สมุทรปราการ-หัวขโมยแสบ..ย่องงัดร้านกาแฟกลางดึกแถมโทรหาลูกค้าพูดจาลามก..!!
ภาพ-ข่าว:สุรศักดิ์ / อัญมณี คงสินธ์
จากกรณี ที่ผู้ใช้เฟสบุ๊ค ชื่อ M Duangsuda Pianchalangek ได้โพสต์ภาพจาก กล้องวงจรปิด นาทีที่หัวขโมยงัดเข้ามาในร้านกาแฟมารื้อค้น และขโมยทรัพย์สินภายในร้าน ซึ่งมีเงินสด จำนวน 5 พันบาท โทรศัพท์มือถือของร้าน ก่อนที่จะหลบหนีออกไป โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อช่วงกลางดึกคืนวันที่ 23 พฤศจิกายน 2567 เวลา 03.17 น เหตุเกิดที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ริมถนนเทศบาล 12 ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ
โดยที่เจ้าของเฟสบุ๊คดังกล่าวยัง โพสต์ข้อความว่า ตามล่าโจรบุกเข้าร้าน ความใจเย็นของมัน กับการงัดประตู เข้ามาลื้อค้น งัดแงะ เอาเงินสด และโทรศัพท์ไป ใช้เวลาประมาณเกือบ 1 ชม. หวังว่าคลิปทั้งหมดจะเป็นประโยชน์ต่อการทำงานของตำรวจนะคะ ใครมีช่องทางให้ติดต่อ ติดตามยังไง รบกวนด้วยนะคะ
ก่อนที่ เจ้าของโพสต์ดังกล่าว จะโพสต์ข้อความอีกครั้ง เรื่องต่อ จากขโมยเข้าร้าน เมื่อขโมยเอาโทรศัพท์ของร้านไป ซึ่งเป็นโทรศัพท์ รุ่นธรรมดาสุดๆ เนื่องจากไม่จำเป็นต้องมีฟังก์ชันอะไรต้องใช้มากมาย สิ่งที่เกิดขึ้น หลังจากโทรศัพท์มือถือหายไป เราได้วิเคราะห์แล้วว่า น่าจะเกี่ยวข้องกัน และเป็นพวกเดียวกัน
วันที่ 23 พฤศจิกายน 2567 เวลา 13.41 น. มีเบอร์โทรศัพท์หมายเลข 098-054-8529 โทรไปยังลูกค้าของร้านที่มีเบอร์เซฟอยู่ในโทรศัพท์เครื่องที่โดนขโมย ข้อความที่คุย คือ บอกได้เลยว่าโรคจิต ลามก อนาจาร อวดอ้างของลับว่าใหญ่โต และชักชวนให้ออกไปโรงแรม ซึ่งลูกค้าถามกลับว่าได้เบอร์มาจากไหน โรคจิตแจ้งว่าเพื่อนบอกมา และยังพูดว่าเห็นลูกค้ามากินกาแฟที่ร้านทุกเช้าและใส่ชุดออกกำลังกาย ซึ่งตรงตามนั้น ลูกค้าได้ทำการแกล้งนัดหมายให้มาเจอกันที่หน้าร้านหลังร้านปิด เวลา 2 ทุ่ม .. เปิดกล้องหน้าร้านดู และใช่ มันมาค่ะ แจ้งตำรวจแล้วมาไม่ทันคลาดกันมันเดินหายไปก่อน
แต่ดูแล้วเห็นว่าคือคนละคนกับที่เข้าไปขโมยของในร้าน เวลา 17:33 น. มีเบอร์ติดต่อจากแอพไลน์แมน โทรเข้ายังเบอร์สำรองของร้านที่เปลี่ยนในหน้าแอพ และ พูดลามก อนาจาร ทำเสียงครางใส่ เวลา 17:39 น. มีเบอร์ของร้าน ย้ำ เบอร์ !!!! ของร้านที่หายไป โทรไปหาลูกค้า และเช่นเดิม พูดจาลามก อนาจาร คุกคาม อวดอ้าง เมื่อลูกค้า เอาเบอร์ไปค้นหาใน google พบว่าเป็นเป็นเบอร์ของทางร้านจึงได้ติดต่อมาแจ้งเหตุให้ทางร้านทราบ … ปัจจุบันได้ระงับเบอร์โทรนั้นๆแล้ว และได้ไปขอ sim ใหม่เรียบร้อย หมดวันไปด้วยความกังวลใจ กลัวความเดือดร้อนไปถึงลูกค้าทั้งหมดของวันที่ 23 ได้มีแจ้งเบาะแสไปยังตำรวจตลอดทั้งหมด ทั้งคลิป ทั้งเบอร์โทร ทำได้เพียงรอเวลาว่าจะจับมันให้ได้
