กาฬสินธุ์-บ่อบาดาล ทสจ.กาฬสินธุ์ พลิกชีวิตเกษตรกรจับเงินล้าน

กาฬสินธุ์-บ่อบาดาล ทสจ.กาฬสินธุ์ พลิกชีวิตเกษตรกรจับเงินล้าน

ภาพ-ข่าว:ทีมข่าวจังหวัดกาฬสินธุ์

          ทสจ.กาฬสินธุ์ผุดบ่อบาดาลพลิกชีวิตเกษตรกรในพื้นที่ตำบลไผ่ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ เพาะปลูกแคนตาลูบ แต่งร้าน แตงโม และเมล่อนส่งเมล็ดขายรายได้งามเฉลี่ยปีละ 1 ล้านบาท สร้างงาน สร้างอาชีพ และความมั่นคงในชีวิตได้เป็นอย่างดี
          วันที่ 18 ธันวาคม 2567 นายวิทยา ปัญจมาตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.กาฬสินธุ์ (ทสจ.กาฬสินธุ์) พร้อมด้วยนายปริญญา แสงอินทร์ ผอ.ส่วนทรัพยากรน้ำ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ติดตามการใช้ประโยชน์น้ำจากบ่อบาดาลในการเพาะปลูกพืชของกลุ่มเกษตรกรบ้านเลิงนาแก ม.6 ต.ไผ่ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ตามโครงการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาล เพื่อการเกษตร และอาหารปลอดภัย
         โดยจากการลงพื้นที่พบว่า กลุ่มเกษตรกรสามารถใช้ประโยชน์น้ำจากบ่อบาดาลในการเพราะปลูกพืช ทั้งการปลูกแคนตาลูบ แต่งร้าน แตงโม และมันสำปะหลัง เป็นต้น ซึ่งเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม เพราะสามารถสร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างรายได้ให้กับครอบครัวของเกษตรกรได้เป็นอย่างดี
           นายสุวัฒน์ สุริยะบุญ อายุ 65 ปี สมาชิกกลุ่มเกษตรกรบ้านเลิกนาแก กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนมีอาชีพรับจ้างเป็นช่างก่อสร้าง ทำงานที่ต่างจังหวัดมาหลายปี รายได้ไม่แน่นอน กระทั่งเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา อยากกลับมาทำเกษตรกรที่บ้านเกิด พร้อมกับทำการปลูกแคนตาลูบ เมล่อน แต่งร้าน แตงโมขายเมล็ด และมันสำปะหลังส่งขายพื้นที่รวม 7 ไร่ โดยช่วงแรกๆได้ลองผิดลองถูก ประกอบกับพื้นที่ดังกล่าวประสบปัญหาน้ำที่ใช้สำหรับเพราะปลูกพืชขาดแคลนและไม่เพียงพอ จึงได้ผลผลิตไม่มากนัก เฉลี่ยหนึ่งรอบ ใช้ระยะเวลาเพราะปลูก 3-4 เดือน ขายผลผลิตได้ประมาณ 120,000 บาทเท่านั้น
           นายสุวัฒน์ กล่าวต่อว่า ล่าสุดช่วงกลางปี 2567 ทราบข่าวว่ามีโครงการเจาะบ่อบาดาลนี้ขึ้นมา ตนและเพื่อนเกษตรกรจึงจับกลุ่มกันยื่นเรื่องขอไปยัง ทสจ.กาฬสินธุ์ และได้รับการอนุมัติ ซึ่งหลังจากได้น้ำจากบ่อบาดาลแห่งนี้ขึ้นมา ทำให้มีน้ำเพียงพอต่อการเพราะปลูกพืช ทั้งของตนเอง และเพื่อนสมาชิก ส่งผลให้มีผลิตเพิ่มขึ้น และมีรายได้เพิ่มขึ้น 2-3 เท่าตัว จากเดิมปลูกพืช 3-4 เดือนขายผลผลิตได้ประมาณ 120,000 บาท ล่าสุดหักค่าใช้จ่ายแล้วสามรถขายผลิตได้ เพิ่มเป็น 340,000 บาท ซึ่ง 1 ปีสามารถปลูกได้ 3 รอบ เท่ากับว่าเฉลี่ย 1 ปี จะสามารถปลูกพืชขายได้กว่า 1 ล้านบาท ถือว่าบ่อบาดาลแห่งนี้พลิกชีวิตของเกษตรกร ซึ่งส่วนตัวมองว่ารายได้ดีกว่าอาชีพเก่างานช่างก่อสร้าง และรายได้ดีกว่ารับราชการอีก
            นายสุวัฒน์ กล่าวอีกว่า ในฐานะตัวแทนเพื่อนสมาชิกขอขอบคุณทางสำนักงานทสจ.กาฬสินธุ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่เห็นความสำคัญและมีโครงการเจาะน้ำบาดาลนี้ขึ้นมาอย่างไรก็ตามในช่วงนี้เพิ่งทำการเพราะลูกใหม่ ต้นกล้าเพิ่งเริ่มเติบโต ซึ่งต้องรออีกประมาณ 3-4เดือนจึงจะสามารถขายผลผลิตได้ ซึ่งปีนี้คาดว่าจะได้จับเงินล้านแน่นอน
            ด้านนายวิทยา ปัญจมาตย์ ผอ.ทสจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับบ่อบาดาลดังกล่าวเป็น โครงการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาล เพื่อการเกษตร และอาหารปลอดภัย ซึ่งเป็นการขุดเจาะน้ำบาดาลนำน้ำใต้ดินขึ้นมาให้เกษตรกรที่ขาดแคลนน้ำและมีความต้องการน้ำ เพื่อใช้ในการเกษตรในการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ โดยใช้งบประมาณของจังหวัด
          ซึ่งหลังจากดำเนินการขุดเจาะเสร็จแล้ว และจากการลงพื้นที่ติดตามพบว่าหลายพื้นที่ได้รับประโยชน์จริง โดยเฉพาะเกษตรกรกลุ่มนี้ ซึ่งก็ได้ใช้ประโยชน์จากบ่อบาดาล โดยการปลูกพืชขายเมล็ด ทั้งแคนตาลูบ แต่งร้าน แตงโม และปลูกมันสำปะหลัง ถือว่าเป็นโครงการที่เป็นประโยชน์และเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม เพราะสามารถสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ และสร้างความมั่นคงในชีวิตได้เป็นอย่างดี

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!