เศร้าใจ…!!การเมืองสงขลาจบด้วยการเจรจาต่อรองบนผลประโยชน์ส่วนตัว มองข้ามหัวประชาชน
ภาพ-ข่าว:นายหัวไทร
น่าเสียดาย และเศร้าใจที่เกมการเมืองท้องถิ่นในจังหวัดสงขลาจบลงด้วยการเจรจา-ต่อรอง ปิดทาง “ไพเจน มากสุวรรณ์” นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา เพื่อเปิดทางให้ “สุพิศ พิทักษ์ธรรม” อดีตอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร โดยผู้มากบารมีจากนักการเมืองใหญ่ระดับเสนาบดี ตั้งโต๊ะเจรจาเอง
บนโต๊ะเจรจาบีบให้ไพเจนถอนตัว ไม่มีเรื่องของผลประโยชน์ประเทศชาติและประชาชน เป็นการเจรจาบนผลประโยชน์ส่วนตัวล้วนๆ ฝ่ายหนึ่งต้องการผลักดันคนใหม่ขึ้นมาแทน อีกฝ่ายก็อึดอัดใจกับบุญคุณที่เคยมีต่อกัน
บุญคุณที่มีต่อกันเมื่อครั้งการเลือกตั้งนายกฯอบจ.ครั้งที่แล้วที่พลพรรคประชาธิปัตย์ต่างมารุมกันจน “ไพเจน”ชนะการเลือกตั้ง บางคนรุมด้วยพลกำลัง และเครือข่าย บางคนรุมด้วยขุมทรัพย์ บางคนรุมทั้งพลกำลังและขุมทรัพย์ จนทำให้ พ.อ.(พิเศษ)สุชาติ จันทรโชติกุล ต้องพ่ายแพ้ ทั้งๆที่คะแนนในเมือง พ.อ.สุชาตินำมาห่างมาก แต่ไปแพ้ในต่างอำเภอ
เมื่อการเมืองจบลงด้วยการเจรจาบนผลประโยชน์ส่วนตัว โดยมองข้ามหัวประชาชน มีใครบางคนใช้สิทธิ์แทนประชาชน ตัดสินเชิงขอร้อง-บีบคั้น ปิดทางไม่ให้ลงสมัครรับเลือกตั้ง เท่ากับเป็นการปิดทางประชาชนในการพิจารณากลั่นกรองบุคคลเข้าสู่ตำแหน่งทางการเมือง
ตามหลักการของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย สิทธิเสรีภาพ ภารดรภาพ เป็นหลักการขั้นพื้นฐาน ผู้มีคุณสมบัติพร้อมครบถ้วนก็มีสิทธิ์เสนอตัว “ให้ศาลประชาชน” เป็นคนตัดสินขี้ขาด การที่นักการเมืองบางคนใช้อำนาจบารมี บีบบังคับ ใช้สิทธิ์แทนประชาชนเป็นการกระทำที่ไม่ชอบตามหลักการประชาธิปไตยที่ทุกคนมีสิทธิ์โดยเท่าเทียมกัน
ถ้าคิดว่าคนที่ตัวเองเข้าไปให้การสนับสนุนดีพอ มีความซื่อสัตย์สุจริต มีแนวคิดแนวทางที่ดีในการบริหารบ้าน มีประสบการณ์ที่สั่งสมมายาวนาน ก็ไม่เห็นจะต้องเกรงกลัวอะไร นำเสนอสิ่งดีๆต่อประชาชน ถึงที่สุดแล้วประชาชนจะตัดสินเอง การเคารพต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน นี่คือหัวใจของนักประชาธิปไตย
เมื่อไพเจนถูกปิดกั้นโดยผ่านการเจรจาต่อรอง เท่ากับเป็นการปิดกั้นสิทธิ์เสรีภาพของประชาชนด้วย นี้ไม่ใช่ประชาธิปไตย แต่มันคือ….การปิดกั้นไพเจนได้สำเร็จ ทำให้ “สุพิศ”น่าจะลอยลำเข้าสู่ตำแหน่งนายกฯอบจ.สงขลา เพราะยังไม่เห็นคู่แข่งที่สูสี และยังไม่เห็นเค้าโครงว่าจะมีใครหาญกล้าอาสาลงแข่ง
แม้จะมีนิรันดร์ จินดานาค ว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.สงขลา จากพรรคประชาชนเปิดตัวมาสักพักแล้ว โทษทีที่ไม่รู้ประวัติมากพอที่จะสาธยายได้ รู้เพียงว่า เรียนจบจากโรงเรียนมหาวชิราวุธ สงขลา โรงเรียนดังประจำจังหวัด
โดยส่วนตัวเชื่อว่า ถ้ามีการฟอร์มทีมใหม่ๆสดๆขึ้นมา หาญกล้าลงสู้ “สุพิศ”ก็หนาวเหมือนกัน อยากเห็นคนสงขลากล้าที่จะฟอร์มทีมสู้กับ “สุพิศ” เป็นทางเลือกให้กับประชาชน