สงขลา-ยกสองเริ่มออกหมัดบ้าง..แต่แค่หยั่งเชิง แต่ละคนยังไม่ปล่อยของ ในศึกชิงนายกฯอบจ.ฯ

ภาพ-ข่าว:นายหัวไทร

               ผ่านยกแรกมาแล้วสำหรับการหาเสียงชิงนายกฯอบจ.สงขลา ที่มีคนหาญกล้าลงชิงมากถึง 9 คน มากที่สุดในประเทศไทย แต่ยกแรกผ่านไปแบบ “มวยชั้นเชิง” ติ๊ดฉึ้ง“ กันเสียมากกว่า ติ๊ดฉึ้งกันจนหมดยก พี่เลี้ยงเริ่มกังวล ‘เฮ้ย…ไม่ได้ ต้องออกหมัดบ้าง เวลามีน้อย” เสียงคำรามมาจากพี่เลี้ยงที่เริ่มจะขัดใจกับมวยไม่เจนเวที เพราะผู้สมัครแต่ละคนล้วนหน้าใหม่ทางการเมือง ไม่เจนจัดเวที
               สุพิศ พิทักษ์ธรรม จากกลุ่มสงขลาพลังใหม่ ที่ถูกมองว่าเป็นเต็ง 1 และน่าจะเป็น “มวยไฟเตอร์” และหมัดหนัก แต่ยกแรกก็ยังพบว่า วางฟอร์มเป็นมวยชั้นเชิง ไม่กล้าออกหมัด-เข้าคลุกวงใน ก็เข้าใจได้ว่า เป็นมวยใหม่ทางการเมือง ยังไม่เคยผ่านแม้สนามมวยงัดมาก่อน อีกอย่างยังติดชนักเรื่องคุณสมบัติ ที่การลาออกยังไม่สมบูรณ์ แต่เมื่อมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าให้พ้นจากตำแหน่งราชการ การสมัครก็เรียบร้อย ยกสองออกจากมุมก็น่าจะเดินเข้าใจ

                อีกอย่างสุพิศน่าจะหวั่นๆกับพี่เลี้ยงบางคน เช่น นายกฯชาย เดชอิศม์ ขาวทอง รมช.สาธารณะสุข เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ แม้นจะมีเครือข่ายเยอะ ขุมกำลังมาก แต่ปฏิบัติการยึดประชาธิปัตย์ แล้วนำพรรคเข้าร่วมรัฐบาลลูกสาวทักษิณ ชินวัตร ใช่ว่าคนสงขลาจะพอใจ แม้นายกฯชายจะกล่าวอ้างว่า คนสงขลาส่วนใหญ่พอใจก็ตาม ยิ่งนายกฯชายสถาปนาตนเองเป็นบ้านใหญ่ ตนเอง ภรรยา และลูกๆ ลงมาคลุกกับการเมืองหมดแบบ “กินรวบ ไม่มีกินแบ่ง” คนใต้ไม่ชอบการเมืองแบบบ้านใหญ่ “สุพิศ”จึงต้องถอยมายืนห่างๆนายกฯชาย แม้นายกฯชายจะพยายามเข้าประชิด หวังเป็นผลงาน และยืนยันว่า ประชาธิปัตย์ไม่ได้ตกต่ำ ถ้าสุพิศชนะ
                พี่เลี้ยงอย่าง “นิพนธ์ บุญญามณี”อดีตนายกฯอบจ.สงขลา อดีต รมช.มหาดไทย ก็ใช่ว่าจะเต็ม 100 กับสุพิศ สังเกตได้ช่วงสมัคร นิพนธ์กลับบินไปญี่ปุ่น 1 อาทิตย์ ต่อยอดธุรกิจอาหารหมา-แมว กลับจากญี่ปุ่นก็ตระเวนขอพร-อวยพร ผู้หลักผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ ไม่ว่าจะเป็นชวน หลีกภัย บัญญัติ บรรทัดฐาน แต่น่าจะเป็นการถอยมาให้ห่าง เพื่อไม่ให้ภาพประชาธิปัตย์ติดตัวสุพิศไป

