ประจวบคีรีขันธ์-จับต่างด้าวแม่ค้าขายดอกไม้ทำงานไม่ตรงปกแย่งอาชีพคนไทย..!!
ภาพ/ข่าว: เอกภพ วงษ์ประเสริฐ
เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น.วันที่ 13 มกราคม 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางอาภัสรา ชุมทอง จัดหางานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้มอบหมายให้นายจิรศักดิ์ แสงทอง นักวิชาการแรงงาน หัวหน้าตรวจและคุ้มครองคนหางาน บูรณาการร่วมกับตำรวจสันติบาลประจวบฯ สำนักการข่าว กอ.รมน.และ ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดประจวบฯ นำเจ้าหน้าที่จัดหางาน ลงพื้นที่ตรวจสอบจับกุมบุคคลต่างด้าวชาวเมียนมาร์ เข้ามาทำงานในประเทศไทยผิดวัตถุประสงค์ไม่ตรงปกกับที่แจ้งไว้ และเป็นอาชีพที่สงวนไว้ให้คนไทย ซึ่งมีทั้งหมด 27 อาชีพต้องห้ามสำหรับต่างด้าว ตามประกาศกระทรวงแรงงาน เมื่อวันที่ 1 เม.ย.63
โดยได้ลงพื้นที่บริเวณตลาดนัดบ่ายบ้านต้นเกตุ ตำบลห้วยทราย อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อตรวจจับแม่ค้าขายดอกไม้ และสถานประกอบการเกี่ยวกับการรับทำเอกสารคนต่างด้าว ซึ่งได้ว่าจ้างแรงงานต่างด้าวสำหรับกรีดยางมาขับรถ และถ่ายเอกสาร ซึ่งทั้งหมดเป็นการทำงานที่ไม่ตรงกับเอกสารที่ได้แจ้งไว้ โดยได้ผู้ต้องหาทั้งหมด 3 ราย ประกอบด้วย 1.นายแอล ทรอ อายุ 20 ปี สัญชาติเมียนมาร์ 2.นางสาวโป โป อายุ 39 ปี สัญชาติเมียนมาร์ 3.นางเค มา เว อายุ 46 ปี สัญชาติเมียนมาร์ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา เป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน หรือทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิที่จะทำได้ อันเป็นการฝ่าฝืนพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ 2) พ.ศ.2561 ตามมาตรา 8 ห้ามคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงานหรือทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิ์จะทำได้
ประกอบกับมาตรา 101 คนต่างด้าวผู้ใดฝ่าฝืน มาตรา 8 ต้องระวังโทษปรับตั้งแต่ 5,000 บาท ถึง 50,000 บาท และเมื่อได้ชำระค่าปรับแล้วให้ส่งคนต่างด้าวผู้นั้นกลับออกไปนอกราชอาณาจักรโดยเร็ว เว้นแต่เป็นคนต่างด้าวตาม มาตรา 63 หรือมาตรา 63/1 จากนั้นจึงควบคุมตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองวาฬ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และในส่วนของนายจ้างทางสำนักงานจัดหางานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จะดำเนินการเปรียบเทียบปรับ หรือร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนผู้มีอำนาจดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
นางอาภัสรา ชุมทอง จัดหางานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า การปฏิบัติการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งสำนักงานจัดหางานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้รับแจ้งจากกรมการจัดหางานว่า ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงมหาดไทย ได้เน้นย้ำให้ทุกจังหวัด ดำเนินการตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ในเรื่องการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จากประเทศเพื่อนบ้าน กรณีมีข่าวการลักลอบนำแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายจากประเทศเพื่อนบ้าน เข้ามาในพื้นที่จังหวัดชายแดน และเดินทางเข้ามาถึงพื้นที่หมู่บ้าน/ชุมชนในจังหวัดต่างๆ
จึงขอประชาสัมพันธ์ให้นายจ้าง สถานประกอบการ อย่าจ้างคนต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย เพื่อมาทำงานเพราะจะมีความผิดในการจ้างคนต่างด้าวผิดกฎหมาย โดยมีโทษปรับตั้งแต่ 10,000 – 100,000 บาท ต่อคนต่างด้าวที่จ้างหนึ่งคน หากกระทำความผิดซ้ำมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 50,000 – 200,000 บาท ต่อคนต่างด้าวที่จ้างหนึ่งคน หรือทั้งจำทั้งปรับและห้ามจ้างคนต่างด้าวเป็นเวลา 3 ปี ส่วนคนต่างด้าวที่ทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงานหรือทำงานนอกเหนือจากสิทธิจะทำได้มีโทษปรับตั้งแต่ 5,000 – 50,000 บาท และจะต้องถูกส่งกลับประเทศต้นทางนับตั้งแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุด ให้ลงโทษตามพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2561 และหากพบเห็นแรงงานต่างด้าวลักลอบทำงาน หรือเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ หรือสำนักงานจัดหางานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป