อุดรธานี-เกาะติดห้องนักสืบ ย้อนคดี“บิ๊กยง”นำทีมไล่ล่าแก๊งปล้นทอง
ภาพ/ข่าว:พฤตินัย มั่งสวัสดิ์
ทีมข่าวภูมิภาคอุดรธานี – ขอนแก่น – บึงกาฬ
“บิ๊กยง” นำทีมยอดนักสืบมือพระกาฬ ภาค 4 ไล่ล่าดวลปืนจับตาย แก๊งปล้นทองบึงกาฬ “สารวัตร นิกกี้ “ เป่าดิ้นสิ้นชื่อที่ขอนแก่น
เรื่องราวของโจรปล้นทอง น้อยรายนักที่จะหนีรอดเงื้อมมือกฎหมายไปใช้ชีวิตอย่างมีความสุข กับการขายทองที่ปล้นมาแต่ก็ยังมีคนคิดสั้น วางแผนปล้นร้านทองอยู่เรื่อยมา และอีกปัจจัยที่ทำให้คนคิดเป็นโจรปล้นทอง คือราคาทองสูงพุ่งพรวด จนโจรอด คิดชั่วไม่ได้ รายงานพิเศษเรื่องนี้ อยากให้ทุกท่านได้รับรู้ถึงการทุ่มเทการทำงานของนักสืบ หรือตำรวจชุดสืบสวน ที่ทุ่มเทกัดไม่ปล่อย ตั้งแต่วินาทีแรกที่รับแจ้งเหตุ เข้าสืบสวนหาพยานหลักฐาน ติดตามไล่ล่าจับกุมแก๊งปล้นทอง จนถึงที่สุด เป้าหมายสุดท้ายคือหัวหน้าแก๊งปล้น ที่ยังหนีลอยนวล พร้อมทองทำจำนวนมาก
เรื่องเล่า นาทีดวลปืนจับตาย หัวโจกแก๊งปล้นร้านทอง ที่บึงกาฬ ก่อนหลบหนีไปสิ้นชื่อจากเงื้อมมือของทีมนักสืบระดับพระกาฬ ภายใต้การนำของบิ๊กยง พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ รอง ผบช.ภ.4 และว่าที่ ผบช.ภ.4 คนใหม่ ที่ จ.ขอนแก่น เรียกว่ากรรมตามสนอง ที่ต้องรนมาหาที่ตาย จากกฏแห่งกรรมที่ทำมา ความโลภของโจร คงเป็นเพราะ ราคาทองคำที่พุ่งทะลุบาทละ 3 หมื่น เป็นแรงจูงใจต่อสายตาของเหล่ามิจฉาชีพต่างพากัน เพ่งมองไปที่ร้านขายทอง ชนิดตาเป็นมันวาว ร้านขายทองที่อยู่ห่างจากสายตาผู้คน ก็เป็นหนึ่งในเป้าหมาย แต่อีกเป้าหมายคือ ร้านทองที่อยู่ภายในห้างสรรพสินค้า ที่มีระบบการป้องกันอย่างดี แต่ก็มักจะมีช่องโหว่ให้คนร้ายฉวยโอกาสลงมือก่อเหตุได้เสมอ คงเป็นเพราะทำเลที่เข้าถึงง่าย หลบหนีได้ง่าย
ย้อนไปเมื่อเวลาประมาณ 19.30 น. ของวันที่ 31 ก.ค.63 ศูนย์วิทยุ 191 สภ.เมืองบึงกาฬ รับแจ้งว่ามีเหตุร้ายเหตุชิงทรัพย์ร้านทองภายในห้างเทสโก้โลตัส บึงกาฬ บนถนนหลวงสาย 212 บึงกาฬ – นครพนม อยู่ใกล้บริเวณสี่แยกสัญญาณไฟแดง บึงกาฬ ต.บึงกาฬ อ.เมือง จ.บึงกาฬ ไม่ห่างจากโรงพักเมืองบึงกาฬมากนักหลังรับแจ้งเหตุ จึงมีการรายงานเหตุด่วนเหตุร้ายไปยัง พล.ต.ต.พลัฏฐ์ วิเศษสิงห์ ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ ได้รับทราบทันที และพร้อมด้วย พ.ต.อ.สุกฤษณ์ ข้อร่วมคิด ผกก.สส.ภ.จว.บึงกาฬ ,พ.ต.อ.ชนินทร์ จิตรแจ้ง ผกก.สภ.เมืองบึงกาฬ นายธีระพล ขุนพานเพลิง นายอำเภอเมืองบึงกาฬ ,พ.อ.ยรรยง แสงฮาด รอง.ผอ.รมน., พ.ต.ท.จรูญศักดิ์ ลำพุทธา รอง ผกก.สส., พ.ต.ท.อดุลย์ ฉิมทับ รอง ผกก.ป. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ เรียกว่ายกกันไปทั้ง ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง เพื่อจะออกไล่ล่าโจรปล้นทอง
