ชุมพร-พบโครงกระดูกมนุษย์ถูกฆ่านำมาทิ้งไว้ในสวนปาล์ม บ้านทุ่งคา

ชุมพร-พบโครงกระดูกมนุษย์ถูกฆ่านำมาทิ้งไว้ในสวนปาล์ม บ้านทุ่งคา

ภาพ-ข่าว:ประสิทธิ์ ลีฬหคุณากร

            แรงงานพม่าตัดหญ้าใสสวนเจอเชือกสีแดงมีความยาวจึงได้ดึงออกมาพบเป็นห่อผ้ากองอยู่ใต้ทางปาล์ม เดินไปดูใกล้ๆเห็นกระดูกโผล่ คนถูกฆาตกรรม มาจากที่อื่นนำมาทิ้งอำพราง หรือลอยมากับน้ำ

            วันที่ 25 ธันวาคม 2567 เวลา 17.30 น ร.ต.อ.ปฐมพงษ์ ชุมมาก รอง สว.สืบสวน สภ.บ้านวิสัยเหือ รับแจ้งเหตุพบโครงกระดูกคล้ายโครงกระดูกมนุษย์ถูกนำมาทิ้งไว้ในสวนปาล์มบริเวณ หมู่ที่ 8 ต.ทุ่งคา อ.เมือง จ.ชุมพร จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมประสานไปยัง กู้ภัยสายชลเขตวิสัย แพทย์โรงพยาบาลชุมพร เข้าตรวจสอบพร้อม เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบโครงกระดูกว่าเป็นของมนุษย์หรือสัตว์อื่น
            ในพื้นที่เกิดเหตุบริเวนสวบปาล์ม ห่างจากถนนซอยบ้านถ้ำเพิง 1 ประมาณ 3 กิโลเมตร.และห่างถนนสายเอเชีย 41 ประมาณ 10 กิโลเมตร ซึ่งเป็นถนนลูกลังมีร่องลอยของน้ำฝนกัดเซาะถนนตลอดทางเข้าสวน เป็นสวนปาล์มที่เปลี่ยวในบริเวณนี้ชาวสวนจะเข้ามาดูผลผลิตของปาล์มประมาณ 20 วันต่อครั้ง พบโครงกระดูกถูกห่อไว้กับผ้าห่มสีแดงภายในเป็นโครงกระดูกถูกห่อไว้ มัดด้วยเชือกสีแดง จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุทราบว่า เจ้าของสวนปาล์มได้ให้คนงานมาตัดหญ้าในสวนปาล์มจึงได้พบเชือกยาวสีแดงอยู่ใต้ กองกิ่งปาล์มคนงานจึงได้ดึงเชือกเส้นสีแดงดังกล่าวแล้วได้พบผ้าห่มผืนสีแดง

           ปรากฏว่าภายในเป็นชิ้นส่วนโครงกระดูกถูกห่อไว้ในผ้าห่มและมัดด้วยเชือกเส้นสีแดงจึงได้แจ้งเจ้าของสวนปาล์ม ให้มาดูจุดเกิดเหตุและได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ จากการตรวจสอบของแพทย์เป็นโครงกระดูกของมนุษย์โดยนำกระดูกมาเรียงคาดว่ามีความสูงอยู่ที่ 150-160 เซนติเมตร แพทย์ยังไม่สามารถระบุว่าเป็นเพศชายหรือหญิง เพราะส่วนกะโหลกได้หานไปและอีกหลายชิ้นส่วนที่หายไป ในพื้นที่เกิดเหตุไม่มีกลิ่นไม่มีสาปคาดว่าได้นำผู้เสียชีวิตมาทิ้งไว้นานแล้ว นอกจากนี้ยังพบกางเกงยืดขายาวสีดำแบบเร็กกิ้ง ชุดบอดี้สูตรสีดำ เสื้อคลุมสีแดงอมชมพู อยู่ในห่อผ้า สภาพเริ่มเปื่อย จึงได้นำออกมาแกะเปิดดูบริเวณจุดลานดินทางเดิน ซึ่งห่างจากจุดที่พบเพียง 15 เมตร

