อุบลราชธานี-ขอเชิญร่วมงานสมโภชพระเจดีย์พุทธคยาจำลอง วัดป่าภูปัง..และฉลองสัญญาบัตรพัดยศฯ

ภาพ-ข่าว:กิตติภณ เรืองแสน
ทีมข่าวจังหวัดอุบลราชธานี

              พระครูวิมลปัทมนันท์ (พระครูเบส) เจ้าอาวาสวัดป่าภูปัง เจ้าอาวาสวัดป่าภูปัง หมู่ที่ 10 ต.หนามแท่ง อ.ศรีเมืองใหม่ จ.อุบลราชธานี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวของเราว่า วัดป่าภูปัง กำหนดจัดงานพิธีสมโภชพระเจดีย์พุทธคยาจำลอง และ ฉลองสัญญาบัตรพัดยศพระครูวิมลปัทมนันท์ วิ. ขึ้นในวันเสาร์-อาทิตย์ ที่ 18-19 มกราคม 2568 โดยในวันเสาร์ที่ 18 มกราคม 2568 เวลา 07.00 น. ถวายภัตาหารเช้าภิกษุสามเณร เวลา 08.00 น. พิธีบวงสรวงสมเด็จพระนเรศวรมหาราช วันยุทธหัตถี หรือ วันกองทัพไทย เวลา 09.00 น. ประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์และถวายพระเจดีย์ เวลา 11.00 น. ถวายภัตาหารเพล เวลา 13.00 น. ตั้งขบวนแห่สัญญาบัตรพัดยศ เวลา 14.30 น. พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา อ่านตราตั้ง เวลา 16.00 -18.00 น. ลงทะเบียนบวชเนกขัมมะ สมโภชพระพุทธคายะพระเจดีย์ศรีสิริมงคล เวลา 18.30 น. พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ เวลา 19.00 น. บวชเนกะขัมมะ ฟังพระธรรมเทศนา 1 กัณฑ์ เวลา 20.30 น. จุดเทียนชัย สวดพุทธาภิเษก นั่งปรกอธิษฐานจิต และในวันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม 2568 เวลา 04.00 น. ดับเทียนชัย ทำวัตรเช้า เวลา 07.00 น. คณะสงฆ์ออกรับบิณฑบาต เวลา 08.00 น. ถวายภัตตาหารเช้า พระสงฆ์อนุโมทนา เป็นเสร็จพิธี

           พระครูวิมลปัทมนันท์ ได้เปิดเผยอีกว่า ในวันที่ 18 ม.ค.68 เป็นวันคล้ายวันยุทธหัตถี เวลา 08.00 น. จะมีพิธีบวงสรวงสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เรียนเชิญพร้อมเพรียงกันบริเวณพลับพลาบูรพมหากษัตริย์ ร่วมพิธีบวงสรวงเทพยดา เพื่อเป็นสักขีพยานบุญและอัญเชิญดวงพระวิญญาณของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและต้องการแสดงซึ่งความกตัญญูกตเวที แด่พระองค์ท่านด้วย

           “การกระทำพิธีกรรม หาได้ศักดิ์สิทธิ์ด้วยความใหญ่โตหรูหราฟุ่มเฟือย หากอยู่ที่ หัวใจ ของผู้ทำพิธี ว่าบริสุทธิ์เพียงใด” ในวันนี้ เราจึงตั้งโต๊ะเครื่องสังเวย เพียง พอประมาณ ทว่าปราณีต สวยงาม ก่อนเริ่มพิธีบวงสรวงฯ พิธีกรกราบอาราธนาพระครูวิมลปัทมนันท์ เจ้าอาวาสวัดป่าภูปัง และเจริญพรเชิญ คุณมงคล คุณสิริ อุ่นจิตติกุล และคุณนปภัช ศิลารักษ์ จุดธูปเทียนเครื่องบวงสรวง นำกล่าวอัญเชิญดวงพระวิญญาณสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ถวายเครื่องบวงสรวงและกล่าวคำบูชาพระองค์ท่าน ถวายสัตย์ปฏิญาณแสดงความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์         
              คำถวายเครื่องสังเวยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ดังนี้ นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (๓ จบ) อิมัสมิง ทิสาภาเค อัตถิ นริสสะระมะหาราชา มหิทธิโก อัมเห อะนุรักขะ
ตุ อาโรคะเยนะ สุเขนะ จะ สูปะพะยัญชนะสัมปันนัง โภชะนัง ปะริภุญชะตุ นะริสสะระมะหาราชา สัพพะโทสัง ขะมะตุ โนฯ ข้าพเจ้า ขอบูชาโภชนาหารอันประณีต ประกอบด้วยรสอันเลิศนี้ แด่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ขอท่านโปรดแผ่บุญญาภินิหาร อภิบาลข้าพเจ้าและบริวารชนให้ปราศจากทุกข์โศกโรคภัยพาล ปราศจากอุปสรรคนานาประการ โปรดประทานพรให้ประสบสันติสุขสิริสวัสดิ์พิพัฒนาพร งอกงามไพบูลย์ในธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตลอดทุกเมื่อเทอญฯ