จน เวลา ตี 2:34 น. เบอร์โทร 098-054-8529 ได้โทรเข้ามาที่เบอร์ส่วนตัวเอ็มเอง และใช่ค่ะ มันบอกว่า ชักว่าวอยู่ และทำเสียง เอ็มไม่ได้ตอบโต้อะไรวางสายไป แล้วมันโทรมาใหม่ไม่ได้รับสาย …. ทีนี้ก็นอนไม่หลับเลยค่ะ คิดไปต่างๆนาๆว่ามันจะโทรหาใครอีกมันจะกระทบอะไรกับร้านอีก ตอนเช้าวันนี้จึงได้ให้เบาะแสตำรวจเพิ่ม และได้มาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ เผื่อจะสานต่อไปยังหัวขโมยได้อีก
สิ่งที่แนบทั้งหมด 1.เบอร์ที่มันโทรหาลูกค้า 2.เอาไปสืบ เห็นหน้าใน LINE และในเฟสบุ๊ค 3.คลิปที่นัดมันมาหน้าร้าน ซึ่งดูแล้ว หน้าตาตรงกับในไลน์ และเฟส 4.ข้อความน้องที่ได้รับสายจากเบอร์โทรร้าน 5.เบอร์ที่โทรมาหาเอ็มตอนตี 2:30
ล่าสุดเมื่อช่วงสายของวันนี้ ( 28 พฤศจิกายน 2567 ) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ ร้านกาแฟดังกล่าว เพื่อสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนความเสียหายนั้นทางร้านได้จัดการซ่อมแซมประตูไปเรียบร้อยแล้ว ทั้งมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม ส่วนเครื่องเก็บเงินนั้นพังต้องชื้อใหม่ ซึ่งกองเป็นซากไว้ให้ดูต่างหน้า
จากการสอบถาม คุณดวงสุดา เพียรเชลงเอก เจ้าของร้าน เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ช่วงเช้าของวันที่ 23 พฤศจิกายน 2567 บาริสต้าของร้านได้เดินทางมาเปิดร้านตามปกติ แล้วมีการแจ้งเข้ามาที่ตนว่าร้านโดนงัดแงะ ตนจึงได้เข้าไปย้อนดูกล้องวงจรปิด และได้เห็นว่า มีชายคนหนึ่งมาเดินด้อมๆมองๆ ที่หน้าร้านในช่วงเวลาประมาณ 3:00 น แล้วชายคนดังกล่าวได้ใช้เวลางัดประตู ร้านประมาณ 3-4 นาที พอเข้ามาเขาก็ตรงไปที่เคาน์เตอร์ พยายามที่จะค้นของและงัดแงะลิ้นชักเก็บเงิน และมีการรื้อลิ้นชักด้านล่าง ส่วนนั้นตนไม่ได้ล็อคไว้อยู่แล้ว เขาก็ทำการยกไปทั้งอันเลย
หลังจากนั้นเขาก็เดินรอบๆร้านได้เห็นห้องด้านหลัง จึงนำลิ้นชักเข้าไปงัดแงะด้านใน ซึ่งด้านใน มีกระต่ายและตนได้เปิดแอร์เอาไว้ให้ เขาก็งัดแงะรื้อค้นของข้างในห้องด้านหลังด้วย จนกระทั่งเขางัดได้และได้นำเงินสดใส่กระเป๋าไป เขาได้เงินสดไปจำนวนประมาณ 5,000 บาทซึ่งตนเอาไว้ใช้เป็นเงินทอนทุกๆวัน เขาใช้เวลาอยู่ในร้านประมาณเกือบ 1 ชั่วโมง ด้วยความในห้องนั้นเปิดแอร์เอาไว้เขาก็นั่งงัดอย่างสบายใจ เขาพยายามรื้อค้นของและเขามีไขควงติดตัวมาด้วย 1 อัน ได้ทิ้งเอาไว้ที่ร้าน ทางเจ้าหน้าที่ได้เก็บเอาไปเป็นหลักฐานแล้ว และยังมีซองบุหรี่กับถุงข้าว 1 ถุง ที่เขาได้ทิ้งเอาไว้ สรุปแล้วที่เขาได้ไปคือเงินสด 5,000 บาทและโทรศัพท์รุ่น OPPO 1 เครื่อง แล้วเขาได้ออกจากร้านไปในช่วงเวลาประมาณ 3:50 น ตนไม่เคยเห็นหน้าเขามาก่อนรูปร่างลักษณะก็ไม่ใช่ลูกค้าของร้าน เท่าที่ตนถามคนแถวนี้เขาก็บอกว่าไม่เคยเห็นเหมือนกัน เพราะว่าภาพที่ตนได้จากกล้องวงจรปิดค่อนข้างชัดมาก
