สระบุรี-จงอางผยองเลื้อยเขมือบงูสิงห์หายเข้าท้องไปทั้งตัว
ภาพ/ข่าว:สมภพ พิมมะศร
จงอางผยองเลื้อยเขมือบงูสิงห์หายเข้าท้องไปทั้งตัว
วันที่ 23 พ.ย.64 ที่ ศูนย์วิทยุกู้ภัยสว่างรัตนตรัยธรรมสถานสระบุรี ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน ว่าพบงูจงอางขนาดใหญ่ เลื้อยเข้ามาในหมู่บ้านชลลดา 4 บ้านพึ่งสร้างเสร็จไม่มีเลขที่ บริเวณ ม.4 ต.ตะกุด อ.เมือง จ.สระบุรี จึงประสานไปยังเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยชุดทีม อสรพิษสระบุรี ที่มีความสามารถในการจับงูจงอาง ซึ่งเป็นงูพิษร้ายแรง เข้าทำการช่วยเหลือ ภายในที่เกิดเหตุพบชาวบ้าน และคนงานก่อสร้าง เข้ามายืนมุงดูกันเป็นจำนวนมาก จากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ทีมอสรพิษสระบุรีเข้าไปตรวจสอบ พบว่ามีงูจงอาง หลบซ่อนตัวหลังแท็งค์น้ำขนาดใหญ่ กำลังคายงูสิงห์ ออกจากปาก เนื่องจากได้กินงูสิงห์ เข้าไปทั้งตัว และเพื่อเป็นการคล่องตัวในการหลบหนี จากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ได้ใช้มือเปล่าดึงหางงู ออกมาจากซอกแท็งค์น้ำที่หลบซ่อนตัวอยู่ งูจงอางได้ชูคอขึ้น แผ่แม่เบี้ยตั้งท่าพร้อมที่จะต่อสู้ และพุ่งเข้าใส่ แต่ด้วยความสามารถ ของเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯได้หลบทัน และสามารถหลอกล่องูให้เลื้อยเข้ากล่องพลาสติก ที่เตรียมมา โดยที่ไม่ต้องใช้อุปกรณ์การจับงูเลย เจ้าหน้าที่จึงได้ไปนำซากงูสิงที่อยู่หลังแท็งค์น้ำออกมา ยาวประมาณ 1 เมตรกว่าๆ และจะนำไปฝังพร้อมกับนำงูจงอางไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ ต่อไป
ทางด้าน นาย ฉัตรพล ลิ้นนาค เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างฯ ทีมอสรพิษอสรพิษสระบุรี เผยว่าได้รับจากศูนย์วิทยุ ว่ามีชาวบ้านพบงูจงอาง จึงได้เข้ามาตรวจสอบ และทำการการช่วยเหลือประชาชนที่ร้องขอ จากการตรวจสอบพบว่า เป็นงูจงอางขนาดไม่ใหญ่มาก ความประมาณ 2 เมตรกว่า ได้กินงูสิงห์เข้าไป ซึ่งงูจงอางในเขตพื้นที่สระบุรีจะไม่ค่อยพบเลย ซึ่ง 2-3 ปี จะพบสัก 2 ตัว ส่วนสาเหตุที่คายงูสิงหืออกมาเนื่องจากว่า มีประชาชนคนมุงดูเยอะ งูจึงเกิดความหวาดระแวง และได้คายงูสิงห์ออกมา เพื่อเป็นการคล่องตัวในการหลบหนี ซึ่งงูจงอางเป็นงูที่มีพิษร้ายแรง ทำลายระบบประสาทกับผู้ที่ถูกงูจงอางกัด นาย ฉัตรพล กล่าวเสริมว่า ประชาชนทั่วไปถ้าพบเจองูจงอาง หรืองูเห่า ขอให้แจ้งทางศูนย์กู้ภัย หรือแจ้งทางหน่วยงานที่เขามีความสามารถจับสัตว์เลื้อยคลาน จะดีกว่าที่จะไปจับเองอาจทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ ซึ่งงูจงอาง เป็นงูมีพิษ ชนิดเดียวที่ติดอยู่ใน พ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์