ประจวบคีรีขันธ์-หมวดทางหลวงฯสำนึกพระคุณอาชีพพ่อ นำเครื่องมือช่างไม้ประดับหน้าแท่นพิธีศพ

ภาพ/ข่าว:เอกภพ วงษ์ประเสริฐ

           หมวดทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ สำนึกพระคุณอาชีพพ่อ สร้างฐานะสร้างครอบครัวเลี้ยงลูก 5 คน นำเครื่องมือช่างไม้ประดับหน้าแท่นพิธีศพ แขกผู้มีเกียรติแห่ร่วมเป็นเจ้าภาพ 7 คณะ
            เวลา 19.00 น.วันที่ 11 เมษายน 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลาสวดพระอภิธรรม ศาลา 2 วัดเกาะหลัก พระอารามหลวง อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ นายสุพจน์ เสริมทรัพย์ หัวหน้าหมวดทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ ได้จัดให้มีการประกอบพิธีสวดพระอภิธรรมบำเพ็ญกุศลศพ นายนุกูล เสริมทรัพย์ ผู้เป็นบิดาที่เสียชีวิตลงด้วยวัยชราในวัย 87 ปี โดยที่บริเวณด้านหน้าแท่นพิธีประกอบโลงศพได้มีการประดับประดาไปด้วยอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมืออาชีพช่างไม้ และทีวี เครื่องเสียง เทปคาสเซ็ทรุ่นเก่าโบราณ อาทิ กบไสไม้โบราณ เลื่อยไม้โบราณ ขนาดไซต์ต่างๆ สิ่ว ค้อน ตลับเมตร และอุปกรณ์เครื่องมือเกี่ยวกับการประกอบวิชาชีพช่างไม้อื่นๆอีกหลากหลายชนิด ซึ่งไม่เหมือนใครแตกต่างจากพิธีศพอื่นๆที่ผ่านมาซึ่งใช้ดอกไม้สดหรือดอกไม้แห้งประดับที่ด้านหน้าโลงศพแทน
             โดยมี พ.ต.อ.ไพทูล พรมเขียน ผกก.สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ นายสุวิทย์ เยื่อใย นายก อบต.เกาะหลัก นายสมพงษ์ สัตถาพร ประธาน กต.ตร.สภ.เมืองประจวบฯ ส.ส.สังคมแดงโชติ สจ.สมหมาย แดงโชติ สจ.สมมิตร แดงโชติ รวมไปถึงกลุ่มเพื่อนวิทยาลัยเทคนิคประจวบ รุ่น 5 กลุ่มเพื่อนประจวบวิทยาลัย รุ่น 63 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมือง คณะกรรมการ กต.ตร.และคณะแขกผู้มีเกียรติอื่นๆรวม 7 คณะร่วมเป็นเจ้าภาพพิธีสวดพระอภิธรรมในครั้งนี้
            โดยกำหนดการสวดพระอภิธรรมศพ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 8 ถึงวันเสาร์ที่ 12 เม.ย.68 เริ่มเวลา 19.00 น.ของทุกวัน และในวันอาทิตย์ที่ 13 เมษายน 68 เวลา 14.30 น.พระเทศน์ 1 กัณฑ์ เวลา 15.00 น.พระสวดมาติกาบังสุกุล เวลา 16:00 น. พระราชทานเพลิงศพ เป็นอันเสร็จพิธี
             นายสุพจน์ เสริมทรัพย์ หัวหน้าหมวดทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า การที่ได้มีการนำเอาอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือเกี่ยวกับช่างไม้มาประดับประดาที่บริเวณหน้าแท่นพิธีศพของพ่อนั้น สืบเนื่องมาจากพ่อของตนมีอาชีพเป็นช่างไม้ โดยเรียนจบแค่ชั้น ป.4 แต่มีความรู้เกี่ยวกับงานไม้โดยเรียนรู้ด้วยตัวเอง และได้ประกอบวิชาชีพช่างไม้หารายได้เลี้ยงดูครอบครัว พร้อมลูกอีก 5 คนจนเติบโต และได้เรียนจบสูงๆมีการมีงานดีๆทำ ซึ่งเป็นอาชีพที่พ่อรักและเป็นความภาคภูมิใจของลูกๆและครอบครัว และเมื่อพ่อเสียชีวิตตนคิดว่าสิ่งที่ทำให้พ่อได้อีกสักครั้งก็คือนำเครื่องมือที่พ่อใช้ประกอบอาชีพและได้เก็บสะสมไว้มาจนถึงปัจจุบันรวมแล้วกว่า 40 ปี มาประดับไว้ที่หน้าโรงศพ
              โดยประกอบให้เป็นรูปแบบบ้าน มีบานประตูหน้าต่าง ให้เหมือนเป็นบ้านหลังสุดท้ายของพ่อ เพื่อให้พ่อได้ภูมิใจเห็นว่าลูกๆนั้นสำนึกในบุญคุณวิชาชีพของพ่อ สำหรับในส่วนของเครื่องแบบชุดขาวที่พ่อสวมใส่นั้น เนื่องจากในอดีตได้รับการไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่งประธานสภาเทศบาลเมืองประจวบมาหลายสมัย รวมแล้ว 15 ปี จนได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ โดยในส่วนเครื่องมือนั้นเมื่อถามว่าจะมีการขายหรือไม่ คงไม่ได้ขายและคงไม่มีใครคิดจะซื้อไปใช้แล้ว ต่อไปอาจจะนำไปเก็บสะสมไว้เป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อรำลึกให้กับพ่อ หรือนำไปบริจาคให้พิพิธภัณฑ์ หรืออาจจะไปปรึกษากับวิทยาลัยเทคนิคแล้วมอบให้เป็นเครื่องมือสอนเด็กนักเรียน ซึ่งต้องปรึกษากับครอบครัวอีกครั้ง นายสุพจน์ กล่าว..