.พัฒนาสังคมความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดราชบุรี, จนท.บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดราชบุรี และผู้นำชุมชน ลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่ 3 ต.นางแก้ว อ.โพธาราม จ.ราชบุรี
         หลังได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้าน ให้เข้าช่วยเหลือ 4 พี่น้องได้แก่ ด.ญ.วิรดา  อายุ 7 ปี, ด.ญ.วิชญาพร  อายุ 6 ปี, ด.ญ.วิภาพร  อายุ 4 ปี และ ด.ช.วิษณุ อายุ 11 เดือน ที่อยู่กันตามลำพังอย่างยากไร้ ในเพิงพักที่ไม่มีไฟฟ้าไม่มีคนดูแล ปัจจุบัน น.ส.เพ็ญพิมล แผ้วสมบูรณ์ หน.กู้ภัยสว่างราชบุรี จุดนางแก้ว จึงได้เข้าช่วยเหลือรับเด็กๆทั้ง 4 คนมาดูแล แต่ไม่สามารถรับดูแลได้ตลอด จึงแจ้ง นายเพ็ญเพชร สำเนียงสูง เจ้าของเพจ “เพชร พูดแล้วทำ” เข้าช่วยเหลือ
         ผู้สื่อข่าว รายงานว่า ไบางวันชาวบ้านเห็นเด็กๆต้องพากันเดินจากเพิงพัก เพื่อไปขอข้าววัดกินประทังชีวิต จนญาติได้ให้อาศัยบริเวณหลังบ้าน ซึ่งไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวก และไม่มีไฟฟ้าใช้เช่นเดียวกัน ทั้งหลังคาบ้านมีรอยรั่ว โดยทั้งหมดได้กลางมุ้งนอน มีเพียงจานชาม เสื้อผ้า ของเล่นวางกองเรียงราย รอบบริเวณบ้านมีขยะกองอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่า เด็กทั้ง 4 ได้อาศัยอยู่กับ นายวิเชียร หรือ โบ้ พุดปั้น อายุ 34 ปี ผู้เป็นพ่อ โดยให้ข้อมูลว่า เป็นคนจ.สระบุรี มารู้จักและอยู่กินกับ น.ส.นุช อายุ 36 ปี ชาว ต.นางแก้ว อ.โพธาราม จ.ราชบุรี และอยู่กินพักอาศัยใน ต.นางแก้ว จนมีลูกด้วยกัน 4 คน แต่ผู้เป็นแม่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ชอบปล่อยลูกทิ้งขว้างและหายไปหลายวัน จะกลับมาหานายโบ้ เพื่อเอาเงินแล้วหายออกจากบ้านไป จนญาติพี่น้องเอือมระอาไม่อยากให้การช่วยเหลือ
          ขณะที่นายโบ้ ต้องรับหน้าที่เป็นทั้งพ่อทั้งแม่ในเวลาเดียวกัน ซึ่งทุกวันนายโบ้ ต้องออกไปทำงานรับจ้างเป็นช่างเชื่อม โดยได้ค่าจ้าง 300 – 500 ต่อวัน จึงจำเป็นต้องปล่อยให้เด็กๆอยู่กันเอง ทำให้ ด.ญ.วิรดา อายุ 7 ปี จะคอยทำหน้าที่ดูแลน้องๆ ส่วนที่พักได้ค้างค่าไฟมาหลายงวด ทำให้ทางการไฟฟ้าต้องถอดหม้อไฟไป ทำให้ไม่มีไฟฟ้าใช้นานกว่า 6 เดือน ต้องอาศัยจุดเทียนอยู่กันแบบอนาถาในที่พักทรุดโทรม บางวันเด็กๆไม่มีเงินกินข้าว จึงต้องพากันกระเตงเดินไปขอข้าวจากชาวบ้านและวัด เพื่อประทังความหิว ส่วนเรื่องโรงเรียนไปบ้างหยุดบ้าง เนื่องจากมีปัญหาเรื่องเงิน อุปกรณ์การเรียน และเรื่องคนรับส่งไปโรงเรียน หลังนายเพชร เจ้าของเพจ “เพชร พูดแล้วทำ” ทราบเรื่องราว จึงประสาน 7 หน่วยงานลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือ
            โดยเบื้องต้น นายนพดล เพิ่มพูลทวีชัย ปลัดอำเภอโพธาราม ได้ร่วมประชุมหารือกับ 7 หน่วยงาน ที่โรงเรียนวัดนางแก้ว ซึ่งเป็นสถานที่ที่ลูกสาวทั้ง 3 คนของนายโบ้เรียนอยู่ เพื่อหาแนวทางการแก้ปัญหาช่วยเหลือเด็กๆทั้ง 4 คน ร่วมกับ นายสุรเชษฐ์ สายสุดใจ ผอ.โรงเรียนวัดนางแก้ว ซึ่งให้การช่วยเหลือลูกสาวทั้ง 3 คนของนายโบ้ในเรื่องการศึกษา โดยเบื้องต้นผลการประชุมให้การช่วยเหลือ ได้ให้ทาง พ.ต.ท.สมบัติ ครุฑธา รองผกก.สภ.เขาดิน รรท.ผกก.สภ.เขาดิน พาผู้เป็นแม่เข้าสู่กระบวนการบำบัด เพื่อให้สามารถกลับมาดูแลครอบครัวและลูกๆได้ พร้อมบูรณาการกับหน่วยงานต่างๆ เข้าช่วยเหลือเรื่องความเป็นอยู่ของเด็กๆ พมจ.ราชบุรี จะเข้าช่วยเหลือดูแลซ่อมแซมบ้านที่อยู่อาศัยและมอบสิ่งของจำเป็น ทางเทศบาลเขาขวาง จะดำเนินการเรื่องสิทธิการรับเงินอุดหนุนเด็ก พร้อมให้ทาง ผู้ใหญ่บ้านและอสม.เข้าไปดูแลเรื่องสุขอนามัยของเด็กๆ
