ประจวบคีรีขันธ์-กระบะห้องเย็นบรรทุกไก่คนขับหลับในเสียหลักชนเสาไฟฟ้าสาหัส 1 ราย
ภาพ/ข่าว: เอกภพ วงษ์ประเสริฐ
เมื่อเวลาประมาณ 05.00 น.วันที่ 27 ธันวาคม 67 ร.ต.อ.อาทิตย์ บุตรละคร รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์กระบะห้องเย็น เสียหลักตกข้างทางชนเสาไฟฟ้ามีผู้ได้รับบาดเจ็บติดคาอยู่ภายในรถ เหตุเกิดบริเวณถนนเพชรเกษม ฝั่งขาขึ้น กทม.หลักกิโลเมตรที่ 292+800 บ้านทุ่งโก ตำบลบ่อนอก อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ หลังได้รับแจ้งได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจตู้ยามบริการประชาชนบ้านบ่อนอกตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างประจวบธรรมสถาน นำกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครพร้อมอุปกรณ์เครื่องตัด-ถ่างเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงประจวบ หน่วยกู้ชีพ 1669 โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ และรถยกเข้าให้ความช่วยเหลือ
ที่เกิดเหตุพบรถยนต์ 4 ล้อ กระบะห้องเย็น ยี่ห้อ isuzu ELF 130 สีขาว หมายเลขทะเบียน 3ฒศ7451 กทม.เสียหลักตกข้างทางปีนกาดเลนส์ไปชนอัดติดอยู่กับเสาไฟฟ้าขนาดใหญ่ข้างทาง ตัวรถฝั่งด้านซ้ายได้รับความเสียหายทั้งแถบ มีผู้โดยสารที่นั่งซ้ายมาด้วยถูกตัวรถหนีบทับติดอยู่กับเสาไฟฟ้าไม่สามารถออกมาได้ อาการสาหัส ส่วนผู้ขับขี่สามารถช่วยเหลือตัวเองออกมาได้แล้วโทรแจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ ทราบชื่อ นายภัทรพล นิยมสุข อายุ 20 ปี เป็นชาวจังหวัดกาญจนบุรี ได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้า
ส่วนผู้โดยสารที่นั่งมาด้วยมีศักดิ์เป็นพี่ชายลูกพี่ลูกน้องของคนขับ ติดคาอยู่ภายในซากรถทราบชื่อเล่น เฟรส อายุ 25 ปี ได้รับบาดเจ็บขาหักทั้งสองข้างและหน้าอก ลำคอ มีอาการสาหัสจากการถูกกระแทกอย่างแรง เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ใช้อุปกรณ์เครื่องตัด-ถ่าง ตัดซากรถเพื่อนำร่างผู้ได้รับบาดเจ็บออกมาปฐมพยาบาลแล้วนำส่งโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ ด้วยความทุลักทุเลโดยใช้เวลาช่วยเหลือนานกว่า 1 ชั่วโมง และในระหว่างการช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บได้ร้องเรียกถามหาแต่น้องชายซึ่งเป็นคนขับอยู่ตลอดเวลา
ส่วนสาเหตุเบื้องต้น จากการสอบถามนายภัทรพลซึ่งเป็นคนขับ เล่าว่า ตนเองเดินทางมาจากจังหวัดกาญจนบุรีเพื่อนำไก่ของบริษัทไปส่งตามจุดจำหน่ายตามจังหวัดต่างๆทางภาคใต้ เมื่อไปถึงจังหวัดสุราษฎร์ธานีและส่งไก่เสร็จเรียบร้อยจึงได้เดินทางกลับมุ่งหน้าจังหวัดกาญจนบุรีระหว่างทางตนเองขับรถเดินทางไกลเป็นระยะเวลานานจึงเกิดอาการอ่อนเพลีย เมื่อถึงจุดเกิดเหตุได้เกิดอาการวูบหลับในจึงทำให้รถเสียหลักตกข้างทางไปชนกับเสาไฟฟ้าทำให้ได้รับบาดเจ็บและรถพังเสียหายดังกล่าว แต่ตนเองยังโชคดีที่คาดเข็มขัดนิรภัยจึงบาดเจ็บแค่บริเวณใบหน้า เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ถ่ายภาพเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุและตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดของคนขับปรากฏว่าเป็นศูนย์ จึงได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ด้านนายอนุพงษ์ ถิ่นพังงา อายุ 39 ปี เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างประจวบ เปิดเผยว่า เคสนี้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างความยากลำบาก เนื่องจากผู้โดยสารถูกตัวรถหนีบอัดติดอยู่กับเสาไฟฟ้า ซึ่งต้องใช้เครื่องตัด-ถ่างและรถยกช่วยดึงจึงจะสามารถช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บออกมาได้ แต่ผู้ได้รับบาดเจ็บก็มีอาการสาหัสบาดเจ็บบริเวณหน้าอก ลำคอ และขาหักทั้งสองข้าง จึงอยากฝากข้อความเห็นใจจากผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคนขอให้เห็นใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ขอให้ขับรถเดินทางด้วยความระมัดระวังและขอความร่วมมือเมื่อเห็นสัญญาณไฟของรถฉุกเฉิน ขอให้ช่วยหลบหลีกทางให้ด้วย การช่วยเหลือจะได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และเห็นใจเจ้าหน้าที่ในทุกช่วงเทศกาลเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกคนไม่ได้หยุดไปเที่ยวเทศกาลพร้อมหน้ากับครอบครัวเหมือนบุคคลอื่นๆทั่วไป เพราะต้องอยู่ปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวกดูแลพี่น้องประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนให้ได้กลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย