
ราคายาง-ปาล์มร่วงหนัก รัฐบาลเงียบกริบ ”สุนทร“แนะรัฐบาลพูดความจริงกับประชาชน
ภาพ-ข่าว:
ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 11-15 เมษายน 2568 เดินทางกลับไปภาคใต้ (สงขลา)นครศรีธรรมราช ได้รับทราบปัญหาของชาวบ้าน เกษตรกรผู้ปลูกยางพารา และเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน ถึงปัญหาราคาตกต่ำ ที่เป็นสาเหตุทำให้ราคายางตกต่ำ อาจจะกล่าวได้ว่าถึงคราวสาหัสอีกครั้ง สาหัสเพราะยางพารากำลังจะหลุด 3 กิโล 100 แล้ว (น้ำยาสด) ส่วนปาล์มราคาประมาณ 5.80-6.10 บาท/กิโลกรัม
กล่าวถึงปาล์ม ราคาต้นทุนก็ 5 บาทกว่า/กก.แล้ว เป็นราคาต้นทุนที่ทางราชการรับรอง น่าจะอยู่ที่ 5.60 บาท ซึ่งเวลานี้เกษตรกรชาวสวนปาล์มขายได้ในราคาเกือบเท่าทุน ส่วนยางพารา ถ้าหลุด 3 กิโล 100 เท่ากับขายในราคาขาดทุน แต่เกษตรกรชาวสวนยางพาราไม่มีทางเลือกอื่นในการแก้ไขปัญหาระยะสั้น ส่วนระยะยาว จะทำสวนยางยั่งยืน ปลูกพืชอื่นแซม เพื่อหารายได้เสริมก็ว่ากันไป
นายสุนทร รักษ์รงค์ อดีตคณะกรรมการการยางแห่งประเทศไทย เลขาธิการสภาเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตอนราคายางพาราขึ้นราคาเห็นโม้กันจัง
ว่าเป็นฝีมือตัวเอง ตอนนี้พอราคายางพาราตกต่ำกลับเงียบกริบ “แท้จริงแล้ว ราคายางขึ้นที่ผ่านมาเป็นเพราะปัจจัยภายนอกเสียส่วนใหญ่ เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพของอากาศ(Climate Change)ทำให้ปริมาณยางทั่วโลกลดลง ประกอบกับภูมิรัฐศาสตร์ทางการเมือง(Geopolitics) มีสงครามและมีความกังวลเรื่องการขนส่งทางเรือทำให้ อเมริกาและยุโรป ต้องกักตุนนำเข้ายางมากขึ้น
ตอนนี้ราคายางลงมาจากปัจจัยภายนอกเป็นหลักอีกครั้ง เช่น กรณีของประธานาธิบดีทรัมป์ ของอเมริกาขึ้นภาษีผู้รับผิดชอบจะแก้ไขปัญหาอย่างไร เพื่อเยียวยาความเดือดร้อนของพี่น้องชาวสวนยาง เมื่อครั้งราคายางพาราพุ่งไปเกือบ 100 บาท/กิโลกรัม ฝ่ายการเมืองก็ออกมาเป่าประกาศว่าเป็นผลงานของตัวเอง เป็นผลงานของรัฐบาลบ้าง เช่น เกิดจากการปราบปรามยางพาราเถื่อน (ลักลอบนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน) การนำยาพาราไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อย่างอื่นๆบ้าง แต่เวลานี้พากันเงียบ “แต่ความจริงผลกระทบจากปัจจัยภายนอก ทำให้ตลาดไม่แน่นอน พ่อค้าก็ไม่กล้าซื้อยาง ผู้รับผิดชอบควรออกมาให้ข้อมูลที่ตรงไปตรงมากับชาวสวนยาง ว่าอะไรเป็นปัจจัยหลัก อะไรเป็นปัจจัยรอง ที่เป็นสาเหตุทำให้ราคายางตกต่ำ” สุนทร แนะนำว่า ต้องใช้วิธีการเจรจากับพ่อค้า ขอความร่วมมือไม่ให้พ่อค้าอย่าซ้ำเติมเหตุการณ์ด้วยการฉวยโอกาสกดราคายาง
ชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี ก็บอกว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวสวนเรื่องราคายางพาราตกต่ำ ได้ยกหูคุยกับ ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ให้ช่วยแก้ไขปัญหาให้ชาวสวนปาล์ม รวมถึงได้หารือกับประธานบอร์ดการยางด้วย ก็ทำได้แค่ออกแถลงการณ์เรียกร้องผู้ประกอบการ รับซื้อยางพาราในราคาที่เป็นธรรม
กล่าวถึงเรื่องยางพารา พรรคกล้าธรรม จะนำมาเป็นประเด็นในการหาเสียงในเขต 8 นครศรีฯ ที่จะเลือกตั้งกันในวันที่ 27 เมษายนนี้ โดยพรรคกล้าธรรมจะเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ 17 เมษายนนี้ และโปรโมตว่า เป็นเวทีพูดความจริงเรื่องยางพารา กล่าวสำหรับสนามเลือกตั้งเขต 8 นครศรีฯกำลังจะเข้าสู่ยกสุดท้ายแล้ว ก็ยังยากต่อการประเมิน หรือวิเคราะห์ว่า ใครจะเข้าวิน ใครจะชิงดำกับใคร ซึ่งมีตัวเต็งทั้งจากพรรคภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ กล้าธรรม และพรรคประชาชน แต่มีนักสังเกตการณ์ทางการเมืองกระซิบว่า “พ่อตาแข่งกับลูกเขย” แต่ให้ระวัง ตาอิน-ตานา-ตาอยู่“ แต่ใครจะเป็นตาอยู่