ส่วนอีกประเด็นหนึ่งเป็นเรื่องที่ทางเราวิเคราะห์กันเอง มันน่าจะสืบเนื่องต่อกัน เพราะหลังจากนั้นของอีกวันในช่วงเวลาประมาณบ่ายโมงได้มีเบอร์แปลกๆโทรไปหาลูกค้าของทางร้าน และได้มีการพูดจาในเชิงลามกอนาจาร ทางลูกค้าจึงถามกลับไปว่าได้เบอร์มาจากไหน ฝ่ายนั้นจึงบอกว่าได้เบอร์มาจากร้านกาแฟของเรา ทางลูกค้าจึงโทรกลับมาที่ร้านและได้สอบถามว่ามีคนมาขอเบอร์ของเขาหรือเปล่า ทางร้านจึงตอบไปว่าไม่มีแต่เมื่อช่วงเช้าทางร้านถูกงัดร้านและถูกขโมยโทรศัพท์ไป ทางลูกค้า จึงขอให้ทางเราเช็คให้หน่อยว่าได้เบอร์ไปได้ยังไง ตนจึงสอบถามกับลูกน้อง และได้ทราบว่าเบอร์ของลูกค้าประจำจะsaveเอาไว้ในเครื่องดังกล่าวที่ถูกขโมยไป
แต่อีกประเด็นคือ เขาใช้คำพูดกับลูกค้าประมาณว่าเคยเห็นมากินกาแฟร้านนี้ทุกวัน และเห็นใส่ชุดออกกำลังกายสีขาวซึ่งมันค่อนข้างจะตรงกับความเป็นจริง เพราะว่าลูกค้ามาที่นี่ทุกวันจริงๆมาซื้อกาแฟในช่วงเช้าก่อนที่จะไปออกกำลังกาย ก็เลยเกิดความสงสัยว่าถ้าเขาไม่ใช่คนแถวนี้จะรู้ความเคลื่อนไหวของลูกค้าได้อย่างไร หลังจากนั้นอีกครึ่งชั่วโมงได้มีเบอร์โทรของทางร้านได้โทรเข้าไปหาลูกค้าอีกท่าน หนึ่ง และพูดในเชิงลักษณะอนาจารเหมือนเดิม ตอนแรกตนคิดว่าจะระงับเบอร์เอาไว้แต่กลัวว่า เจ้าหน้าที่จะติดตามสัญญาณไม่ได้ จึงยังไม่ระงับ ทางฝ่ายนั้นพูดเหมือนเดิมทุกอย่าง ลูกค้าจึงนำเบอร์โทรไป search ใน Google ปรากฏว่าขึ้นเป็นเบอร์ของที่ร้าน ทางลูกค้าจึงแจ้งมาที่ร้านว่ามีคนโทรเข้ามาและได้เล่ารายละเอียดให้ฟัง ตนจึงทำการระงับเบอร์เอาไว้ชั่วคราว เพื่อที่เบอร์นี้จะไม่มีการโทรหาไปทางลูกค้าของเราอีก
หลังจากนั้นลูกค้าคนแรกที่เคยมีเบอร์แปลกๆโทรเข้าไปได้มีการโทรกลับไปหา ทางฝ่ายนั้นอีกครั้งเพื่อที่จะนัดแนะ ให้มาเจอตัว ทางฝ่ายนั้นก็ยอมรับนัด ทางเราจึงมีการคุยกับลูกค้าให้นัดมาเจอที่หน้าร้านในเวลา 20:00 น วันนั้นตนจึงรอเปิดกล้องวงจรปิดดูและมีการแจ้งทางสายตรวจไป ตอนแรกตนก็ไม่มั่นใจว่าเขาจะมาหรือไม่ก็เลยไม่กล้าคอนเฟิร์ม และตนคิดว่าเขาอาจจะเป็นคนเดียวกันกับโจรที่เข้ามาหาร้าน ปรากฏว่าช่วง 20:00 น เขามายืนที่หน้าร้านจริงๆ เขามายืนอยู่ประมาณ 2 นาที เพราะตอนที่เขาคุยกับลูกค้าเขาเหมือนบอกว่าให้รีบไปเขากลัวคนเห็น แต่ก่อนที่จะถึงเวลานัดเขาได้มีการเดินผ่านหน้าร้านไปประมาณ 15 นาที แล้วจึงเดินกลับมายืนที่หน้าร้าน เราจึงมีการโทรแจ้งกลับไปทางสายตรวจอีกครั้ง และตนได้มีการซูมกล้องดู ปรากฏว่าเป็นคนละคนกลับที่เขามางัดร้าน หุ้นผอมอ้วนต่างกัน ปรากฏว่าวันนั้นก็คาดกันกับตำรวจ เราก็ได้มีการแจ้งรายละเอียดทั้งหมดไปอีกครั้ง ทางเจ้าหน้าที่แจ้งกลับมาว่าถ้ามีการนัดเจอกันอีกครั้งให้รีบติดต่อไป
