ปทุมธานี-ลางบอกเหตุถึงหนี้สิน..ชาวสวนกัดฟันสู้ภัยแล้ง

ปทุมธานี-ลางบอกเหตุถึงหนี้สิน..ชาวสวนกัดฟันสู้ภัยแล้ง

ภาพ/ข่าว:อนันต์ วิจิตรประชา
ปทุมธานีได้เผชิญภัยแล้งเพิ่มมากขึ้น ปริมาณน้ำภายในคลองซอยต่าง ๆ ได้ลดระดับเกือบติดก้นคลอง เกษตรกรหลายรายต้องทนกับสภาวะอย่างนี้อีกต่อไป น้ำในลำคลองน้อยมากทำให้พืชผลทางการเกษตรแถบจะยืนต้นตายสร้างความเสียหายให้เกษตรกรโดยทั่วหน้า
จากการสอบถาม นายทองสิน เริ่มศรี วัย 51 ปี เกษตรกร คลอง 14 ตำบลบึงน้ำรักษ์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า ตนและนางสมพงษ์ บุญส่ง ผู้เป็นภรรยาเป็นชาวจังหวัดสกลนคร ได้มาเช่าที่เพื่อทำสวนกล้วยและอ้อย จำนวน 150 ไร่ มาเป็นเวลา 5 ปีแล้ว ซึ่งเจ้าของที่คิดค่าเช่าไร่ละ 2,000 บาท ต่อปี สำหรับพืชผลที่ทำนั้นประกอบด้วย กล้วยน้ำว้า จำนาน 125 ไร่ และเป็นไร่อ้อยพันธุ์สุพรรณ50 จำนวน 25 ไร่
      ภัยแล้งครั้งนี้ต้องปล่อยให้ต้นอ้อยยืนต้นตายเนื่องจากขาดน้ำ เพราะต้องนำน้ำที่เหลือมาใช้ในการทำสวนกล้วยทั้งหมด ยอมทิ้งไร่อ้อยทั้ง 25 ไร่ เพื่อรักษาสวนกล้วย จำนวน 125 ไร่ เพื่อไม่ให้ได้รับความเสียหายไปมากกว่านี้ เพราะทุกวันนี้ยอดผลผลิตก็ลดลงกว่า 40%แล้ว และยังมีต้นกล้วยที่เริ่มปลูกใหม่ จำนวน 30 ไร่ ถ้าภายใน2 เดือนนี้ ไม่มีน้ำคงได้รับความเสียหายทั้งหมด เพราะทุกวันนี้ตนก็หาแห่งน้ำและลอกคลองไว้รับน้ำที่ไหลมาจากคลองระบายน้ำที่ 13 เพื่อนำน้ำมาใช้ในสวน ด้วยค่าใช้จ่ายของตัวเอง
จากภัยแล้งทำให้ผลกระทบไปยัง ค่าเช่าที่ดิน และเงินกู้ ธกส. อยากให้หน่วยงานรัฐ มาช่วยปรับอัตราดอกเบี้ยหรือพักชำระหนี้ไปก่อน เพราะตนอยากนำเงินมาจ่ายค่าเช่าที่ดินก่อนเพราะเกรงว่าถ้าไม่มีการจ่ายค่าที่หรือค้างมาเมื่อไร ก็ต้องออกจากที่ดิน ก็จะสร้างความเดือดร้อนให้ตนและครอบครัวมากกว่าที่เป็นอยู่ วอนชลประทานช่วยบริหารจัดการน้ำดูแลชาวเกษตรกรให้ยืนอยู่ได้บ้างในการประกอบอาชีพ.

CATEGORIES
TAGS
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!