            จากการแกะเปิดดูพบว่าเป็นชิ้นส่วนกระดูกของมนุษย์ และได้นำแต่ละชิ้นส่วนมาตั้งวางตามโครงสร้างของร่างมนุษย์ พบว่าโครงกระดูกที่พบเจอในห่อผ้ามีชิ้นส่วนอยู่เกือบ 50% เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันค้นหาชิ้นส่วนกระดูกทั่วบริเวณ ซึ่งก็ยังพบว่ากระจัดกระจายไปทั่ว ยกเว้นส่วนส่วนหันกะโหลกที่ยังไม่พบในที่เกิดเหตุ ประกอบกับมืดค่ำ จึงได้จัดเก็บรวบรวมไว้เป็นเบื้องต้นก่อน

             จากการสอบถามนายณัฐวุฒิ ผิวอ่อน อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24/1 ม.5 ต.นาทุ่ง อ.เมือง จ.ชุมพร ซึ่งเป็นผู้ดูแลสวนดังกล่าว ทราบว่าเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ได้มีคนงานในสวน เป็นแรงงานชาวเมียนมา มาบอกตนว่าพบห่อผ้าต้องสงสัย มีกระดูกคนโผล่ออกมาด้วย ถูกทิ้งไว้ที่ใต้ต้นปาล์มน้ำมันข้างลำธารกลางสวน ตนเองจึงเดินไปดูก็พบโครงกระดูกคนโผล่มาจริง และยังพบชิ้นส่วนอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุอีกหลายชิ้น จึงได้แจ้งไปที่ตำรวจให้มาตรวจสอบดังกล่าว
            จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจในเบื้องต้น ยังไม่สามารถจะระบุเพศได้เป็นหญิงหรือชาย ซึ่งก็จะต้องนำชิ้นส่วนไปตรวจมวลกระดูกที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ก่อน จึงจะสามารถระบุเพศและอาจจะส่งผลไปจนทราบว่าผู้ตายรายนี้คือใคร จากการสอบถามคนในละแวกนี้ทุกคนยืนยันว่า ไม่น่าจะเป็นคนในพื้นที่เพราะที่ผ่านมา ก็ยังไม่มีใครสูญหายแต่อย่างใด ซึ่งคาดว่าอาจจะถูกฆ่าแล้วนำมาทิ้งหรืออาจจะถูกฆ่าแล้วหมกไว้ตามป่าใกล้ๆในละแวกนี้ แล้วน้ำป่าที่ไหลหลากเข้าท่วมเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ได้ซัดลอยมาติดในสวนแห่งนี้ก็อาจจะเป็นไปได้ โดยตำรวจจะสอบถามไปตามโรงพักต่าง ๆในพื้นที่ จ.ชุมพร และใกล้เคียงว่าพื้นที่ไหนมีการแจ้งคนหายไว้บ้าง เพื่อจะติดตามตัวและขยายผลถึงสาเหตุการตายของผู้เสียชีวิตรายนี้ต่อไป
ขณะที่นายชาติชาย จันทร์แก้ว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 กล่าวว่าผู้เสียชีวิตไม่ใช่คนในหมู่บ้านแน่นอน เนื่องจากยังไม่มีใครแจ้งมีผู้สูญหายแต่อย่างใด ซึ่งยังไม่รู้ว่าถูกฆ่าจากที่อื่นแล้วนำมาทั้ง หรืออาจจะลอยมากับน้ำเนื่องจากที่ผ่านมามีน้ำท่วมใหญ่ในพื้นที่ ซึ่งต้องรอตำรวจสอบสวนว่ามีสาเหตุมาจากเรื่องใด
ด้านด้านเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยเปิดเผยว่า หลังจากที่ได้รับแจ้งเหตุ ได้นำลูกทีมเข้ามาร่วมตรวจสอบ และก็พบชิ้นโครงกระดูกทั้งในห่อผ้าและตามโค่นต้นปาล์มน้ำมัน อีกจำนวนมาก และเชื่อว่าศพนี้น่าจะเป็นผู้หญิง เพราะจากโครงกระดูกที่พบ มีโครงสร้างเล็ก อีกทั้งหลักฐานที่พบคือเสื้อผ้านั้นเป็นชุดที่ผู้หญิงใช้ใส่ในการออกำลังกาย ทั้งนี้ก็อยู่ที่ทางตำรวจจะคลี่คลายออกมาอย่างไร ก็ว่าไปตามพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อไป

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!