เวลาประมาณช่วงตี 2 ครึ่ง เขาก็มีการโทรเขามาหาเรา และพูดในเชิงอนาจารเหมือนเดิม ตนจึงรีบวางสาย เพราะลูกอยู่ด้วย แล้วสักพักเขาก็โทรกลับมาอีกแต่ตนไม่รับสาย เช้ามาตนจึงแจ้งตำรวจเจ้าหน้าที่แนะนำให้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ เพราะคิดว่าน่าจะสาวถึงกันได้ ทางเราก็มีการไปหาข้อมูลอย่างอื่นเพิ่มเติมเองเกี่ยวกับเบอร์นี้ ก็ได้เห็นรูปร่างหน้าตาซึ่งมีลักษณะตรงกับคนที่มายืนหน้าร้านและน้องในออฟฟิศก็มีการแกล้งโทรไปหาเขา จึงได้รู้ว่าเขาอาศัยอยู่แถวท้ายบ้าน เราก็ยังไม่รู้ว่าเราจะทำอะไรได้บ้าง จึงได้แค่รอ
เรื่องเบอร์โทรที่มีการโทรไปหาลูกค้า มันมีผลกระทบกับทางร้านมากทำให้ทางร้านเสียหาย เพราะในช่วงนั้นมี LINE official มีเพจ ของทางร้าน ซึ่งเราไม่รู้เลยว่าเขาจะเอาไปใช้โทรหาลูกค้าท่านอื่นอีกหรือไม่ มันกลายเป็นว่าเบอร์โทรของเราที่เป็นเบอร์ของบริษัท จะไปขึ้นเป็นเบอร์ของมิจฉาชีพหรือเปล่า เราก็เลยรู้สึกว่าเราอยู่นิ่งไม่ได้ต้องทำอะไรสักอย่าง เพื่อให้จับเขาให้ได้ เบื้องต้น ทางเรามีการแก้ไขเรื่องนี้โดยแจ้งไปทาง LINE official และเพจว่าเรามีการได้ระงับเบอร์โทรเบอร์นี้เอาไว้ชั่วคราวและมีการแจ้งตำรวจเอาไว้แล้ว แต่ปัจจุบันก็มีการเอากลับมาใช้ได้แล้วและยังไม่มี feedback จากทางลูกค้า
ตอนนี้ทางเรามีการเพิ่มมาตรการการดูแลคือมีการทำประตูล็อคเป็น 2 ชั้น ส่วนกล้องวงจรปิดในร้านเรามีทั้งหมด 9 ตัวและใช้ได้ทั้งหมด 7 ตัว อีก 2 ตัวเราได้ทำการดำเนินการแก้ไขอยู่ และจะ มีการติด Alarm เพิ่มเติม จริงๆแล้วในกล้องเราก็มีตัว Alarm แต่ ร้านเราได้มีการเปิดมา 4 ปีแล้วและไม่ได้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเลยจึงมีการปิดเอาไว้ มันเป็นความสะเพร่าและความประมาทของเราเองด้วย
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งว่าไล่ตามกล้องอยู่และรู้ความเคลื่อนไหวของขโมยรายนี้แล้ว ว่าวันเกิดเหตุได้หนีไปทางไหน แต่วันนั้นทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่ามันติดเสาร์อาทิตย์ ก็เลยไม่สามารถดูกล้องที่เป็นของทางเทศบาลได้ ก็เลยต้องมาดูกล้องอีกทีวันจันทร์ พอถึงวันจันทร์เราจึงได้ติดต่อสอบถามไปอีกครั้ง ถึงความคืบหน้า และได้รับแจ้งว่า ได้มีความหน้าบ้างแล้ว เราต้องแยกก่อนว่ามันมี 2 เคส เป็นเคสขโมยและเคสโรคจิต ทางเจ้าหน้าที่ก็มีการคุยกับเรา ว่าให้มีการนัดแนะอีกครั้งถ้านัดได้ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที เมื่อวานจริงๆทางเรากับลูกค้า ได้มีการนัดแนะที่จะโทรนัด แต่นัดไม่ได้ วันนี้จึงจะลองนัดแนะอีกครั้ง