          อิติจิตตัง เอหิ เทวะตานัญจะ มะหาเตโช นะระปูชิโต โสระโส ปัจจะยา ทิปปะติ นริสสะระมะหาราชา เมตตัญจะ กะโรตุ มะหาลาภัง สะทา โสตถี ภะวะตุ เมฯ (อธิษฐานทุกครั้ง พระองค์จะเสด็จเป็นร่มเงาให้กับเราตลอดกาล) ขอเดชะ ใต้ฝาละอองธุลีพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม เนื่องในโอกาส วันคล้ายวันยุทธหัตถี ได้เวียนมาบรรจบอีกวาระหนึ่ง ในวันที่ 18 มกราคม พุทธศักราช 2568 นี้ ปวงข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ได้มาประชุมพร้อมกัน ณ สถานที่แห่งนี้ ขอพระราชทานพระบรมวโรกาสต่อเบื้องพระพักตร์แห่งใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท พระมหาวีรกษัตริย์ ผู้ทรงพระคุณยิ่งใหญ่ต่อสยามประเทศเป็นอเนกอนันต์ ทรงปกปักรักษามาตุภูมิ ให้อนุชนรุ่นหลังได้อาศัยอยู่อย่างมีความสุข มาจนกระทั่งบัดนี้

             ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ได้ทรงประกอบพระราชกรณียกิจไว้แก่ประเทศชาติที่คนไทยไม่สามารถจะลบเลือนไปจากความทรงจำได้ ที่สำคัญอัน ได้แก่ 1. ทรงหลั่งน้ำทักษิโณทกประกาศอิสรภาพของชาติไทยโดยสมบูรณ์ ณ เมืองแครง เมื่อปีพุทธศักราช 2127 และ 2. เสด็จเถลิงถวัลย์ราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์ครองกรุงศรีอยุธยาราชธานีไทย เมื่อปีพุทธศักราช 2113 และ 3.ทรงกระทำสงครามขยายพระราชอาณาเขตไทยให้แผ่ไพศาลไปในจตุรทิศทรงมีชัยชนะเหนือหมู่ปัจจามิตร ตลอดรัชสมัยในรัชกาลแห่งใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงมีพระราชอาณาจักรกว้างไกลยิ่งกว่า รัชกาลใดๆและทรงกระทำยุทธหัตถีมีชัยแก่ พระมหาอุปราชาแห่งกรุงหงสาวดี เมื่อพุทธศักราช ๒๑๓๕ นับเป็นนพระมหาวีรกรรมแห่งใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ที่ไม่มีกษัตริย์พระองค์ใดเสมอเหมือนปรากฏ พระเกียรติยศขจรขจายทั่วสากลพิภพ ด้วยวีรกรรมของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงเป็นพระบิดาแห่งภาษา

            เพราะใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงใช้ความรู้ความสามารถในภาษาพม่า โน้มน้าวจิตใจให้พระมหาอุปราชาแห่งกรุงหงสาวดีมาทรงทำยุทธหัตถีกับใต้ฝ่าละออกธุลีพระบาทนับว่าแผ่นดินสยามในรัชสมัยแห่งใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทมีแต่ความสงบร่มเย็น ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินได้รับความสุขโดยทั่วหน้า นับตั้งแต่พุทธศักราช 2148 ที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทเสด็จสู่สวรรคาลัย จวบจนบัดนี้นับได้ 420 ปี แล้วก็ตาม ชาวไทยทุกหมู่เหล่าต่างยังคงสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ ที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทรงมอบให้แก่ชาติไทยอย่างไม่มีวันที่จะลืมได้ ปวงข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ที่มาประชุมพร้อมกัน ณ สถานที่แห่งนี้ จึงขอรวมจิตเป็นสมานฉันท์ ระลึกถึงพระมหาวีรคุณอดุลยภาพ ให้ยืนยงดำรงอยู่ตราบกัลปาวสาน ปวงข้าขอบรรจงจัดเครื่องราชสักการะถวายแด่พระองค์จอมบดินทร์ ขอเชิญเทพวิญญาณ อันหาญกล้าแห่งองค์พระมหาราชแห่งปวงข้าได้โปรดเสด็จมารับเครื่องราชสักการบูชาบวงสรวง ณ กาลบัดนี้ เถิด