ที่เกิดเหตุคือ ร้านทองเยาวราช กรุงเทพ มีพนักงานขายของร้านทอง เป็นหญิงสาวประมาณ 5 คน อยู่ในอาการหวาดกลัวตัวสั่น ขวัญหาย เจ้าหน้าที่ตำรวจรีบเรียกพนักงานขายสาวคนหนึ่งมาให้การเล่าให้การทันที เวลาประมาณ 19.30 น. มีคนร้ายเป็นชายรูปร่างผอม สูงประมาณ 170-175 ซม. , สวมเสื้อยึดแขนยาวคอกลมสีเทา สวมกางเกงขายาวสีเข้มออกดำ และสวมรองเท้าผ้าใบสีขาวหม่น ที่ศีรษะสวมหมวกแก๊ปสีโทนเหลือง สะพายกระเป๋าสีดำ สวมหน้ากากอนามัยปิดใบหน้า ยืนและเดินวนเวียนไปมา เหมือนกับรอใคร ก่อนจะรอจังหวะปลอดคน ช่วงใกล้เวลาห้างจะปิด ก่อนจะลงมือบุกเข้าไปชิงทรัพย์สร้อยทองรูปพรรณทันที โดยก่อนที่คนร้ายจะตรงเข้ามาที่ร้านทอง ก็ทำทีเดินคุยโทรศัพท์ไปมาผ่านหน้าร้านหลายครั้ง จากนั้นเมื่อสบโอกาสก็เดินดุ่มๆ เข้ามาในร้านก่อนชักปืนออกมาจากกระเป๋าส่ายไปมาขู่ให้ทุกคนหมอบลง จากนั้นปีนข้ามตู้โชว์ทองเข้ามากวาดเอาทองรูปพรรณที่โชว์ในตู้ใส่กระเป๋าสะพาย เป็นสร้อยข้อมือและสร้อยคอ น้ำหนักประมาณกว่า 90 บาท มูลค่าราว 2.7 ล้านบาท
คนร้ายหลบหนีขึ้นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นเวฟ สีน้ำเงิน ไม่มีทะเบียน ไปตามถนนสาย 222 บึงกาฬ-พังโคน และทำหมวกแก๊ปสีเหลืองหล่นบริเวณ หน้าปากทางเข้าหมู่บ้านมาสเตอร์ หลังเกิดเหตุไม่ถึง 4 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พรเจริญ สามารถจับกุมคนร้ายได้ขณะตั้งด่านสกัดจับตามแผน เค้นสอบจนทราบชื่อคือ นายเฉลิมพงศ์ เพชรตะกั่ว หรือ เสือ เปิดปากรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนจี้ชิงทองจริง แต่ทองคำทั้งหมดอยู่กับเพื่อนรุ่นพี่ที่เป็นผู้ร่วมก่อเหตุด้วย โดยเป็นผู้มาดูลาดเลาและดูต้นทาง พอก่อเหตุเสร็จตนได้รับเงินค่าจ้างมา 1,500 บาท โดยบอกว่าจะเอาทองไปขายที่จ.ปทุมธานี แล้วจะโอนเงินมาให้หลังขายทองได้ มีการตรวจยึดเสื้อผ้าชุดจี้ชิงทองที่ถูกถอดทิ้งบริเวณบ้านหนองนาแซง รองเท้าผ้าใบสีขาว หน้ากากสีดำ เสื้อยืดแขนยาวสีเทาและกางเกงวอร์มสีดำ ก็ยึดได้หมด ปืนเป็นปืนเด็กเล่นก่อเหตุเสร็จก็โยนทิ้งไป ระหว่างหลบหนี
หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ รอง ผบช.ภ.4 นำทีมนักสืบระดับพระกาฬลงพื้นที่ทันที ประกอบด้วย พ.ต.อ.ณัฐนนท์ ประชุม รอง ผบก.สส.ภ.4 (ว่าที่ผู้การคนใหม่) พ.ต.อ.กิตติพงษ์ จิตรคาม ผกก.สส.ภ.4 , พ.ต.อ.ชาญณรงค์ มากพิสุทธิ์ ผกก.สส.ภ.4 ,พ.ต.ท.สมภพ กองสมบัติ รอง ผกก.ฯ ,พ.ต.ท.ณัฐนนท์ มุงคำภา รอง ผกก.ฯ ,พ.ต.ต.ประวีณ วงษ์ปัญญา สว.สส.ฯ ,พ.ต.ต.หญิงทัศนาวดี หินพรหม สว.สส.ฯ ชุดสืบสวนได้เบาะแสหัวหน้าแก๊งที่วางแผนก่อเหตุและนำทองทั้งหมดไปคือนายรังสรรค์ วิเศษดินทอง อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38 หมู่ 8 ต.บัวใหญ่ อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา
