ประจวบคีรีขันธ์-นางตะเคียนโวย..รำคาญวัยรุ่นเมาเสียงดัง..ขอเปลี่ยนที่อยู่ใหม่..!!

ภาพ/ข่าว: เอกภพ วงษ์ประเสริฐ

                 วันที่ 13 ธ.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ร้านอาหารตามสั่งจุดชมวิวอ่างเก็บน้ำคลองบึงตามโครงการพระราชดำริ หมู่ 12 บ้านย่านซื่อ ตำบลอ่าวน้อย อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ ได้มีกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่จับกุมนั่งวิพากษ์วิจารณ์ตามความเชื่อถึงเจ้าแม่ตะเคียนนางสุภัทรา หลังจากที่มีร่างทรงจากอำเภอกุยบุรีได้เข้ามาทำพิธีบวงสรวงเข้าทรงแม่นางตะเคียนที่ทางชาวบ้านได้ทำพิธียกไม้ตะเคียน ซึ่งเป็นส่วนโคนและรากขึ้นมาจากอ่างเก็บน้ำแล้วนำมาไว้บนบกพร้อมทำศาลาคลุมคุ้มแดดคุ้มฝนให้เมื่อหลายปีก่อน
           ซึ่งร่างทรงได้บอกกับชาวบ้านว่าแม่นางตะเคียนขอให้ชาวบ้านย้ายเปลี่ยนสถานที่อยู่ให้ใหม่ไปอยู่ในที่ห่างไกลจากจุดกางเต็นท์ชมวิวเดิม เนื่องจากที่ผ่านมามีวัยรุ่นชอบมากางเต็นท์นอนกินเหล้าเมาสุราแล้วทะเลาะวิวาทกันเสียงดังทำให้แม่นางตะเคียนหนวกหูรำคาญนอนไม่หลับ จึงอยากขอให้ย้ายเปลี่ยนสถานที่ใหม่ไปอยู่จุดอื่นถ้าหากไม่ทำตามจะทำให้สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้มีสภาพแย่ลงไปเรื่อยๆกว่านี้และล้างไปในที่สุด แต่ถ้าหากทำตามจะช่วยให้เจริญรุ่งเรืองกว่านี้
           ชาวบ้านเองก็มีความเชื่อว่าอาจจะจริงเนื่องจากในอดีตเคยขายสินค้าอาหารมีรายได้ดี แต่ปัจจุบันขายของได้น้อยลงไปมากและมีนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่น้อยลงแถมยังห่ออาหารมากินเองโดยที่ไม่มาซื้อที่จุดชมวิว ซึ่งชาวบ้านมีความเห็นพ้องว่าถ้าหากย้ายแล้วทำให้เศรษฐกิจการค้าขายดีขึ้นก็พร้อมใจยินดีที่จะย้ายแม่นางตะเคียนไปจุดอื่นที่ห่างไกลจุดคนพลุกพล่าน แต่ติดปัญหาอุปสรรคเรื่องเงิน
           นางปทุม คล้ายสังข์ อายุ 73 ปี แม่ค้าขายน้ำและกาแฟ อยู่ที่บริเวณจุดชมวิว เล่าว่า ในขณะที่ร่างทรงมาทำพิธีตนอยู่ในเหตุการณ์ด้วย โดยร่างทรงบอกว่าแม่นางตะเคียนเขาไม่อยากอยู่ตรงจุดนี้แล้วเนื่องจากวัยรุ่นและนักท่องเที่ยวชอบมากางเต็นท์นอนแล้วกินเหล้าเมาทะเลาะวิวาทกันและเอะอะโวยวายเสียงดัง ทำให้หนวกหูรำคาญนอนไม่หลับ จึงอยากขอย้ายไปอยู่จุดอื่นที่ห่างไกลจากจุดกางเต็นท์ ไม่ต้องทำสถานที่ให้หรูดูดีก็ได้ อยู่แบบง่ายๆไม่มีหลังคาก็อยู่ได้ และไม่ต้องเอาพวงมาลัยผ้าสามสีมาผูกเนื่องจากอึดอัดหายใจไม่ออก
