
ประจวบคีรีขันธ์-ชาวบ้านปากคลองสืบสานประเพณีโบราณขนทรายเข้าวัดอายุกว่า 100 ปี
ภาพ/ข่าว:เอกภพ วงษ์ประเสริฐ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดธรรมิการาม วรวิหาร (วัดใน) อายุมากกว่า 100 ปีตั้งอยู่ในชุมชนบ้านปากคลองบางนางรม เขตเทศบาล อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ ชาวบ้านในชุมชนได้ร่วมกันสืบสานประเพณีขนทรายเข้าวัด ภายใต้กิจกรรมก่อพระเจดีย์ทราย ซึ่งคณะกรรมการชุมชน นำโดย นายสุรชัย พรหมรัตนเลิศ ประธานชุมชนปากคลองบางนางรมจัดขึ้น เพื่อเป็นการสืบสานประเพณี สร้างความสามัคคีให้กับคนในชุมชน ส่งเสริมให้ชาวบ้านได้ร่วมกันรักษาศีลข้อ 2 ในรูปแบบการขนทรายเข้าวัดก่อพระเจดีย์ เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้กับชาวบ้านในชุมชน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 68
โดยงานดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14-17 เมษายน 68 บริเวณวัดธรรมิการาม วรวิหาร(วัดใน) และบริเวณถนนสวนสน เลียบชายหาดทะเลอ่าวประจวบฯ ซึ่งภายในงานมีกิจกรรมต่างๆมากมาย เช่น การล้างโบสถ์ การทำบุญเลี้ยงพระถวายภัตตาหารตามประเพณี พิธีสรงน้ำพระภิกษุ รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ และเล่นน้ำสงกรานต์ในชุมชน รวมไปถึงการทำบุญกระดูกให้กับบรรพบุรุษและผู้ที่ล่วงลับไปแล้วของคนในชุมชน แต่ที่เป็นสีสันและเป็นไฮไลท์ของงานก็คือกิจกรรมการประกวดก่อพระเจดีย์ทรายในรูปแบบต่างๆให้ชาวบ้านในชุมชนรวมถึงนักท่องเที่ยวได้ร่วมกิจกรรม
ทั้งนี้ ประเพณีก่อพระเจดีย์ทราย ผูกโยงกับคติความเชื่อเรื่องเวรกรรมในพระพุทธศาสนา เชื่อว่าการ ก่อเจดีย์ทราย ถวายวัดเพื่อนำเศษดินทรายที่ติดเท้าออกจากวัดไป ตอนเข้ามาทำบุญในวัด เอามาคืนวัดในรูปของเจดีย์ทรายและเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา เชื่อกันว่าจะได้อานิสงส์มาก คือจะไม่ตกนรกหลายร้อยชาติ ถ้าเกิดเป็นมนุษย์ก็จะเพรียบพร้อมด้วยยศถาบรรดาศักดิ์ มีบริวารและเกียรติยศชื่อเสียง หากตายไปจะได้ขึ้นสวรรค์ พรั่งพร้อมด้วยสมบัติและมีนางฟ้าเป็นบริวาร จึงทำให้คนโบราณนิยม “ก่อพระเจดีย์ทราย” ใน “วันสงกรานต์” และเป็นกุศโลบายให้คนในชุมชนรวมตัวกันได้พบปะสังสรรค์กัน เพื่อจัดประเพณีรื่นเริงเป็นการสร้างความสามัคคีของคนในชุมชนด้วย
นอกจากแง่บุญกุศลของการ “ก่อเจดีย์ทราย” ในทางบาปตามความเชื่อของชาวเหนือก็เข้มข้นเช่นกัน เพราะคนโบราณเชื่อว่าทุกครั้งที่เดินเข้าวัดพุทธศาสนิกชนก็จะนำเม็ดทรายในวัดติดเท้าออกมาด้วยโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่หากไม่ขนทรายไปใช้แทน เมื่อตายไปจะเกิดเป็นเปรต เพราะคนล้านนาถือเรื่องสมบัติของสงฆ์ว่าเป็นของสูงของศักดิ์สิทธิ์ ใครจะลักขโมยหรือทำลายไม่ได้ เป็นบาปมหันต์
นายสุรชัย พรหมรัตนเลิศ ประธานชุมชนปากคลองบางนางรม เปิดเผยว่า ประเพณีนี้ตนเองเป็นคนรุ่นใหม่ได้จัดขึ้นปีนี้เป็นปีที่ 2 เนื่องจากประเพณีขนทรายเข้าวัด หรือก่อพระเจดีย์ทราย เป็นประเพณีดั้งเดิมของคนเก่าโบราณ ปัจจุบันได้เริ่มเลือนหายไป จึงได้ร่วมกับคณะกรรมการจัดขึ้นเนื่องจากชุมชนนี้เป็นชุมชนเก่าแก่และวัดในชุมชนแห่งนี้มีอายุเก่าแก่มากกว่า 100 ปี
จึงได้จัดกิจกรรมนี้ขึ้นมาเพื่อให้คงอยู่ต่อไปคู่กับชุมชนไม่อยากให้เรือนหายไประหว่างรุ่น อยากให้มีการส่งต่อรุ่นต่อรุ่นไปตลอด อีกทั้งกิจกรรมเหล่านี้เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจ การสร้างอาชีพส่งเสริมให้คนในชุมชนเกิดมีรายได้เพิ่มขึ้น สร้างความรักความสามัคคีให้กับชุมชน โดยชุมชนแห่งนี้มีทรัพยากรธรรมชาติที่สวยงาม มีทั้งทะเลคลองบางนางรม วัดเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี มีอาชีพการเพาะเลี้ยงหอยดั้งเดิม เป็นต้น