                        พระครูวิมลปัทมนันท์ กล่าวอีกว่า เวลา 09.00 น. วันเดียวกัน (18ม.ค.68) จะประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์และถวายพระเจดีย์ โดยญาติธรรมมาพร้อมกันที่บริเวณด้านหน้าพระเจดีย์ คุณมงคล คุณสิริ อุ่นจิตติกุล เป็นประธานจุดธูปเทียน บูชาพระรัตนตรัย ไหว้พระ รับศีล คณะสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ กล่าวคำถวายพระเจดีย์ “ลูกหลานทั้งหลาย ที่ได้ร่วมเสียสละ แรงกาย แรงใจ แรงทรัพย์ ในการสร้าง “พระพุทธคยาเจดีย์ศรีสิริมงคล ” สำเร็จลงได้ด้วยดีแล้ว ขอถวายบุญนี้แด่คุณพระศรีรัตนตรัย คุณบิดามารดาครูอุปัชฌาย์อาจารย์ เทพเทวาทุกพระองค์ ในการนี้ขอกราบยกมอบถวายบุญในครั้งนี้ แด่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ในวันคล้ายวันยุทธหัตถีในวันนี้ ตลอดถึงบูรพมหากษัตริย์ไทยทุกๆพระองค์และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมราชินีนาถพร้อมพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์

            จากนั้น เจ้าหน้าที่ บอกเล่าความเป็นมาของประวัติการสร้างพระเจดีย์ ว่าเจดีย์นี้สร้างขึ้นเพื่อประดิษฐานพระพุทธปฏิมาประธานและบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพื่อบูชาคุณของพระรัตนตรัย และ กล่าวขอบคุณทุกคนที่มีส่วนร่วมในการสร้างพระเจดีย์ในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นคณะสายบุญพ่อแม่คูบาอาจารย์ คณะเจ้าภาพ ทีมงาน หรือญาติธรรมที่มาร่วมงานทั้งหลาย ซึ่งพระครูวิมลปัทมนันท์ เจ้าอาวาสวัดป่าภูปัง อธิบายความหมายของการตั้งชื่อพระเจดีย์ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่า “คุณโยมมงคล คุณโยมสิริ อุ่นจิตติกุลและครอบครัว” คือผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในการสร้างเจดีย์ในครั้งนี้              พระครูวิมลปัทมนันท์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับยอดเจดีย์ทองคำ วัดป่าภูปัง ต.หนามแท่ง อ.ศรีเมืองใหม่ จ.อุบลราชธานี คุณธิดาสิริ จงกล ร่วมกับนิคมอุตสาหกรรมทีเอฟดี และบริษัท เจซีเควิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด มหาชน คุณวัชราภรณ์ จงกล ร่วมสร้างยอดเจดีย์ทองคำมาถวาย ส่วนรายนามเจ้าภาพที่สร้างกระดิ่งทองคำประดับยอดเจดีย์พระพุทธคยาจำลอง ประกอบด้วย 1.ปณิตา ธรรมวัฒนะ 2.บริษัท วันสตาร์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด 3.นายสมิทธ์ สวาวสุ และ น.ส.ปริญญฉัษฎ์ รัตนกุลเศษรฐ์ 4.คุณปวีณา พงศ์สันติชัย 5.คุณรัชดา ยงสวัสดิ์วาณิชย์ 6.คุณชัญญาพัชญ์ ขจรบุญชัยพันธ์ 7.คุณวิลาสินี ธรรมประกอบ 8.คุณศุข ศักดิ์ณรงค์เดช

             ขอดวงพระวิญญาณแห่งองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช จงทรงดลบันดาล ให้ ประเทศชาติ ชาวไทยทุกหมู่เหล่าและปวงข้าพระพุทธเจ้าตลอดจนท่านผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในการสร้างเจดีย์ และผู้ที่สร้างยอดเจดีย์ทองคำ ตลอดจนผู้ที่เป็นเจ้าภาพสร้างกระดิ่งทองคำประดับยอดเจดีย์พระพุทธคยาจำลอง จงประสบแต่ความสุขความเจริญ และอยู่ร่มเย็นเป็นนิจนิรันดร์ ชั่วกาลนานเทอญ..สาธุๆ ปล.ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่วัดป่าภูปัง โทร.092 806 2221 หรือ 090 287 4525