ประจวบคีรีขันธ์-ช้างป่าบุกทำลายทรัพย์สินพืชไร่เสียหาย..!!

ประจวบคีรีขันธ์-ช้างป่าบุกทำลายทรัพย์สินพืชไร่เสียหาย..!!

ภาพ/ข่าว: เอกภพ วงษ์ประเสริฐ

“เกษตรกรบ้านกระทุ่นเขาจ้าวปราณบุรีโอดครวญ ช้างป่าบุกทำลายทรัพย์สินพืชไร่เสียหาย ลงทุนแล้วแทบไม่เหลือผลผลิตให้ขาย”

             วันที่ 21 เมษายน 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีชาวบ้านเกษตรกรบ้านกระทุ่น หมู่ 5 ตำบลเขาจ้าว อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ส่งภาพถ่ายร้องทุกข์กับสื่อมวลชนมาว่า ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากการถูกช้างป่าจำนวนหลายเชือกบุกเข้ามาทำลายทรัพย์สินและพืชไร่ทางการเกษตรที่ปลูกไว้ได้รับความเสียหายจำนวนมาก ทำให้ขาดทุนแทบหมดตัว และต้องอพยพหนีตายมาขออาศัยบ้านลูกสาวนอนพักในเมืองแทน ซึ่งความเสียหายดังกล่าวเรื้อรังมานานและได้ร้องทุกข์ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอ้างว่าจะช่วยชดเชยเยียวยาค่าเสียหายเป็นจำนวน 8,000 บาท ซึ่งในปัจจุบันชาวบ้านยังไม่ได้รับเงินเยียวยาแต่อย่างใด ซึ่งอยากให้หน่วยงานเข้ามาดูแลช่วยผลักดันช้างป่าออกจากพื้นที่ไปดีกว่า เนื่องจากเงินที่ช่วยเหลือเยียวยาไม่คุ้มค่ากับความเสียหายที่ลงทุนไปแล้วนับกว่าแสนบาท
             นางเจริญ อายุ 76 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32 ม.5 บ้านกระทุ่น ต.เขาจ้าว อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ตนมีอาชีพทำไร่ปลูกกล้วย มะละกอ และปาล์มน้ำมัน ปัจจุบันและที่ผ่านมามีปัญหาช้างป่าเข้าทำลายพืชผลทางการเกษตรอย่างต่อเนื่อง จนได้รับความเสียหายจำนวนมาก พอจะได้เก็บผลผลิตขาย ก็โดนช้างทำลายเสียหายต่อเนื่อง ลงทุนปลูกปาล์มไว้ 300 กว่าต้นก็ไม่เหลือ ปลูกกล้วยพอจะตัดขายได้ก็โดนชักไส้ เหวี่ยงทิ้ง แถมยังทำลายสิ่งของอุปกรณ์ทำการเกษตร เช่น ถังน้ำสำหรับฉีดยาใส่ปุ๋ยก็โดนช้างใช้งานแทงจนทะลุแล้วถูกเหวี่ยงทิ้งเข้าไปในป่า จากนั้นเดินวนไปเวียนมาอยู่บริเวณรอบบ้านพัก จนไม่กล้านอนพักอาศัยอยู่ในบ้านเพื่อเฝ้าไร่ ต้องไปอาศัยนอนอยู่กับลูกสาวที่ในตัวเมืองอำเภอปราณบุรีแทน
             โดยช่วงกลางวันจะเข้าไปดูแลไร่สวน พอตกช่วงเย็นก็ต้องรีบกลับออกจากไร่ไปอยู่บ้านลูกสาวในเมืองแทน เนื่องจากพอเริ่มมืดช้างก็จะออกมาทำลายไร่สวนจนเสียหายทุกคืน โดยฝูงช้างดังกล่าวมี 4-5 เชือก และเมื่อหลังจากช้างกลับออกจากพื้นที่สวนไปแล้วก็จะทิ้งคราบร่องรอยความเสียหายไว้ให้ดูด้วยความปวดใจจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นปาล์มน้ำมัน กล้วย มะละกอ แถมยังทิ้งรอยเท้า และมูล(ขี้ช้าง)ไว้ให้ดูต่างหน้า
             ที่ผ่านมาเคยร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว และก็ได้มีการลงพื้นที่มาตรวจสอบความเสียหายพร้อมกับช่วยผลักดันช้างป่าออกไป แต่ก็ไม่ได้ผล พอเจ้าหน้าที่กลับออกไปช้างก็กลับเข้ามาในพื้นที่เหมือนเดิม โดยเจ้าหน้าที่แจ้งว่าจะช่วยเยียวยาค่าเสียหายเป็นจำนวนเงิน 8,000 บาท ซึ่งปัจจุบันยังไม่ได้รับ
           โดยทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าให้จ้างคนมาเฝ้าไร่แทน ซึ่งถ้าหากจ้างคนมาเฝ้าจะคุ้มค่ากับราคาผลผลิตที่ขายได้หรือไม่ เนื่องจากปัจจุบันต้นทุนการทำการเกษตรก็สูงอยู่แล้ว แต่เวลาขายผลผลิตกลับได้ราคาถูก และคนที่จะจ้างมาเฝ้าไร่ก็หายาก เพราะทุกคนส่วนใหญ่ก็กลัวถูกช้างทำร้ายเช่นกัน

CATEGORIES
Share This
error: Content is protected !!