ประจวบคีรีขันธ์-”สวนสวรรค์ฟาร์ม”มอบใบรับรองมาตรฐานพื้นที่เกษตรอินทรีย์
ภาพ-ข่าว:พิสิษฐ์ รื่นเกษม
วันที่ 22ธ.ค. 67 ที่ศูนย์การเรียนรู้เกษตรอินทรีย์ สวนสวรรค์ฟาร์ม หมู่ 2 ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบฯ ของคุณแก้วตา จันทร์วีระชัย นักธุรกิจเจ้าของกิจการมีชื่อในจังหวัดประจวบฯ ผันตัวเองลงมาทำสวนเกษตรอินทรีย์ในพื้นที่กว่า 80 ไร่ ใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยมีการจัดการอย่างเป็นระบบในการมีส่วนร่วมของคนในชุมชนและชาวเกษตรกร หวังให้ชาวบ้านในพื้นที่บางราย ไร่ที่ทำกินทางการเกษตร ได้มีโอกาสเข้ามาเรียนรู้การทำเกษตรอินทรีย์แบบปลอดสารพิษ เพื่อนำกลับไปปฏิบัติให้เกิดประโยชน์ สร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวอยู่อย่างพอเพียง
โดยมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านเกษตรกรคอยแนะนำให้ความรู้ ในการทำเกษตรผสมในพื้นที่แปลงน้อยโดยไม่ใช้สารเคมี และได้มีโอกาสร่วมเป็นสมาชิก รับมอบใบรับรองแบบมีส่วนร่วม ความเป็นมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ สร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคได้รับประโยชน์จากการรับประทานผลิดผลที่ปลอดสารพิษ ซึ่งทางศูนย์การเรียนรู้ฯ สวนสวรรค์ฟาร์ม จะมีการจัดกิจกรรมและพิธีมอบหนังสือรับรองพื้นที่เกษตรอินทรีย์ แบบมีส่วนร่วมความเป็นมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ SCE PGS ให้กลุ่มสมาชิกในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประจำทุกปี
โดยมีนายณรงค์พงษ์ โพธิสมบัตร ประธานบริษัทประชารัฐรักษ์สามัคคี นายณรงค์ คงมาก กรรมการบริษัทวิสาหกิจเพื่อสังคม นายนันทปรีชา คำทอง ประธานเครือข่ายสามอ่าวเกษตรอินทรีย์วิถีธรรมชาติ และนางสาว นิชาภา สุวรรณนาค สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดประจวบฯ ร่วมกันเป็นประธานมอบหนังสือรับรองมาตรฐานพื้นที่เกษตรอินทรีย์ SCE PGS ให้กลุ่มสมาชิกที่ได้รับการรับรอง ที่ศูนย์การเรียนรู้เกษตรอินทรีย์ สวนสวรรค์ฟาร์ม หมู่ 2 ต.อ่าวน้อย จ.ประจวบฯ ไปเมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 67 ที่ผ่านมา
คุณแก้วตา จันทร์วีระชัย หรือเจ๊แก้วตา เจ้าของสวนสวรรค์ฟาร์ม เล่าว่า ตนเห็นว่าพื้นที่ในที่ดินกว่า 80 ไร่ เป็นที่ว่างเปล่าปล่อยรกร้างไว้ไม่เกิดประโยชน์อะไร หลังรัฐบาลปลดล๊อคกัญชา คิดว่าจะใช้เป็นพื้นที่ปลูกกัญชา แต่ก็ยังติดปัญหาหลายอย่างในทางกฎหมาย หลังจากได้รู้จักกับอาจารย์ท่านหนึ่งทำเกี่ยวกับเรื่องเกษตรอินทรี จึงลองไปศึกษาหาความรู้ บางส่วนก็ศึกษาเรียนรู้จาก YouTube บ้าง นำไปลองปฏิบัติตามจนเกิดผลผลิต หวังแค่เพียงเพื่อไว้รับประทานกันเองในครอบครัว ทั้ง ๆ ที่ตนไม่เคยมีความรู้ทางการเกษตรแม้แต่นิดเดียว
แต่เมื่อตนได้เห็นชาวบ้านในพื้นที่บางรายขาดโอกาสการทำอาชีพเกษตรกร เนื่องจากไม่มีที่ดิน จึงมีแนวคิดที่จะให้เขาได้ใช้พื้นที่เพาะปลูกและเรียนรู้การทำเกษตรแนวใหม่แบบผสมผสานปลอดสารพิษ และด้วยที่ตนเองเป็นคนรักสุขภาพอยู่แล้ว อยากเห็นทุกคนมีสุขภาพที่ดี ได้รับประทานอาหาร พืชผัก ผลไม่ ที่มีคุณภาพปลอดสารพิษ แนวคิดนี้จึงเป็นแรงบรรดารใจให้ตนเองเปลี่ยนที่ดินว่างเปล่าให้เป็นสวนเกษตร ได้รับการส่งเสริมจากภาครัฐตั้งเป็น “ศูนย์การเรียนรู้เกษตรอินทรีย์ สวนสวรรค์ฟาร์ม
ต่อมามีการรวมตัวก่อตั้งกลุ่มรักสุขภาพ โดยการรวบรวมชาวบ้านและกลุ่มคนที่สนใจเข้าร่วมได้มีโอกาสเข้ามาเรียนรู้ศึกษาวิธีการทำสวนเกษตรอินทรีย์แบบครบวงจร และนำกลับไปต่อยอด หรือเพราะปลูกไว้รับประทานเอง หรือจะนำกลับมาส่งขายที่ศูนย์การเรียนรู้ สวนสวรรค์ฟาร์มได้อีก เนื่องจากผลผลิตปลอดราสพิษเกษตรอินทรีย์มีความต้องการทางการตลาดเป็นอย่างมาก
ซึ่งทางกลุ่มเรามีการจัดการแบบครบวงจร โดยเอาผลิตผลที่ได้บางส่วนมาแปลรูป เป็นผลิตภัณฑ์ บรรจุหีบห่อเป็นสินค้าส่งออกไปจำหน่ายต่อ ตามศูนย์โอทอปพื้นที่ต่าง ๆ รวมทั้งตลาดรับซื่ออีกหลายแห่ง เนื่องจากผลผลิตมีคุณภาพได้รับการรับรองให้เป็นเกษตรอินทรีย์ปลอดสารพิษไม่ใช้สารเคมี โดยทางเรามีกระบวนการตรวจสอบผลิตผลที่กลุ่มสมาชิกนำมาส่งที่ศูนย์ มีคณะกรรมการ มีประทาน และมีการจัดการอย่างเป็นระบบ ตามแนวทางหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9