สุพรรณบุรี-ประภัตรลุยแก้ภัยแล้งสั่งชลประทานปล่อยน้ำช่วยเกษตรกร
ภาพ/ข่าว:มงคล สว่างศรี
ประภัตรลุยแก้ภัยแล้งสั่งชลประทานปล่อยน้ำช่วยเกษตรกรไม่มีน้ำทำนา
รมช.เกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ช่วยเกษตรกร สั่งชลประทานเร่งระบายน้ำเข้า คลองมะขามเฒ่า-อู่ทอง (คลอง มอ.) จ.ชัยนาท จ.สุพรรณบุรี ระยะทางยาว 104 กม.ไม่มีน้ำทำนา เนื่องจากในพื้นที่ปริมาณน้ำฝนมีน้อย ชาวนาที่เริ่มทำการเพราะปลูกข้าวไปแล้วจำนวนมากกำลังขาดน้ำได้รับความเดือดร้อน และนาข้าวอีกหลายแสนไร่ไม่มีน้ำทำนา โดยจะให้ชาวนาช่วงปลายคลองพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี เริ่มสูบก่อนช่วงกลางวัน ตั้งแต่เช้าวันที่ 3 ก.ย.จำนวน 12 ชั่วโมง จากนั้นชาวนา จ.ชัยนาท สูบต่อช่วงกลางคืน 12 ชั่วโมง จะสลับหมุนเวียนกันแบบนี้เพื่อป้องกันการแย่งน้ำกัน
นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายภูสิต สมจิตต์ รอง ผวจ.สุพรรณบุรี นายนที มนตริวัต รอง ผวจ.ชัยนาท นายจิรศักดิ์ ชำนาญภัคดี นายอำเภอสามชุก นายพงษ์ศักดิ์ อัครมณี ผอ.ส่วนบริหารจัดการน้ำและบำรุงรักษา นายยศดนัย น้อยแก้ว ผอ.โครงการชลประทานสุพรรณบุรี นายบุญฤทธิ์ จำปาเงิน ผอ.โครงการส่งน้ำน้ำและบำรุงรักษาสามชุก นายรุ่งธรรม บ่อเกิด ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาดอนเจดีย์ ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และเกษตรกร จ.สุพรรณบุรี จำนวน 6 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เดิมบางนางบวช อ.สามชุก อ.ศรีประจันต์ อ.ดอนเจดีย์ อ.เมืองสุพรรณบุรี และ อ.อู่ทอง บางส่วน กว่า 200 คน ที่ใช้น้ำคอลง มอ. คลองมะขามเฒ่า-อู่ทอง ระยะทาง 104 กม.ประชุมร่วมกันเพื่อหาทางแก้ไขภัยแล้งช่วยเหลือเกษตรกรไม่มีน้ำทำนาจำนวนหลายแสนไร่ ณ ศาลาเอนกประสงค์บ้านดอนไร่ ริมคลองชลประทานมะขามเฒ่า-อู่ทอง อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี
จากนั้นนายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ นำตัวแทนเกษตรกร จ.สุพรรณบุรี กว่า 100 คน ไปดูปริมาณน้ำที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพลเทพ จ.ชัยนาท ซึ่งมีปริมาณน้ำมากพอที่จะระบายเข้าคลอง มอ. ด้าน นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ จึงได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ชลประทานเร่งเปิดประตูเพื่อเร่งระบายน้ำให้เกษตรกรได้ทำนา นอกจากนี้สั่งให้นำรถแบ็คโฮเร่งขุดลอกกำจัดวัชพืชและขุดเนินดินในคลองที่กรีดขวางทางน้ำ เพื่อต้องการให้น้ำไหลได้สะดวกมากขึ้นและให้น้ำได้ไหลไปถึงปลายคลองให้เร็วที่สุด
โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพลเทพ จ.ชัยนาท สามารถระบายน้ำเข้าคลอง มอ.25 (ลูกบาศก์เมตร) ต่อวินาที นอกจากนี้ยังปล่อยเข้าคลอง มก.ที่เป็นคลองคู่ขนาดกับคลอง มอ.อีก 10 (ลูกบาศก์เมตร) ต่อวินาที ส่วนเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ปล่อยน้ำเข้าแม่น้ำท่าจีน 120 (ลูกบาศก์เมตร) ต่อวินาที และปล่อยเข้าแม่น้ำน้อย 120 (ลูกบาศก์เมตร) ต่อวินาที เนื่องจากขณะนี้ปริมาณน้ำจากภาคเหนือมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะให้เกษตรกรช่วงปลายคลอง มอ.ได้เริ่มสูบน้ำช่วงเช้าวันที่ 3 ก.ย.โดยนายภูสิต สมจิตต์ รอง ผวจ.สุพรรณบุรี ได้มีข้อตกลงกับนายนที มนตริวัต รอง ผวจ.ชัยนาท ขอให้เกษตรกรพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี ได้สูบน้ำก่อนในช่วงกลางวันตั้งแต่ 06.00-18.00 น. เป็นเวลา 12 ชั่วโมง
จากนั้นจะให้เกษตรกรพื้นที่ จ.ชัยนาท ได้สูบน้ำเข้าต่อในช่วงกลางคืน 12 ชั่วโมง จะสลับหมุนเวียนกันสูบแบบนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันปัญหาการแย่งน้ำกันทำนา อย่างไรก็ตามของให้เกษตรกรที่ใช้น้ำ คลอง มอ.ทั้ง จ.ชัยนาท และ จ.สุพรรณบุรี ช่วยกันรักษากติกาที่ได้มีการตกลงกันไว้ เพื่อจะได้จัดสรรแบ่งปันน้ำทำนาให้ได้น้ำอย่างทั่วถึงกัน เป็นการป้องกันการขัดแย้งและแย่งน้ำกันระหว่างเกษตรกรเองด้วย ขณะที่เกษตรกรทั้ง 2 จังหวัดต่างมีความหวังที่จะได้สูบน้ำทำนา ได้นำท่อสูบน้ำมาตั้งเป็นช่วงๆ ตลอดแนวคลอง มอ.เพื่อเตรียมสูบน้ำเข้าทำนา
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/