            ส่วนในช่วงที่นายโบ้ ผู้เป็นพ่อไปทำงาน ได้มอบหมายให้ น.ส.เพ็ญพิมล หน.กู้ภัยสว่างราชบุรี จุดนางแก้ว ช่วยดูแลเด็กๆจนกว่า นายโบ้ ผู้เป็นพ่อจะกลับจากทำงาน ส่วนนายจ้างของนายโบ้ ยังพร้อมอนุญาตให้นายโบ้ลาหยุดได้ ในกรณีที่ไม่มีใครดูแลเด็กๆ ด้าน นายเพชร จะเข้าดำเนินการช่วยเหลือเรื่องการชำระค่าไฟฟ้าที่ติดค้าง และประสานขอติดตั้งหม้อไฟฟ้าใหม่ให้ เพื่อให้เด็กๆมีไฟฟ้าใช้ โดยเบื้องต้นจะไม่เปิดรับบริจาคขอความช่วยเหลือ โดยทั้ง 7 หน่วยงานและทางโรงเรียน ตลอดจนผู้นำชุมชนจะช่วยกันดูแลเด็กๆ แต่หากมีผู้ใจบุญสนใจอยากให้การช่วยเหลือ สามารถนำสิ่งของมามอบให้เด็กๆได้ โดยติดต่อได้ที่ เทศบาลตำบลเขาขวาง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 และโรงเรียนนางแก้ว ซึ่งเด็กๆขาดอุปกรณ์การศึกษา เสื้อผ้าชุดนักเรียน และชุดชั้นใน โดยหลังการประชุมแล้วเสร็จ ทางพมจ.ราชบุรี และศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.ราชบุรี สถาบันการพัฒนาความรู้ ด้านการพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ได้มอบสิ่งของที่จำเป็นเช่น นมยูเอชที, นมผง, โจ๊กกึ่งสำเร็จรูป และแพมเพริส ให้กับเด็กทั้ง 4 คนด้วย
            ขณะที่ นายโบ้ ได้กล่าวว่า ตนยอมรับว่ารักภรรยามาก จึงได้ทนพฤติกรรมของภรรยา แต่เนื่องจากตนต้องทำงาน เพื่อหาค่าใช้จ่ายมาดูแลลูกๆทั้ง 4 คน ทำให้ช่วงตนออกไปทำงานจำเป็นต้องทิ้งเด็กๆทั้ง 4 คน ให้อยู่ตามลำพัง แต่โชคดีที่ได้ทาง น.ส.เพ็ญพิมล หน.กู้ภัยสว่างราชบุรี จุดนางแก้ว รับฝากเด็กๆช่วยดูแล แต่ไม่สามารถรับฝากได้ทุกวัน จึงทำให้เด็กๆลำบาก ซึ่งทางนายจ้างทราบเรื่องก็ช่วยเหลือให้เบิกเงินค่าแรงมาใช้จ่ายในครอบครัว แต่ทุกครั้งที่ตนทิ้งเงินไว้ให้เด็กๆ ภรรยาของตนก็มาแอบเอาไป ทำให้เด็กๆต้องพากันเดินออกไปขอข้าวจากชาวบ้านและวัดใกล้ที่พักกิน
           ส่วนเรื่องเรียนตนพยายามไม่ให้เด็กๆขาดเรียน แต่บางครั้งมีความจำเป็นเนื่องจากเสื้อผ้านักเรียนมีเพียงชุดเดียว และอุปกรณ์การเรียนมีไม่ครบ จึงจำเป็นต้องยอมให้เด็กๆขาดเรียน ซึ่งวันนี้ ทางผอ.โรงเรียนทราบเรื่องแล้ว พร้อมให้การช่วยเหลือเรื่องอุปกรณ์การเรียน ส่วนเรื่องการเปิดรับบริจาคเงินช่วยเหลือ ตนยอมรับว่าอยากเปิดรับการช่วยเหลือ แต่พอคิดได้ว่าถ้าได้เงินมาแต่ภรรยาของตนยังมีพฤติกรรมแบบนี้ ก็ไม่ได้ช่วยอะไรจึงไม่คิดขอเปิดรับบริจาค แต่อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าช่วยเหลือเรื่องความเป็นอยู่ และการศึกษาของลูกๆ
          “ซึ่งตนอยากขอบคุณทุกหน่วยงานที่เข้ามาช่วยเหลือวันนี้ และตนขอยืนยันความช่วยเหลือของทุกคนจะไม่สูญเปล่า ซึ่งตนจะพยายามดูแลลูกๆทุกคนให้มากกว่านี้” นายโบ้ ผู้เป็นพ่อของน้องๆทั้ง 4 กล่าว…….

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!