ปราจีนบุรี-หนุ่มสาวฉันทนาใช้ถนน สาย 304 กบินทร์บุรี-นครราชสีมา

ภาพ/ข่าว:มานิตย์ สนับบุญ

                   ถนนเสี่ยงภัย! สาย 304 กบินทร์บุรี –นครราชสีมา ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี พบหนุ่มสาวฉันทนา เดินทางกลับเข้าที่ทำงานจากอิสานเข้าโรงงานภาคตะวันออก-กลาง หนาแน่นตลอดทั้งคืนพบในอุโมงค์เชื่อมระหว่างอุทยานทับลานกับเขาใหญ่รถวิ่งฉิว ขณะแม่ค้าผลไม้-ของฝากริมทางขายของดีรายได้มากกว่า 10,000 บาท เศรษฐกิจกระเตื้องในพริบตา! หลังจากก่อนหน้าชะงักจากภัยโควิด-19

                 เมื่อเวลา 00.30 น.วันนี้ 7 ก.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศการเดินทางกลับที่ทำงานจากภาคอิสานเข้าสู่ภาคตะวันออก-ภาคกลาง บนถนนสายเสี่ยงภัยสาย 304 (กบินทร์บุรี –นครราชสีมา) โดยเฉพาะช่วงผ่านบนภูเขา ที่ผ่านระหว่างอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กับ อุทยานแห่งชาติทับลานมรดกโลก ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ที่มักเกิดอุบัติเหตุรุนแรงทุก ๆ ปี พบตลอดทั้งคืนประชาชนจากภาคตะวันออก ,ภาคกลางส่วนใหญ่เป็นหนุ่มสาวย่านนิคมอุตสาหกรรม พากันใช้ช่วงกลางคืน ที่สภาพอากาศเย็นสบาย เร่งเดินทางกลับตลอดทั้งคืนกลางดึก
                 สภาพการจราจรหนาแน่น ชะลอตัวเป็นระยะ ๆ พบปริมาณรถสะสมหนาแน่นบนภูเขา ที่ผ่านระหว่างอุทยานฯ ตั้งแต่หมู่บ้านซับบอน – กม.80 – กม.216 ถึง กม. 221 อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา รอยต่อกับ ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี วิ่งเรียงแถวลงจากภูเขา 3ช่องจราจร ส่วนขาขึ้นให้รถวิ่ง 1 ช่องจราจร รถวิ่งเรียงแถวต่อคันยาวเหยียด ถึงพื้นราบด้านล่างสุดลูกหูลูกตา เป็นระยะทางไกลมากกว่า 30 กม. จาก อ.นาดี ต่อเนื่องมาไกลถึงสี่แยกไฟแดงบ้านโคกอุดม ต.หนองกี่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี
               โดยสภาพการจราจรขณะช่วงเข้าเขตอุทยานฯมรดกโลก ตั้งแต่ผ่านอุโมงค์แห่งแรกในประเทศไทยที่เชื่อมระหว่างอุทยานแห่งชาติทับลานกับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มรดกโลกเพื่อให้สัตว์ป่าเดินผ่านด้านบน ยวดยานวิ่งด้านล้างในอุโมงค์ระยะทางไกลกว่า 3 กม.เศษ พบรถสามารถวิ่งผ่านใช้ความเร็วได้ปกติ แม้จะปริมาณหนาแน่น ซึ่งก่อนหน้านี้ ครม.ได้ให้มีการขยายผิวการจราจรจาก 2 เลนเพิ่มเป็น 4 เลน พร้อมมีสะพานยกระดับให้สัตว์ป่าเดินลอดผ่าน และสร้างอุโมงค์เชื่อมระหว่างอุทยานฯ ทุ่มงบประมาณกว่า 10,000ล้านบาท เชื่อมระหว่างรอยต่อ จ.นครราชสีมา กับ จ.ปราจีนบุรีในการขนส่งสินค้าอุตสาหกรรม ,เพิ่มความปลอดภัยการเดินทาง และให้สัตว์ป่าสามารถข้ามไป-มา ตลอดผืนป่าดงพญาเย็นมรดกโลก  จากที่ผู้คนเดินทางกลับที่ทำงานหนาแน่น พบร้านอาหาร –เครื่องดื่มและร้านจำหน่ายผลไม้ ริมถนนพากันเปิดบริการตลอดทั้งคืนพบต่างขายดิบขายดีกว่าวันปกติสร้างเศรษฐกิจ-รายได้ท้องถิ่นกระเตื้องในพริบตา หลังจากก่อนหน้าชะงักงัน จากภัยสถานการณ์โควิด-19 ที่แพร่ระบาด
                  นางสาวเทียมจันทร์ พันธุ์สะอาดอายุ 50 ปี ชาวบ้านบ้านทุ่งแฝก กล่าวว่า “นำผลไม้จากสวนมาจำหน่ายบริการคนเดินทางเทศกาลเข้าพรรษา พบในวันเดินทางกลับที่ทำงานต่างแวะซื้อผลไม้ต่าง ๆ ทั้งกระท้อน,สละ,ลองกอง,หน่อไม้ไผ่ตงหวาน ขายดีมาก ปกติจะขายได้วันละเพียงกว่า 500 บาท วันนี้ขายได้รวมเงินมากกว่า 5,000 บาท” นางสาวเทียมจันทร์ กล่าว

                  ขณะที่ น.ส ฤทัยพัฒน์ อายุ33 ปี ต.ทุ่งโพธิ์ อ.นาดี แม่ค้าขายต้นดอกกล้วยไม้ ,ผลไม้ต่าง ๆ และของฝาก กล่าวว่า ในวันที่ผู้คนเดินทางกลับที่ทำงาน พบสินค้าขายดีมาก ปกติขายได้วันละ4,000 – 5,000บาท ในวันนี้ ขายดีมากขายได้รวมถึง 10,000 กว่าบาท ” น.ส. ฤทัยพัฒน์ กล่าวในที่สุด

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/