เชียงใหม่-รมว.กระทรวงการอุดมศึกษาฯ ติดตามโครงการจ้างงานปชช.
ภาพ/ข่าว:ศูนย์ข่าวเฉพาะกิจจังหวีดเชียงใหม่,พยุงศักดิ์ เทพแก้ว
,สุดาภรณ์ อินต๊ะธรรม
ขอบคุณข้อมูล:สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่
รมว.กระทรวงการอุดมศึกษาฯ ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ติดตามโครงการจ้างงานประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 พร้อมวางแผนอาชีพให้ชุมชนรับวิถีใหม่
วันนี้ (30 ส.ค. 63) ที่ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ศูนย์แม่ริม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พร้อมคณะ เป็นประธานในการประชุมหารือร่วมกับผู้บริหารมหาวิทยาลัย 18 แห่งในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน พร้อมลงพื้นที่ตรวจติดตามผลการดำเนินงานโครงการ อว. จ้างงานประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 (COVD-19) ในระยะที่ 1 และ ระยะที่ 2
สำหรับโครงการ อว.จ้างงานประชาชนที่ได้รับผลกระทบจาก โควิด – 19 เป็นโครงการที่จัดขึ้นเพื่อรองรับผู้ว่างงานจากสถานการณ์ COVD-19 เป็นการเสริมศักยภาพให้กับกำลังแรงงานสมัยใหม่และส่งเสริมพัฒนาทักษะการทำงานในด้านต่างๆ ให้แก่แรงงาน โดยได้ดำเนินการจ้างงานให้กับแรงงานในพื้นที่ 25 อำเภอของจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดแม่ฮ่องสอน ระยะที่ 1 จำนวน 70 คน และระยะที่ 2 จำนวน 192 คน โดยได้ให้ผู้ได้รับการจ้างงานเก็บรวบรวมข้อมูลและจัดทำฐานข้อมูล เพื่อเป็นประโยชน์ต่อชุมชนในการแก้ปัญหาด้านต่างๆ ตลอดจนวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อใช้ในการจัดทำแผนในการส่งเสริมและพัฒนาผลกระทบที่เกิดในชุมชน ได้แก่ แผนการส่งเสริมด้านการอนุรักษ์ทรัพยากร การส่งเสริมอาชีพ การส่งเสริมด้านการเกษตร การส่งเสริมสุขภาพและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งยังมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ชุมชน ซึ่งผู้รับจ้างงานจะมีส่วนช่วยสนับสนุนการดำเนินงานวิจัยของอาจารย์ผู้ควบคุมในการแก้ปัญหาของชุมชน ซึ่งถือว่าได้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจ เพราะข้อมูลที่ได้จากการลงพื้นที่เป้าหมาย 25 อำเภอโดยใช้แบบสอบถามและการสัมภาษณ์ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด – 19 แล้ว ทำให้องค์การบริหารส่วนตำบล หน่วยงานการศึกษา หน่วยงานภาครัฐ มีฐานข้อมูลเพื่อใช้วางแผนพัฒนาอาชีพให้กับชุมชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ตรงกับความต้องการของกลุ่มผู้บริโภควิถีใหม่
นอกจากนี้แล้ว ยังมีการสำรวจเก็บข้อมูลในงานฐานทรัพยากรท้องถิ่นตามรูปแบบของโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารีฯ (อพ.สธ.) ใน 41 พื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่และแม่ฮ่องสอน ซึ่งจะทำให้ได้ข้อมูลงานฐานทรัพยากรท้องถิ่นที่เป็นประโยชน์ในการต่อยอดงาน อพ.สธ. และยังได้ฐานข้อมูลทรัพยากรท้องถิ่นที่สำคัญสำหรับการต่อยอดเป็นศูนย์ข้อมูลงานฐานทรัพยากรท้องถิ่นระดับตำบล อันจะนำไปสู่การสร้างและพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวชุมชนในอนาคต ตลอดจนในเรื่องของการส่งเสริมสุขภาพด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม โดยการให้ผู้รับจ้างงานเข้าร่วมงานกับโรงพยาบาลสุขภาพประจำตำบล (รพสต.) ตลอดจนการส่งเสริมอาชีพหลังวิกฤตโควิด-19 ที่เหมาะสมกับบริบทของชุมชน อาทิ ชุมชนในอำเภอแม่แตงและอำเภอฝาง ซึ่งบางชุมชนมีขยะเหลือทิ้งจากการเกษตรเป็นจำนวนมาก ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยอาจารย์ผู้ควบคุมพื้นที่ได้ถ่ายทอดความรู้ให้แก่ผู้รับจ้างงานซึ่งเป็นบัณฑิตจบใหม่ที่มีความรู้ทางด้านวิศวกรรมเพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ในการแปรรูปและใช้เป็นพล้งงานทดแทนเพื่อใช้ในชุมชนและยังสามารถเพิ่มรายได้ให้กับชุมชนอีกด้วย
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/