            โดยขณะทำพิธีร่างทรงก็ได้รื้อพวงมาลัยและผ้าสามสีที่ผูกตอตะเคียนไว้ออกจนหมด นอกจากนี้ร่างทรงยังบอกอีกว่า หลังจากนี้แม่นางตะเคียนขอให้มาดูแลทำความสะอาดให้เขาบ้าง อย่าปล่อยให้สกปรกฝุ่นจับรกรุงรัง และเอาพระมาทำพิธีทำบุญให้เขาบ้าง หากทำตามที่บอกจะช่วยให้สภาพบรรยากาศการท่องเที่ยวจุดนี้เฟื่องฟูดีขึ้นเรื่อยๆกว่านี้ แต่ถ้าหากไม่เชื่อไม่ยอมทำตามก็จะทำให้สถานที่ตรงนี้ไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาและร้างลาไปในที่สุด
            นางปทุม เล่าต่ออีกว่า โดยส่วนตัวสิ่งเหล่านี้ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่เพราะเรามองไม่เห็นเป็นความเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งตนและชาวบ้านคนอื่นๆเห็นพ้องต้องกันหากย้ายแล้วการค้าขายดีขึ้น ก็อยากให้ย้ายแต่จะตัดสินใจคนเดียวไม่ได้ต้องให้ทุกฝ่ายเห็นด้วย ในอดีตช่วงแรกๆ ตอนที่ยกไม้ตะเคียนขึ้นมาจากน้ำใหม่ๆ ได้มีคนมาขอหวยแล้วถูกหวยกันบ่อยมาก และในวันนี้ก็มีคนมาแก้บนเนื่องจากถูกหวย ลูกของตนเองก็เคยไปบนแม่นางตะเคียนไว้ขอให้ถูกหวยแล้วจะมาสร้างกำแพงรั้วให้ซึ่งก็เพิ่งถูกไปได้เงินมาประมาณหนึ่งแสนแต่ก็ทำกำแพงรั้วได้แค่หน่อยเดียวประมาณ 6,000 บาทที่เหลือนำไปใช้หนี้สินครึ่งแสน แต่มาในระยะหลังมีคนถูกกันน้อยลงไม่เหมือนเมื่อก่อน นางปทุมกล่าว
            นายสง่า คลับคล้าย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 12 บ้านย่านซื่อ เปิดเผยว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นจากได้มีร่างทรงซึ่งมาจากพื้นที่ อ.กุยบุรี ได้มาท่องเที่ยวกางเต็นท์นอนแล้วเกิดหายใจไม่ออกนอนไม่หลับกระสับกระส่าย เมื่อกลับไปบ้านที่อำเภอกุยบุรีก็ยังมีอาการนี้อยู่ จึงได้กลับมาประกอบพิธีเข้าร่างทรงที่ศาลนางตะเคียนสุภัทรา ตนเองก็ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์แต่ชาวบ้านโทรไปบอกแล้วเล่าให้ฟัง ซึ่งถ้าหากย้ายแล้วนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นกว่านี้เศรษฐกิจดีกว่านี้ ตนก็จะย้ายให้ชาวบ้าน และตั้งใจว่าจะทำบุญปีใหม่ให้แม่ตะเคียนตามที่ชาวบ้านร้องขอ
              แต่เรื่องการย้ายตอไม้แม่นางตะเคียนไปไว้จุดอื่นนั้นต้องหารือกับร่างทรงคนเดิมซึ่งเคยมาทำพิธียกไม้ตะเคียนท่อนนี้ขึ้นมาจากน้ำในตอนแรกก่อน ว่ามีแนวคิดเดียวกันกับร่างทรงที่กุยบุรีหรือไม่ แต่ถ้าทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกันก็จะดำเนินการย้ายให้ แต่ติดปัญหาและอุปสรรคเรื่องเงินเนื่องจากปัจจุบันเศรษฐกิจไม่ดีไม่มีเงินสำหรับย้ายสถานที่ โดยศาลหลังเก่าได้หมดเงินสร้างไปกว่า 80,000 บาทแล้ว แต่ถ้าหากมีผู้ใจบุญที่สนใจจะร่วมบุญก็สามารถติดต่อมาพูดคุยได้ ที่ผู้ใหญ่บ้าน ชื่อ นายสง่า คลับคล้าย เบอร์โทรศัพท์ 087-9866065