              ขึ้นยกสอง “สุพิศ”เริ่มออกหมัดแล้ว รับรู้กันได้ในแกนนำหมู่บ้าน ตำบล ชาวบ้านก็รับรู้ได้ และ 12 มกราคมนี้จะเปิดเวทีปราศรัยครั้งแรกที่ อ.สทิงพระ คงต้องซ่อมบทให้ดี จะนำเสนอนโยบายอะไรให้ตรงใจชาวบ้านถิ่นคาบสมุทรสทิงพระ (โซนบก) ที่คนส่วนใหญ่ทำนา ปลูกพริกขี้หนู ปลูกมะพร้าวน้ำหอม ปลูกมะม่วงเบา ปลูกต้นตาล ทำประมง เป็นต้น น่าเสียดายว่า ช่วงที่ผ่านมา นับแต่วันสมัครจนถึงปัจจุบัน “สุพิศ”ใช้สื่อโซเชี่ยลน้อยมาก เสิร์ตหาในสังคมออนไลน์ไม่ค่อยเจอ “สุพิศ”จะต้องหามืออาชีพในการทำสื่อโซเชี่ยล ให้กระโดดข้ามกำแพงบ้านคนหาดใหญ่ คนสงขลา เข้าไปในบ้าน ในห้องครัว หรือแม้แต่ในห้องนอน โดยกำแพงไม่เป็นอุปสรรคสำหรับสื่อโซเชี่ยล สามารถจู่โจมเข้าไปได้ทุกซอกทุกมุม ย้ำว่า “สุพิศ” ยังมีเวลา 20 กว่าวัน ยิ่งยกสามยกสี่ ยิ่งต้องออกหมัดหนัก เล็งเป้าหมายชัด
              ส่วนนายกฯแบน “ประสงค์ บริรักษ์” ที่กำลังไล่บี้สุพิศ เริ่มออกหมัดแล้วเช่นกัน เปิดเวทีปราศรัยนัดแรกวันนี้ 5 มกราคม ชวน “น้ำ-วาริน ชิณวงค์” นายกฯอบจ.นครศรีฯมาร่วมเวทีด้วย ก็น่าจะเป็นตัวช่วยในการดึงคนมาฟัง แต่ไม่น่าจะช่วยเรื่องคะแนนได้มากนัก เพราะ “แบน”กับ “น้ำ”ต่างกันมาก ต้องวางตัวผู้ปราศรัยดีๆ เพราะน้ำต้องวิ่งรอกไปพัทลุงต่อ ไปช่วยปราศรัยให้กับ “สาโรจน์ สามารถ” ถ้าให้น้ำขึ้นปราศรัยก่อน ระวังนะ น้ำปราศรัยจบ คนฟังจะโหรงเหรง แล้วหมัดนี้จะเสียหาย ทีมนายกฯแบนก็น่าเสียดายยังใช้สื่อโซเชี่ยลน้อยเช่นเดียวกัน ก็ไม่เข้าใจไหนบอกว่า จะเอา “นครโมเดล” มาส่วนมาปรับใช้ อย่าลืมว่า น้ำเขาใช้สื่อโซเชี่ยลอย่างเข้มข้น และเป็นระบบจนได้ผลสำเร็จสูงมาก ควรนำสิ่งดีๆเหล่านี้มาปรับใช้
             สำหรับนิรันดร์ จินดานาค จากพรรคประชาชน ที่พรรคมีมติส่งอย่างเป็นทางการ เปิดตัวพร้อมๆกันหลายจังหวัด ถ้ามองในมุมขององคาพยพ พรรคประชาชนน่าจะยกทัพหลวงไปช่วย แต่น่าแปลกเรากลับไม่เห็นข่าว “ชัยธวัช ตุลาธน” อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกลคนสงขลา ลงไปช่วย หรือแม้แต่แกนนำคนอื่นๆก็ยังไม่เห็นเคลื่อน สงขลาพอกันที เปิดตัวได้ดีกับแนวทางโปรงใส สุจริต เพียงแต่ว่าจะเดินไปถึงฝั่งฝันได้อย่างไร เห็น “พิเชฐ พัฒนโชติ” อดีต สว.ออกแรงทำคลิปสนับสนุนอยู่

             โป้-ณัฐภัท อดีตเลขานุการไพเจน มากสุวรรณ์ อดีตนายกฯอบจ.สงขลา ผู้คลุคลีกับกิจกรรมเพื่อเยาวชนมายาวนาน ก็เปิดตัวมากับความมุ่งมั่นตั้งใจ และสู้จริง หวังผลชนะจริง ไม่ได้หวังแค่เปิดตัว สร้างชื่อเพื่อไต่เต้าไปลีกค์หน้า สถานการณ์ที่เป็นอยู่จากยก 1 ขึ้นยก 2 ยังถือว่า สุพิศยังเป็นต่ออยู่ เพราะยังไม่มีใครออกหมัดหนักชัดเจนนัก สถานการณ์จึงยังไม่เปลี่ยน แต่สุพิศก็ต้องปรับตัว ถอดความเป็นอดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ทิ้งไป ใช้สื่อโซเชี่ยลให้เป็นระบบมากขึ้น นำเสนอนโยบายตามที่ต้องการสานฝัน ยังมีเวลาอีก 3 ยก 20 กว่าวัน การเมืองอะไรก็เปลี่ยนได้