
ประจวบคีรีขันธ์-สภ.เมืองฯตั้งจุดตรวจจับรถจักรยานยนต์ไม่สวมใส่หมวกกันน็อค พร้อมแจกหมวกแทนใบสั่ง
ภาพ/ข่าว:เอกภพ วงษ์ประเสริฐ
วันที่ 11 เมษายน 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณถนนสวนสนเลียบชายหาดทะเลอ่าวประจวบ เขตเทศบาลเมือง อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.อ.ไพทูล พรมเขียน ผกก.สภ. เมืองประจวบคีรีขันธ์ นำเจ้าหน้าที่ตำรวจจิตอาสา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ร่วมกันตั้งจุดตรวจจุดสกัดกวดขันวินัยจราจร เนื่องในเทศกาลสงกรานต์โดยเน้นการตรวจจับรถจักรยานยนต์ที่มีประชาชนขับขี่แล้วไม่สวมใส่หมวกกันน็อคนิรภัย พร้อมตรวจค้นอาวุธและสิ่งของผิดกฎหมายต่างๆ
โดยในส่วนของการตรวจจับผู้ที่ไม่สวมใส่หมวกกันน็อคหลังจากจับแล้วจะเป็นการแจกหมวกกันน็อคให้แทนการออกใบสั่งค่าปรับจราจร พร้อมแนะนำประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ สร้างความตระหนักถึงความปลอดภัยในการขับขี่ รวมไปถึงเครื่องหมายจราจรต่างๆ และผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นหลังจากประสบอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้
พ.ต.อ.ไพทูล พรมเขียน ผกก.สภ.เมืองประจวบฯ เปิดเผยว่า โครงการดังกล่าวเป็นโครงการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เนื่องจากเกิดความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่ขับขี่รถจักรยานยนต์เดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งเป็นอุบัติเหตุที่เกิดมาก จึงได้มีโครงการนี้ขึ้นมาเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแจกหมวกให้กับประชาชนซึ่งในส่วนของ สภ.เมืองประจวบได้มาทั้งหมดจำนวน 80 ใบ ก็จะดำเนินการแจกจนกว่าจะจะหมดในช่วงเทศกาลสงกรานต์
โดยจะมีการตั้งจุดตรวจเรียกประชาชนที่ขับรถสัญจรผ่านไปมาแล้วไม่สวมใส่หมวกกันน็อค เพื่อให้ความรู้ในการขับขี่ปลอดภัย จากนั้นจึงได้แจกหมวกกันน็อคให้นำไปใช้สวมใส่ขณะขับขี่ โดยจะมีการถ่ายบัตรประชาชนทำประวัติไว้ว่าได้แจกหมวกกันน็อคให้ใครไปบ้างแล้ว และได้มีการนำมาสวมใส่ขณะขับขี่หรือไม่ จึงอยากฝากประชาสัมพันธ์เตือนพี่น้องประชาชนทุกคนขับรถด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้กับทุกคน เพื่อความปลอดภัยของตัวพี่น้องประชาชนเอง
ด้านผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รายหนึ่งที่ได้รับแจกหมวกกันน็อค เผยความรู้สึกว่า โดยปกติตนเองก็สวมใส่หมวกกันน็อคขณะขับขี่อยู่แล้ว แต่วันนี้รีบจนลืมเอามา เนื่องจากที่ตนเองชอบสวมใส่นั้นเกิดความเคยชินและรู้สึกมั่นใจว่าปลอดภัย อีกอย่างตนเองเป็นเสาหลักของครอบครัวในการประกอบอาชีพหาเงินเลี้ยงดูพ่อแม่ หากตนเองประสบอุบัติเหตุหัวฟาดพื้นหรือเป็นอะไรไป พ่อแม่ของตนเองก็อาจลำบาก จึงอยากเชิญชวนผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ทุกคนหันมาสวมใส่หมวกกันน็อคด้วยกัน เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของตนเองและครอบครัว