ประจวบคีรีขันธ์-ปริมาณรถหนาแน่นทั้งฝั่งขาขึ้นและล่องใต้ แต่รถยังสามารถเคลื่อนได้อย่างคล่องตัว
ภาพ/ข่าว: เอกภพ วงษ์ประเสริฐ
บรรยากาศการจราจรบนถนนเพชรเกษมทางหลวงหมายเลข 4 ขาขึ้น-ล่องจากภาคใต้ เป็นเส้นทางหลักเดียวที่ใช้สัญจร ขึ้น ล่อง 14 จังหวัดภาคใต้ การจราจรมีปริมาณรถหนาแน่นทั้งฝั่งขาขึ้นและล่อง รถยังสามารถเคลื่อนตัวได้คล่องตัว
บรรยากาศบนถนนเพชรเกษม ทางหลวงหมายเลข 4 ผ่านอำเภอปราณบุรี มีปริมาณรถยนต์หนาแน่นโดยเฉพาะฝั่งขาลงสู่ภาคใต้มีรถยนต์ติดสะสม ช่วงทางแยกที่มีสัญญาณไฟ สลับกันการจราจรขาล่องใต้ก็มีปริมาณรถมากแต่สามารถเคลื่อนตัวได้ดีไม่มีปัญหา ช่วงนี้จะมีรถบรรทุกสินค้า ที่นำสินค้าไปส่งปลายทางภาคใต้เป็นจำนวนมาก รวมถึงรถยนต์ส่วนบุคคลของ ประชาชน นักท่องเที่ยว ที่ทยอยเดินทางกลับไปท่องเที่ยว พบเยี่ยมญาติพี่น้องเพื่อร่วมฉลองปีใหม่
ปริมาณรถยนต์เริ่มมากตั้งแต่ช่วงเช้า เริ่มหนาแน่นมากขึ้น ช่วงบ่ายคาดว่ามีปริมาณรถมากผ่านเข้ามา ในพื้น อ.ปราณบุรีที่ มีไฟแดง 3 จุด ห่างกันจุดประมาณ 2 ก.ม. เพราฉะนั้นมีปริมาณรถสะสมค่อนข้างมาก ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้ระบบแมนนวลโดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรเข้ามาดำเนินการกดให้สัญญาณในการเปิดสัญญาณไฟจราจร โดยจะเน้นระบายรถทางตรงให้มากที่สุด คาดว่าวันนี้ทั้งวันปริมาณรถจะหนาแน่นตลอดทั้งวันจนถึงกลางคืน
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจปราณบุรี ได้จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจมาคอยอำนวยความสะดวกตามจุดสัญญาณไฟต่างๆ ใช้การกดสัญญาณไฟด้วยมือแทน ทำให้รถยนต์สามารถเคลื่อนได้คล่องตัว แต่จะมีติดสะสมช่วงสัญญาณไฟในพื้นที่ อ.ปราณบุรี ที่มีสัญญาณไฟ 3 จุด เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเร่งระบายรถ เมื่อผ่าน อ.ปราณบุรีไปแล้วรถทุกชนิดจะสามารถวิ่งได้คล่องตัว สามารถทำความเร็ว 80-100 ก.ม.
ด้านตำรวจทางหลวงฝากเตือนประชาชน ที่ขับรถผ่านจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ซึ่งเป็นจังหวัดเดียวที่มีระยะทางยาว 212 ก.ม.ยาวที่สุดในประเทศไทย ต้องผ่านทุกอำเภอ ถ้าประชาชนมีอาการเมื่อยล้า ง่วนนอน ขับรถมาเป็นเวลานานก็ขอให้แวะพักใช้บริการที่สถานีบริการน้ำมันต่างๆหรือไม่ก็จุดพักรถของทางภาครัฐที่จัดไว้ให้