นครปฐม-พระอุโบสถเฉลิมพระเกียรติ “วัดไผ่ล้อม”สถาปัตยกรรมแห่งศรัทธาและความจงรักภักดี

                เอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมและศิลปะอันงดงาม พระอุโบสถหลังนี้เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กทรงไทยประยุกต์ องอาจและมั่นคง ผนังด้านนอกประดับด้วยประติมากรรมปูนปั้นรูปเทพทรงพระขรรค์ แสดงถึงความศักดิ์สิทธิ์และสง่างามตามศิลปะไทยโบราณ ภายในพระอุโบสถรังสรรค์ด้วย จิตรกรรมฝาผนังโดย “อาจารย์นิตยา ศักดิ์เจริญ” ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ถ่ายทอดเรื่องราวพระพุทธศาสนาและขนบธรรมเนียมไทยได้อย่างมีชีวิตชีวา จนกลายเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า พระอุโบสถมีขนาดกว้าง ๙ เมตร ยาว ๒๑ เมตร รายล้อมด้วยกำแพงแก้วและซุ้มประตู ๔ ทิศอย่างประณีต ใช้งบประมาณในการก่อสร้างกว่า สามสิบเก้าล้านบาท จากแรงศรัทธาของพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ
                ด้วยความสำคัญนี้ วัดไผ่ล้อมได้รับพระราชานุญาตให้อัญเชิญตราสัญลักษณ์พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๓๐ และ ตราสัญลักษณ์งานฉลองสิริราชสมบัติครบ ๕๐ ปี มาประดิษฐาน ณ พระอุโบสถ เพื่อความเป็นสิริมงคล และเป็นอนุสรณ์แห่งความจงรักภักดี
               ต่อมา วัดไผ่ล้อมได้รับพระราชทาน วิสุงคามสีมา ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๒๒ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๔๓ โดยมีพื้นที่วิสุงคามสีมากว้าง ๒๑ เมตร ยาว ๓๘ เมตรและในวันที่ ๔ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๔๕ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว (ขณะดำรงพระอิสริยยศเป็น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ) ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงตัดหวายลูกนิมิต เป็นการประกาศความสมบูรณ์ของพระอุโบสถเฉลิมพระเกียรติแห่งนี้อย่างเป็นทางการ

                พระอุโบสถเฉลิมพระเกียรติ วัดไผ่ล้อม จึงมิได้เป็นเพียงสถานที่ประกอบสังฆกรรม แต่คือ อนุสรณ์แห่งความศรัทธา ความจงรักภักดี และจิตวิญญาณแห่งพุทธศิลป์ อันจะสืบทอดคุณค่าทางวัฒนธรรม ศิลปกรรม และพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืนคู่แผ่นดินไทยตราบนานเท่านาน