ประจวบคีรีขันธ์-จับวัยรุ่นเมียนมาร์ข้ามถิ่นเล่นน้ำสงกรานต์

ภาพ/ข่าว:เอกภพ วงษ์ประเสริฐ

             วัยรุ่นเมียนมาร์บางสะพานฝันสลายตัวไม่ทันได้เปียกถูกตำรวจเมืองประจวบฯจับนอนห้องขังข้อหาข้ามถิ่นเล่นน้ำสงกรานต์ไม่พกบัตรประจำตัว เพื่อป้องปรามก่อเหตุอาชญากรรมแล้วหนีข้ามแดนกลับประเทศเช่นในอดีต
             วันที่ 16 เม.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองประจวบคีรีขันธ์ ร.ต.อ.ประวิทย์ ชินวงศ์ รองสารวัตรปราบปราม สภ.เมืองประจวบฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายปราบปราม ได้ควบคุมตัววัยรุ่นชาวเมียนมา จำนวน 10 คน ซึ่งไม่พกเอกสารประจำตัว และหลักฐานการขออนุญาตเข้ามาอยู่ในประเทศไทยแสดงต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจขณะขอตรวจค้น โดยอ้างว่าเอกสารอยู่กับนายจ้าง จากการตรวจสอบเบื้องต้นได้เดินทางมาจำนวน 2 คันรถกระบะ พร้อมถังใส่น้ำขนาด 200 ลิตร ซึ่งมีทั้งเด็กผู้หญิง ผู้ชาย และกลุ่มวัยรุ่นจำนวนหลาย 10 คน อายุประมาณ 14 ปี และมากกว่า 20 ปี เดินทางมาจากพื้นที่อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยมีคนไทยเชื้อสายมอญเป็นผู้ขับขี่รถนำพาข้ามอำเภอ เพื่อมาเล่นสาดน้ำสงกรานต์ในเขตพื้นที่อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ และมาท่องเที่ยวดูลิงเขาช่องกระจก จนมาถูกเจ้าหน้าที่เรียกตรวจสอบบริเวณถนนเลียบชายทะเลอ่าวประจวบ ด้านหลังเขาช่องกระจก
              เมื่อเจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบเอกสารพบว่าบุคคลต่างด้าวชาวเมียนมาบางส่วนมีเอกสารประจำตัวติดตัวมาด้วย ส่วนที่ไม่ได้พกเอกสารติดตัวมาและเอกสารหมดอายุจึงได้ควบคุมตัวกลับมาสอบสวนที่โรงพักเพื่อตามหาตัวนายจ้างมารับและนำเอกสารมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ โดยวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวเป็นแรงงานหลายอาชีพ เช่น อาชีพแรงงานในเรือประมง และชาวสวนกรีดยางพารา
               ทั้งนี้สืบเนื่องจาก ร.ต.อ.ประวิทย์ ชินวงศ์ รองสารวัตรปราบปราม สภ.เมืองประจวบฯ ได้รับมอบหมายจาก พ.ต.อ.ไพทูล พรมเขียน ผกก.สภ.เมืองประจวบฯ และ พ.ต.ท.ภาวริศ ชาลือ รอง ผกก.ฝ่ายปราบปราม สภ.เมืองประจวบฯ ให้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจปฏิบัติการที่ 1 ออกลาดตระเวนตรวจสอบดูแลความสงบเรียบร้อยป้องกันเหตุอาชญากรรมในพื้นที่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างนั้นได้พบรถยนต์กระบะ 2 คัน มีแรงงานชาวเมียนมาเต็ม 2 คันรถกระบะ บริเวณด้านหลังเขาช่องกระจกจึงเรียกตรวจสอบ
             ปรากฏว่าไม่มีเอกสารใดๆมาแสดงกับเจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวมาไว้ที่โรงพัก โดยทั้งหมดอ้างว่าเดินทางมาจากพื้นที่อำเภอบางสะพานหนีความวุ่นวายจากเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทในงานสงกรานต์ที่ อ.บางสะพาน เพื่อมาเล่นน้ำสงกรานต์ในพื้นที่อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ และท่องเที่ยวดูลิงเขาช่องกระจก ซึ่งอ้างว่าเอกสารอยู่กับนายจ้าง และนายจ้างอ้างว่าอยู่ระหว่างการยื่นขอต่อบัตร แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อขอให้นายจ้างของแรงงานแต่ละบุคคลนำเอกสารมาแสดงพร้อมจ่ายค่าปรับตามกฎหมายเหตุไม่พกเอกสารประจำตัวติดมาด้วย เพื่อแสดงต่อเจ้าหน้าที่
               ร.ต.อ.ประวิทย์ ชินวงศ์ รองสารวัตรปราบปราม สภ.เมืองประจวบฯ เปิดเผยว่า จากการที่ได้ประสานกับนายจ้างของกลุ่มวัยรุ่นชาวเมียนมาทั้ง 10 คน ปรากฏว่านายจ้างส่งเอกสารมาแสดงได้เพียงแค่ 2 ราย ที่เหลืออีก 8 ราย ไม่ส่งเอกสารมาแสดงและติดต่อไม่ได้ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมควบคุมตัวเข้าห้องขังส่งบันทึกจับกุมให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย และหากภายหลังนายจ้างนำเอกสารหลักฐานมาแสดงกับพนักงานสอบสวนได้แล้วก็จะเปลี่ยนจากข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง เป็นบุคคลต่างด้าวไม่พกเอกสารติดตัวมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่เมื่อขอตรวจค้น พร้อมเสียค่าปรับคนละไม่เกิน 1,000 บาทต่อไป
                ซึ่งจากการปฏิบัติหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยและการจับกุมวัยรุ่นบุคคลต่างด้าวชาวเมียนมาครั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันการก่อเหตุอาชญากรรม เนื่องจากที่ผ่านมาในพื้นที่อำเภอบางสะพานได้เคยมีกลุ่มวัยรุ่นชาวเมียนมาบางสะพานเคยก่อเหตุใช้ระเบิดปิงปองก่อเหตุความวุ่นวายในพื้นที่อำเภอบางสะพานมาแล้ว และเมื่อก่อเหตุเสร็จก็หลบหนีข้ามประเทศไปกบดานอยู่ฝั่งประเทศเมียนมาร์