ชุดสืบสวนรายงานให้ พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ รอง ผบช.ภ.4 ทราบทุกการเคลื่อนไหวของคนร้าย โดยล่าสุดจากการแกะรอยนายรังสรรค์พบว่าหลบหนีมากบดานอยู่ใน จ.ขอนแก่น คนร้ายหอพัก แห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ชุดสืบสวนภาค 4 ทั้งหมดออกติดตามทันที จนพบตัวขณะขี่รถจยย.อยู่บริเวณซอยศรีมารัฐ 16 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น จึงสะกดรอยติดตามมาจนถึงบริเวณข้างร.พ.กรุงเทพ ขอนแก่น
ชุดแรกที่มาถึงคือทีมของ พ.ต.อ.ณัฐนนท์ ประชุม รอง ผบก.ฯ ,พ.ต.อ.ชาญณรงค์ มากพิสุทธิ์ ผกก.ฯ ,พ.ต.ต.ประวีณ วงษ์ปัญญา สว.สส.ฯ ,พ.ต.ต.หญิงทัศนาวดี หินพรหม สว.สส.ฯ พร้อมแสดงตัวเข้าจับกุม แต่นายรังสรรค์กลับชักปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่เพื่อหวังหลบหนีจนเกิดการดวลปืนกันเสียดังสนั่นเกือบ 10 นัด หลังสิ้นเสียงปืน นายรังสรรค์ถูกกระสุนปืนของตำรวจเข้าบริเวณศีรษะทรุดลงกับพื้น ตำรวจรีบเข้าช่วยเหลือนำตัวส่งโรงพยาบาลขอนแก่น ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา ในเหตุการณ์นี้ มีสารวัตรมือปราบ “สารวัตรนิกกี้” ถูกยิงบาดเจ็บด้วยเช่นกัน ในที่เกิดเหตุพบของกลางเป็นทองรูปพรรณจำนวนมากอยู่ในกระเป๋าคาดเอวสีดำตกอยู่ใกล้ผู้ต้องหา พร้อมอาวุธปืน 1 กระบอก
ทันที่มีเหตุจับตายโจรปล้นร้านทอง พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.พร้อมด้วย พล.ต.ท.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผบช.ภาค 4 ,พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ รอง ผบช.ภ.4 , พล.ต.ต.พุฒิพงศ์ มุสิกุล ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น ร่วมตรวจสอบหลักฐานที่พบ พร้อมสอบปาก คำ น.ส.ศศิธร อุดมลาภ อายุ 25 ปี ชาว ต.ค้อใต้ อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร ภรรยาของนายรังสรรค์ซึ่ง เป็น 1 ใน 3 ของแก๊งคนร้าย เพื่อรวบรวมหลักฐานในการดำเนินคดี
คิดว่าเก่ง วางแผนดี ปล้นแล้วจะรอด เลิกคิด ทุกวันนี้ตำรวจไทยเก่งไม่แพ้ชาติใดในโลก โดยเฉพาะทีมนักสืบระดับพระกาฬ หรือนักสืบดรีมทีม ยุค “บิ๊กยง” ว่าที่ พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ และว่าที่ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/
