ปราจีนบุรี-พบคราบน้ำมันลอยเต็มหน้าประตูระบายน้ำ
ภาพ/ข่าว:มานิตย์ สนับบุญ
ร้องทุกข์ชาวบ้าน! ผวาพบคล้ายคราบน้ำมันลอยเต็มหน้าประตูระบายน้ำ!! หวั่นสิ่งแวดล้อมพัง
เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 21 มิ.ย.63 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดปราจีนบุรี ได้รับการร้องทุกข์จากชาวบ้านได้ส่งภาพถ่ายที่ถ่ายภาพแลดูคล้ายคราบน้ำมันลอย อยู่ในน้ำที่บริเวณหน้าประตูระบายน้ำหมู่บ้านวังวัด ม.4 ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี
หลังจากดูภาพ ผู้สื่อข่าวจึงรีบลงพื้นที่ตรวจสอบ สถานที่บริเวณประตูระบายน้ำดังกล่าว พบคราบสีดำ เกาะตัวเป็นกลุ่มลอยอยู่เหนือผิวน้ำจำนวนหนึ่งจริง ตามภาพที่มีชาวบ้านส่งมาให้ จากการสังเกตพบว่ากลุ่มคราบสีดำที่ลอยอยู่ในน้ำ คล้ายคราบน้ำมันจริง แต่ไม่ทราบว่าเป็นคราบน้ำมันจริงหรือไม่ หรือว่าเป็นคราบตะไคร่น้ำหรือไม่ และยังพบว่ามีคล้ายกับใยแก้วลอยอยู่ในน้ำอีกจำนวนหนึ่ง ผู้สื่อข่าวใช้เฝ้าสังเกตดูพบว่าคราบที่เห็นค่อยๆรวมตัวกันเป็นฝ้าขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆจนเห็นได้ชัดเจน
จากการสอบถามชาวบ้านในพื้นที่ ที่ร้องทุกข์-ส่งภาพถ่ายให้ โดยไม่ขอเปิดเผยชื่อ –นามสกุล บอกว่า “ ตนเองเป็นคนมาพบเห็นกลุ่มคราบสีดำนี้จริง เมื่อช่วงบ่ายวานนี้( 20 มิ.ย.) ขณะที่มาตกปลา ก่อนที่ถ่ายรูป ยืนดูอยู่ด้วยความสนใจ และสงสัย จากนั้นได้ถ่ายรูปไว้ดู
ที่ผ่านมาก่อนหน้า มีการพบเห็นคราบสีดำนี้บ่อยครั้ง แต่ก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ อยากให้ทางผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบช่วยลงมาดูและตรวจสอบว่าคราบสีดำดังกล่าวเป็นคราบอะไรกันแน่? เท่าที่รู้ชาวบ้านรู้ว่าทางผู้นำหมู่บ้านส่วนที่เกี่ยวข้องลงมาดูแล้ว แต่ก็เกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก”
ต่อมา นายเลื่อน บ่อจักรพันธ์ กรรมการลุ่มน้ำปราจีนบุรี อนุกรรมการลุ่มน้ำปราจีนบุรี ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าบริเวณที่พบน้ำสีดำ กล่าวว่า “ ส่วนตัวคิดว่าไม่น่าจะเกิดจากคราบน้ำมัน แต่คาดว่าน่าจะเกิดจากธรรมชาติ เช่นเกิดจากกลุ่มตะกอนอื่นๆ ตะไคร่น้ำ แพลนตอน ก็อาจเป็นได้ เพราะช่วงนี้สภาพน้ำแห้งขอดเพราะฝนไม่ได้ตกลงมาเพิ่มเติม แต่มีบ้างเล็กน้อยที่ฝนตกลงมา”
ผู้สื่อข่าวได้ประสานไปยังนายวัลลภ ประวัติวงค์ นอภ.กบินทร์บุรี นอภ.กล่าวว่า “ได้สั่งการให้ปลัดอำเภอลงพื้นที่ตรวจสอบร่วมกับส่วนเกี่ยวข้องในเบื้องต้นแล้ว ทั้งนี้ ให้รายงานให้ตนทราบในทันที เพื่อที่จะได้รายงานให้ ผวจ.ปราจีนบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ และ จะได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและแก้ไขคราบน้ำสีดำที่ชาวบ้านพบต่อไป
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/