สิงห์บุรี-เซ่น 2 ศพ..รถบรรทุกพ่วงเสียหลักลงข้างทางชนเสาไฟฟ้าไฟลุกท่วมวอดทั้งคัน..!!
ภาพ-ข่าว:จีระแมน ขำฉา
วันที่ 28 ธันวาคม 2567 เวลา 01.50 น. ร.ต.อ.หญิง พรสถิต บุรานนท์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสิงห์บุรี ได้รับแจ้งเหตุมีรถบรรทุกพ่วง 24 ล้อ เสียหลักไถลตกถนนไปชนเสาไฟฟ้าจำนวนหลายต้น ทำให้เกิดประกายไฟลุกลามไหม้ชายคาบ้านเรือนประชาชนไปเล็กน้อย ที่บริเวณทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 32 หลักกิโลเมตรที่ 92 สายเอเชียขาล่อง หมู่ที่ 7 ต.บางมัญ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 2 ราย เป็นชายและหญิง จึงรีบรายงานเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าให้ดับไฟ รถดับเพลิง และรีบรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลสิงห์บุรี และอาสาสมัครมูลนิธิปอเต็กตึ๋ง จ.สิงห์บุรี
ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ดับเพลิงใช้น้ำดับไฟที่กำลังลุกไหม้รถบรรทุกพ่วง 24 ล้อ ซึ่งติดแก๊ซ NGV ยี่ห้อ ฮีโน่ ทะเบียนตัวแม่ 67-7751 กทม และตัวลูกทะเบียน 67-7745 กทม โดยบรรทุกไม้สับเต็มคัน ล้มตะแคง โดยหัวรถของรถบรรทุกห่างจากบ้านพักของผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 ต.บางมัญ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี เพียงแค่ 1 เมตร และไฟยังลามไหม้สายไฟ หลังคาบ้านของบ้านพักดังกล่าว แต่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ฉีดน้ำสกัดไว้ทันก่อนที่ไฟจะลามมากไปกว่านี้
พบศพชายคาดว่าเป็นคนขับรถนอนเสียชีวิตอยู่ใกล้ล้อรถสภาพศพโดนไฟไหม้เกรียม จากการเช็ค GPS ของรถทราบชื่อว่าคนขับรถคันนี้คือ นายคฑารัตน์ เปียมสิน ถัดไปพบศพหญิงยังไม่ทราบชื่อนอนเสียชีวิตโดนล้อหลังทับและสภาพศพที่โดนไฟไหม้เช่นกัน ทราบว่ารถคันนี้เป็นของ หจก.ท็อปทีม ทรานสปอร์ต ซึ่งเจ้าหน้าที่จะทำการติดต่อญาติผู้เสียชีวิตและเจ้าของรถเพื่อมาสอบปากคำต่อไป
สอบถามนางกมลวรรณ รุ่มรวย อยู่บ้านเลขที่ 87/1 เป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 ต.บางมัญ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี เล่าให้ฟังว่า ขณะที่คนในบ้านรวม 4 คน ได้นอนหลับพักผ่อนกันอยู่นั้น จนเมื่อเวลาประมาณ 01.40 ตนได้ยินเสียงดังตึ๊กๆๆๆ แล้วก็ได้ยินเสียงระเบิด และได้กลิ่นเหมือนไฟไหม้ จึงได้ออกจากทางหลังบ้านไปดูพบรถคันดังกล่าวไฟลุกท่วมทั้งคันจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
โดยที่บ้านเสียหายเล็กๆ น้อย แต่ตกใจมากกว่าเพราะมาทราบว่ารถพ่วงได้ติดแก๊ซ NGV ตนกลัวระเบิดซ้ำ โดยนางกมลวรรณ ได้เล่าเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา ก็เกิดเหตุคล้ายกันเป็นรถเทรลเลอร์ โดยคนขับรถหลับในเสียหลักลงข้างทางตรงจุดเดียวกัน แต่เป็นช่วงกลางวัน รถพุ่งไถลก่อนรถจะจอดนิ่งห่างจากบ้านพักของตนเองประมาณ 2-3 เมตร มีผู้เสียชีวิต 1 ราย