กาญจนบุรี-หนุ่มส่งอาหารอาสาส่งแม่ ลูกน้อยหลังเดินเร่ร่อนไม่มีเงิน

ภาพ/ข่าว:รักษพล พุ่มพฤกษ์

                       โลกโชเชี่ยลสุดประทับใจ แห่ชื่นชมหนุ่มส่งอาหารเดลิเวอรี่ชุดสีเขียวใจหล่อ อาสาหลังเลิกงานส่งแม่ พร้อมลูกน้อย กลางดึกระยะทางเกือบ 30กิโล หลังเดินเร่ร่อนไม่มีรถไม่มีเงิน แถมซื้อข้าวน้ำให้กินประทังความหิว

                     ผู้สื่อข่าวได้เล็งเห็น ความประทับใจจากการให้ความช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ในสังคม ที่ได้สร้างความจดจำ และบันทึกไว้ในหัวใจให้กับผู้คนในสังคมออนไลน์อยู่ในขณะนี้ เมื่อมีผู้ใช้ Facebook : ชายบอย คนนี้ไงล่ะ ซึ่งเป็นพนักงานขับGRAB ได้เล่าเรื่องราวในครั้งนี้ผ่านการโพสต์ข้อความว่า “สองแม่ลูกน้อย ผมไปส่งถึงปลายทางจุดหมายแล้วนะครับ เห็นเดินกันสองแม่ลูกตั้งเเต่ช่วงโรงเเรมริเวอร์​แคว​ แต่ช่วงนั้นติดภารกิจ​ส่งอาหารเลยไม่ได้เข้าไปถาม มาเจออีกทีเดินมาถึงแถวๆอีซุซุ​ เลยเข้าไปถามว่าจะไปไหน? นางตอบจะกลับบ้าน ผมมองหน้าเด็กน้อยเเละถามว่ากินอะไรกันมารึยัง? นางตอบยังคะ ไม่มีเงินติดตัว เอางี้งั้นเดียวผมไปส่งที่บ้านละกัน บ้านอยู่ไหนละ? หนองสามพรานคะ โอเครเดียวผมไปส่งเองแวะซื้อข้าว น้ำให้และพาไปส่งจนถึงปลายทาง เรียบร้อย​ครับ “คนไทยไม่ช่วยกันแล้วจะช่วยใคร”
                      ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ได้ทำการติดต่อผ่านช่องทางแชทFB จนได้พูดคุยกับหนุ่มใจหล่อผู้นี้ เจ้าของโพสต์ดังกล่าว ทราบชื่อก็คือ นายเฉลิมพล มุ่งหมาย หรือบอย อายุ 32 ปี เปิดเผยว่า โดยเมื่อช่วงค่ำที่ผ่าน มา ในขณะที่ตนเองขี่รถจักรยานยนต์ส่งอาหาร ได้พบเห็นแม่ลูกคู่หนึ่งเดินแบบเหมือนคนเร่ร่อนอยู่แถวถนนหน้าโรงแรมริเวอร์แควในเขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี ซึ่งตอนแรกผมก็ได้แค่มองเขาอยู่พักหนึ่งว่าสองแม่ลูกนี้มาเดินทำอะไรกันอยู่แถวนี้ ซึ่งตอนที่ผ่านรอบแรก ผมต้องไปรับออเดอร์ และส่งอาหารให้กับลูกค้า โดยก็จะทำการส่งออเดอร์ให้ลูกค้าเสร็จแล้วก็ว่าจะกลับมาถามสองแม่ลูกนี้กับเหตุการณ์ที่พบเห็น โดยก็ทำงานจนเพลินมีออเดอร์เข้ามามากในช่วงเวลานั้น ซึ่งต่อมาก็มีการรับออเดอร์ลูกค้าแถวสะพานข้ามแม่น้ำแคว และยังได้พบเห็นกับแม่ลูกคู่นี้เดินอยู่แถวบริเวณดังกล่าวใกล้กับจุดที่ผมเข้ามารับออเดอร์ ซึ่งในขณะที่รออาหาร เพื่อส่งลูกค้าก็ได้มีโอกาสพูดคุยกับแม่ลูกคู่นี้ก็เลยถามไปว่า มาทำไรกันทำไมมาเดินอยู่แถวนี้อีก แม่ก็ตอบมาว่า จะกลับบ้านแต่ไม่มีรถไม่มีเงิน บ้านอยู่แถวหนองสามพราน โดยส่วนตัวเกิดความสงสารเมื่อมองหน้าเด็กน้อยก็ได้ถามไปว่ากินข้าวกินปลากันหรือยัง แม่ก็ตอบว่ายังไม่ได้กินเลย ตนก็เลยซื้อข้าวซื้อน้ำให้กินไปก่อน เบื้องต้น ซึ่งตนเองก็รีบไปส่งออเดอร์กับลูกค้าที่สั่งมาล่าสุด และได้บอกกล่าวแม่และเด็กว่า ตนจะอาสาที่จะไปส่งแม่ลูกคู่นี้ให้ถึงบ้าน โดยระหว่างทางก็ได้พบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งก็ได้บอกกล่าวให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรับทราบ
                    แต่ในขณะนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องปฏิบัติหน้าที่ ดูแลความเรียบร้อยในพื้นที่ จึงไม่สามารถที่จะช่วยเหลือในการที่จะไปส่งแม่ลูกคู่นี้ได้ ตนจึงบอกกล่าวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเดี๋ยวผมจัดการไปส่งแม่ลูกคู่นี้เอง ซึ่งระยะทางที่จะไปส่งแม่ลูกคู่นี้ ก็ประมาณ 30 กิโลเมตร โดยเวลาช่วงนั้นก็อยู่เวลาประมาณเกือบ 23.00น. (เบ็ดเสร็จไปส่งแล้วกลับมาถึงที่พักของตนเองก็เกือบตี1) สำหรับปัจจุบันที่มีข่าวการจี้ปล้นมากมายนั้น ส่วนตัวก็มีความรู้สึกกลัว แต่ก็มีความสงสารเขา ปล่อยให้เขาเดินไปก็มีความลำบาก สำหรับสังคมในปัจจุบันยังไงเวลาเจอคนตกทุกข์ได้ยาก ก็อยากจะให้ช่วยเหลือกัน เพราะว่าเขาก็ลำบาก โดยตัวผมเองก็เคยลำบากมาก
                    ด้านเพื่อนร่วมงานนายอำนาจ วาจาอ่อน หรือโจ๊ก เสียงเหน่อ อายุ38 ปี เปิดเผยว่า มีความรู้สึกประทับใจเป็นอย่างมากกับเพื่อนร่วมงานคนนี้ กับการที่ได้ทำความดีในครั้งนี้ ผมรู้สึกดีมากกับงานGRABกาญจนบุรีที่เราได้ทำงานบริการด้วย แล้วก็ขอยกย่องจิตใจของเพื่อนร่วมงานคนนี้ที่ว่าได้ทำเพื่อสังคม ทำด้วยใจจริงในตัวเขาเป็นคนจิตใจดี กับสังคมปัจจุบันก็อยากให้มีน้ำใจให้กันสำหรับทุกคนนะครับ ถือว่าเป็นการช่วยเหลือกัน เพราะว่าช่วงนี้ตอนนี้มันก็ไม่ค่อยดี มีสภาวะหลายๆอย่าง อยากให้คนไทยมีน้ำใจกันทุกคนช่วยเหลือกันดีกว่าครับ เพื่อสังคมที่น่าอยู่กันต่อไป

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/